Home ข้อคิดดีๆ “แตงโมครึ่งซีก” เรื่องจริงของชีวิตคู่

“แตงโมครึ่งซีก” เรื่องจริงของชีวิตคู่

4 second read
ปิดความเห็น บน “แตงโมครึ่งซีก” เรื่องจริงของชีวิตคู่
0
346

ชีวิตคู่ของคุณกำลังเป็นเหมือน… “แตงโมครึ่งซีก” อยู่หรือเปล่า

บ่ายวันหนึ่ง… ผมเลิกงานกลับบ้าน ร้อนจนเหงื่อโชก

เปิดตู้เย็นดู พบแตงโมสีแดงแช่เย็นอยู่ครึ่งซีก ดูเย็นฉ่ำน่าอร่อย

ด้วยความหิว และกระหาย จึงคว้าแตงโมออกมากินจนเรียบ

ต่อมา… ภรรย าก็กลับมาถึงบ้าน เข้าบ้านมาก็บ่น “กระหายน้ำ… ร้อนมาก !!”

เธอเปิดตู้เย็น และชะงัก พร้อมถามหาว่า “แตงโมฉันหายไปไหน !!”

ผมบอกเธอว่า “แตงโมซีกนั้นผมกินไปแล้ว” สีหน้าเธอมีแววไม่พอใจอย่ างแรง

เธอหยิบกระติกน้ำในตู้เย็นขึ้นมา ก็พบว่าในกระติกแห้งสนิท

เธอพูดขึ้นมาทันที “เธอกลับบ้านมาก่อน ทำไมไม่กรอกน้ำเข้าตู้บ้าง มัวทำอะไรอยู่ ?”

ผมฟังแล้วก็รู้สึกโกรธบ้าง จึงตอบโต้กลับไปว่า “แล้วทำไมอะไร ๆ ก็ต้องให้ฉันทำ ?”

เราทั้งสองคนโกรธกัน ไม่คุยกันอยู่เป็นอาทิตย์

 

 

เช้าวันเสา ร์… ผมกลับบ้านคนเดียว กลับไปหาพ่อกับแม่

พอเห็นหน้า พ่อกับแม่ก็ถามว่า “ทำไมไม่เห็นเมตตามาเลยอาทิตย์นี้ ?” (เมตตาคือชื่อภรรย าผม)

ผมเล่าเรื่องที่โกรธกันให้ฟัง แม่ฟังแล้วตำหนิผม

“ทำอะไรไม่ควรห่วงแต่ตัวเอง ควรใส่ใจคนอื่นบ้าง”

ผมไม่เห็นด้วย แค่กินแตงโมไปครึ่งซีก จะอะไรนักหนา

พ่อหัวเราะ “แกไม่ต้องแก้ตัว พรุ่งนี้วันอาทิตย์ พากันมากินข้าวที่นี่นะ”

วันรุ่งขึ้น… ผมพาภรรย าและครอบครัวมาหาพ่อกับแม่

พอเข้าบ้าน พ่อก็ใช้ผมไปซื้อน้ำส้มสายชู

พอผมกลับมา พ่อเห็นผมร้อนเหงื่อท่วมตัว

พ่อก็เลยเอาแตงโมครึ่งซีกมาให้ผม แล้วก็พูดขึ้นว่า

“แกร้อนซะเหงื่อโชก กินแตงโมดับกระหายหน่อยเถอะ”

แตงโมซีกนั้นใหญ่ทีเดียว น่าจะหนักราวกิโล สองกิโลได้

ผมหยิบช้อนแล้วก็ตักกินใหญ่ กินไม่ถึงครึ่งก็พุงกาง

ผมกินไม่หมด ก็เหลือไว้ให้คนอื่นกินด้วย

หลังกินอาหารเที่ยง พ่อเอาแตงโมงอีกซีกออกมาวางบนโต๊ะ

บอกผมว่า “แกดูทีซิว่า มันต่างกันตรงไหน ?”

