1. อย ากให้ลูกสบายเป็นผลทำร้ ายลูกโดยไม่รู้ตัว การมีพี่เลี้ยงไว้คอยดูแลลูกน้อย
เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่อันเหนื่อยหนักของพ่อแม่ โดยไม่ยอมสอนลูกให้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง
จนลูกไม่สามารถทำอะไรเป็นได้ เมื่อเติบโตขึ้นในสังคม เช่น เริ่มต้นเข้าโรงเรียน
ก็จะกลายเป็นภาระให้กับบุคคลรอบข้างที่ต้องคอยช่วยเหลือ
2. ปกป้องลูกมากเกินไป เพราะความกังวลเกรงว่าจะเกิดอั นตรายกับลูกรัก
จึงไม่หาโอกาสพาลูกออกไปเปิดประสบการณ์ต่อโลกภายนอก และจำกัดที่ทางให้ลูกอยู่ภายใน comfort zone
ยอมให้ลูกนั่งดูทีวี เปิดยูทูป เล่นเกมในไอแพด ซึ่งเป็นการปิดโอกาสให้เ ด็กเรียนรู้กับสังคมภายนอก
และไม่รู้จักกับการแยกแยะความแต กต่างระหว่างคนดีกับคนไม่ดี ข าดการสังเกตและเรียนรู้
3. มีเทคโนโลยีครอบงำ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่ างการใช้สมาร์ทโฟน แทปเล็ต
ได้กลายมาเป็นสื่อที่มีบทบาทกับเด็ ก ๆ ตั้งแต่ตัวเล็กในยุคดิจิตอล และมีอิทธิพลมากขึ้นกว่าในสมัยก่อน
ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ หลายราคาที่จับต้องได้ ทำให้พ่อแม่ยุคใหม่หยิบยื่นให้ลูกใช้ง่าย ๆ
ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควร และไม่พ ย า ย า มปฏิเสธหรือเบี่ยงเบนความสนใจให้ลูกไปทำกิจกร รมอย่ างอื่น
4. การใช้ชีวิตติ ดรูปแบบจากอิทธิพลของสื่อ ด้วยเทคโนโลยีที่เข้าถึงอย่ างรวดเร็ว
และมีการนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดูสวยหรูผ่ านสื่อทุ กช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หรือสื่อออนไลน์
อย่ างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ มีการโชว์และแชร์ถ่ายภาพ อ วดของหรู ชูของสวย
ด้วยอิทธิพลของสื่อเองและการเลี้ยงลูกแบบตามใจมาก่อน ทำให้เด็ กเกิดความอ ย า กได้อ ย า กมีตามกระแสสังคม
5. ไม่ยอมปล่อยให้ลูกลำบาก เพราะพ่อแม่เคยลำบากมาก่อน เพราะไม่อ ย า กให้ลูกมีชีวิตเหมือนที่ตนเองเคยเป็นมาก่อน
พอฐานะดีขึ้นจึงส่งเสริมและเลี้ยงลูกด้วยวัตถุ เ งิ น ท อง ฯลฯ เหล่านี้จะทำให้เด็ กกลายเป็นคนข าดความอดทน
ไม่มีความมั่นคงในจิตใจ อ่อนแอ และแข็งกระด้าง
ขอบคุณที่มา : parinyacheewit