เมื่อนานมาแล้ว.. ได้มีเรื่องเล่าโบราณเล่าว่า
มีแม ลงวันอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อเอ มันบินออกมาหากินไปเรื่อย ๆ บินไปตามสัญชาตญาณของมัน คือ ตามกลิ่นของอาหารไป
เอบินเข้าไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ที่ล้อมรอบไปด้วยกระจก ในห้องนั้นเต็มไปด้วยอาหารมากมาย เอได้กินจนอิ่มหนำสำราญ
หลังจากอิ่มแล้ว จึงตัดสินใจจะบินออกมา เอมองหาทางออก แต่ด้วยความที่กระจกใส มันมองไม่เห็น
เอก็เลยบินชนกระจก แล้วมันก็ร่วงลงมาตุ๊บ.. หลังจากการบินชนครั้งแรก เอก็กลับมาคิดใหม่ว่า ถ้ามันบินเพิ่มแรงไปอีกสักเท่าตัว
กระจกมันคงจะแต ก แล้วทำให้ผ่ านออกไปได้ เอจึงบินชนแรงขึ้นกว่าเก่า แรงขึ้น แล้วก็แรงขึ้น
แต่มันก็ร่วงลงมาอีก และกระจกก็ยังไม่แต ก เอาวะ ลองอีกครั้ง ครั้งที่สาม มันต้องเพิ่มแรงบินไปอีกสักสี่เท่าตัว
กระจกมันจะต้องแต กแน่ ๆ เอถอยหลังไปตั้งหลัก เพิ่มแรงเข้าไปอีก แล้วก็ชนกระจก.. ไม่แต ก
เอร่วงลงมาอีกเหมือนเดิม ครั้งนี้มันเริ่มร้องโอ้ย ๆ ด้วยความตั้งใจของเอ ที่ต้องการจะออกไปให้ได้
จึงคิดว่าจะใช้กำลังแบบสุดแรง เอถอยหลังไปตั้งหลักที่มุมอีกฝั่งของห้อง และบินเต็มที่ชนกระจก ปั๊ก.. ไปทะลุและติ ดอยู่กับกระจก
ติ ดแบบปักแน่น ไม่สามารถหลุดออกไปได้เลย และในขณะนั้นมันก็เหลือบไปเห็นหน้าต่างที่อยู่ติ ดกันอีกบาน
เป็นบานที่เปิดอยู่ สามารถบินออกไปได้อย่ างง่ายดาย ในใจของเอได้แต่คิดว่า ทำไมมันไม่ยอมมอง หรือดูให้ดี ๆ กว่านี้นะ
เปิดตามองให้กว้าง ๆ ก่อน ก็จะเห็นทางออกแล้ว ไม่ต้องเจ็ บตัวและมาติ ดอยู่แบบนี้
นิทานเรื่องนี้สอนอะไรเรา..
เรา ๆ ท่าน ๆ อ่ านมาถึงจุดนี้ก็คงจะคิดว่า ทำไมเจ้าเอถึงคิดไม่ได้
ขณะเดียวกัน บางครั้งการที่เรามองดูคนอื่นแก้ปัญหา เราก็จะเห็นทางออกของเขา
แต่ถ้าปัญหามันมาเกิดกับเราเอง เราก็อาจจะเป็นแบบเจ้าเอก็เป็นได้
ถ้าเปรียบเทียบกับชีวิต การทำงาน เริ่มต้น เราออกแรงทำงานหาเงิ นมาเลี้ยงดูตัวเอง
พอนานวันเข้า เราก็เริ่มติ ดกับดั กทางการเงิ นมากขึ้น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากขึ้น
อย ากมีบ้าน มีรถ แรก ๆ ก็อาจผ่อนไหว แต่พอนาน ๆ ไป อย ากมีรถเพิ่มอีกคัน มีโทรศัพท์เครื่องใหม่
ไปเที่ยวต่างประเทศ ซื้อของแพง ๆ ใช้ เราก็จะเริ่มติ ดกับดั กทางการเงิ นที่เรามองไม่เห็น เหมือนเจ้าเอที่บินชนกระจกไปเรื่อย ๆ
เราจะเริ่มมองไม่เห็นทางออกของปัญหา เพราะเราคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่คือเรื่องปกติ
เวลาผ่ านไป ต่อให้เราออกแรงมากขึ้น รายได้ของเรามันก็เท่าเดิม แต่รายจ่ายเยอะขึ้น
แบบนี้ก็วนเวียนอยู่แต่ กับการทำงานหาเงิ นมาใช้ห นี้ ให้จบไปเป็นงวด ๆ ถ้าวันนี้เรายอมรับเปิดใจ มองดูหลาย ๆ ด้าน
มองให้เห็นปัญหาทางการเ งิน ว่าแท้จริงแล้วเราควรประหยัดในสิ่งไหน และใช้จ่ายไปกับสิ่งไหน
ขอบคุณที่มา : feelingdd