ผมดูอย่ างละเอียด… ซีกหนึ่งเป็นซีกที่ผมกินไป

ส่วนอีกซีกที่เหลือก็ถูกกินไปด้วย

 

 

พ่อชี้ให้ดูแตงโมแล้วอธิบายว่า…

“ซีกนี้แกกิน อีกซีกนี่เมตตากิน พ่อบอกแกทั้งสองว่า ถ้ากินไม่หมดให้เหลือไว้

ดูสิว่าเมียแกใช้ช้อนกินยังไง เธอเริ่มตักจากตรงกลาง กินไปถึงขอบครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งไม่ถูกแตะต้อง

แล้วดูของแกนี่ แกควักกินเ นื้อตรงกลางจนหมด

เหลือขอบไว้ให้คนอื่น ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเ นื้อแตงโมหวานตรงกลาง ?

จากเรื่องเล็ก ๆ เรื่องนี้ ก็เห็นได้ว่าเมตตามีใจใหญ่กว่าแกมาก”

ผมหน้าแดงทันที พ่อพูดอย่ างมีความหมายว่า…

“คนสองคนอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต จะมีเรื่องสำคัญอะไรนัก ? ความรักความใส่ใจระหว่างผัวเมียอยู่ที่ไหน ?”

“มันก็อยู่ในน้ำมันหยดเดียว… ข้าวช้อนเดียว.. น้ำแกงทัพพีเดียว.. คราวก่อนแกโกรธกันเรื่องกินแตงโม

แล้วยังมีข้ออ้างมากมาย ทั้งที่เป็นฝ่ายผิด ถ้าเมตตาเป็นฝ่ายกลับถึงบ้านก่อนรับรองว่า เธอจะต้องเก็บไว้ให้แกครึ่งหนึ่ง”

อย่ าคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กที่ไม่สำคัญ… แต่มันสะท้อนให้เห็นธาตุแท้

แตงโมชิ้นเดียวนั่นแหละให้ความรู้ในการใช้ชีวิตประจำวัน

คน ต่อให้เย็นชาแค่ไหน แกค่อย ๆ ให้ความอบอุ่น มันจะร้อนขึ้นสักวัน

หรือใจ ที่ต่อให้ร้อนเท่าไร แกสาดน้ำเย็นใส่ทีละช้อน..ทีละช้อน สักวันก็จะทำให้เย็นลงโดยสมบูรณ์

คิดดูนะ ถ้าเมตตาเป็นเหมือนแก ทำอะไรไม่เคยใส่ใจ นานวันเข้า แกจะรู้สึกยังไง ?

คำพูดคำเดียวนั้น ปลุกคนตื่นโดยแท้…

 

 

ผมพบในทันใดว่า… รองเท้าที่วางไว้ให้ทุ กวันเมื่อกลับถึงบ้าน

น้ำชาที่ชงไว้ให้… ร่มที่วางหน้าประตูย ามฝนต ก…

ล้วนแล้วแต่เป็นความรักความใส่ใจของเมตตา…

แต่ผมกลับไม่เคยเห็น… ไม่รู้จักเอาใจเขาใส่ใจเรา

คิดแล้วก็ละอายรีบยกชามเกี๊ยวมาให้เมตตา “เธอกินก่อนเถอะ”

เธอหัวเราะ “ไม่ต้องมาทำไก๋ต่อหน้าพ่อกับแม่”

พ่อก็หัวเราะ “ถ้าทำไก๋อย่ างนี้ได้ทั้งชีวิต ก็ถือว่าเป็นสามีที่ดีนะลูก”

ในใจมีรัก ความรักนั้นต้องให้กันและกัน พึงใส่ใจอีกครึ่งของเรา

อย่ าคิดว่าทุ กปัญหาเป็นการหาเรื่องโดยไร้เหตุผล ลองคิดถึงความผิดของตนดู

ใช้ชีวิตธรรมดาของตนให้ดี ใส่ใจคนในครอบครัว อย่ ามัวแต่สนใจเรื่องของคนอื่น

 

ขอบคุณที่มา : ส บ า ย ต า

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In ข้อคิดดีๆ
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …