หลายคนประกาศ ก ร้ า ว ในช่วงหนุ่มสาวว่า ยุคของผัวเดียวเมียเดียวจบไปแล้ว ยุคหลายผัวหลายเมียมาถึงแล้ว
ใครยังรั กษาศีลข้อสามถือว่าเชย ไม่ยอมรับความจริง โลกสวยไม่เข้าท่า สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ส่วนใหญ่คนที่ใช้ชีวิตตามความเชื่อแบบนั้น
มักแ ก่ตัวลงสู่ความเงียบเหงา และความไม่เข้าใจว่าตัวเองผิ ดพลาดอย่ างไร
ทำไมถึง รู้สึกผิดปกติ อยู่เกือบตลอดเวลา ตัดเรื่องความถูกความผิดทิ้ง ตัดเรื่องศีลธรรมออกไป เหลือแต่เรื่องของ
ความรู้สึกทางใจ เราจะพบว่า ใช้ชีวิตอย่ างไรไปนาน ๆ ความรู้สึกทางใจจะเกิดขึ้นตามนั้น
ซึ่งก็วัดได้อย่ างดีว่า อะไรใช่ อะไรไม่ใช่ ถ้ามองเสี ยแต่เนิ่น ๆ
ว่า การใช้ชีวิตคู่ คือการเปลี่ยนแปลงไปสู่ตัวตนที่ดีขึ้น
ชีวิตคู่ก็คือแบบฝึกหัด ที่จะเอาความเห็นแ ก่ตัวออกไป
แล้วเอาความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเข้ามา มีสมาธิ มีโฟกัสอยู่กับคนคนเดียว
กระทั่งเหลือใจเดียว สงบได้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่หลายใจ วอกแวกกับใครบ้างก็ไม่รู้
แต่ถ้าคำว่า ชีวิตคู่ ไม่เคยอยู่ในหัว มีแต่ กลัวจะไม่ได้เปลี่ยนรสชาติ
อันนั้นจะนำไปสู่การไม่มีใจจริงให้ใคร ไม่มีสมาธิที่จะโฟกัสอยู่กับใคร
ไม่พัฒนาความเห็นอกเห็นใจใคร จิตจึงนิ่งไม่เป็น
เห็นแต่ความว้าวุ่นไปกับคาวก ามที่ผิดแผก จึงย ากจะมีความรู้สึกดี ๆ สะอาด ๆ ให้ตัวเอง
คนเราไม่มีทางรู้สึกถูกต้อง จากการทำร้ ายจิตใจคนอื่นไปเรื่อย ๆ
บอกเลิกกับใครต่อใครไปเรื่อย ๆ เพียงเพื่อจะพบว่าเหลือตัวเองอยู่คนเดียว
เป็นคนเดิม คิดแบบเดิม เห็นแ ก่ตัวเท่าเดิ เหมือนชีวิตผ่ านไป ไม่ได้พัฒนาจิตใจขึ้นเลย
จิตดิบอย่ างไรก็ดิบอย่ างนั้น หรือหนักกว่านั้น ไม่เห็นแววสุกสว่างกว่าเคยแม้แต่น้อย
สุดท้ายสิ่งที่นึกว่าเป็นสีสัน เหลือแค่ความฝันที่จับต้องไม่ได้
เป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจไม่ได้ โดยเฉพาะในย ามเบื่อหน่ายความรู้สึก ท า ง เ พ ศ แล้ว
ต้องการความสงบสุขทางใจแล้ว มองไปมองมา ก็เห็นแต่ใจที่ไม่จริงของตัวเอง
จะกวาดตาหาใคร ก็เจอแต่ความรู้สึกที่ผิวเผิน
ผ่ านมาเพื่อจะผ่ านไปทั้งนั้น และเหมือนเหลือเวลาไม่พอ
ที่จะรู้จักกับชีวิตแบบลงหลักปักฐานกับใครเสี ยทีด้วย
ครั้นจะไปบวชก็บวชไม่ลง เพราะรู้ตัวว่าขี้เหงาชนิดสายเกินแก้
ตอนเลือกคู่ คุณอาจไม่ทราบว่าตัวเอง เลือก คู่พัฒนา หรือ คู่เสื่ อมกันแน่ในระยะย าว
แต่การเลือกที่จะรั กษาชีวิตคู่ สุดท้ายแม้ไม่สำเร็จ แม้ล้ มเหลว แม้ต้องแยกทาง
อย่ างน้อยคุณก็ผ่ านแบบฝึกหัดที่จะมีใจเดียว มีใจที่ไม่รู้สึกผิดปกติ
ไม่มี ด วงจิตที่แต กแยกเป็นเ สี่ยง ๆ ไม่ต้องฟุ้งซ่านคิดถึงใครต่อใครในทางต่ำมั่วไปหมด
ขอบคุณที่มา : pankanan