1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่ า เป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดาอย่ า เป็นคนสำคัญเวลามีอะไรเกิดขึ้น
กับเราอย่ า ไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากอย่ า ปล่อยให้จิตใจวนไปวนมากับความรู้สึกของตัวเองเหมือนจ ม
อยู่ในอ่างลองเปิดตามองไปรอบๆ แล้วมองให้เห็นว่าคนบนโลกนี้มีมากมาย แค่ไหนตัวเราไม่ได้เป็นศูนย์กลาง
ของโลกดังนั้นก็อย่ า ไปให้ความสำคัญกับมันมากนักทุ กข์บ้าง ผิดบ้าง เรื่องธรรมดา
2. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบาย ๆ
หมายความว่า อย่ า ไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริงมีแต่คนโ ง่ เท่านั้น
ที่มองว่าความสมบูรณ์แบบมีจริงไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามหัดเว้นที่ว่างไว้ให้ความผิ ดพลาดบ้างทุ กอย่ า งไม่
จำเป็นต้องไร้ที่ติการ ผิ ด บ้างถูกบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตเพียงแต่เราต้องรู้จักปรับปรุงตนเองไม่ให้
ผิ ดพลาดบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ
3. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไร ๆ ก็ผ่ านไปเสมอ
หมายความว่า เวลามีความสุขก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความสุขมันก็ผ่ านไปเวลามีความทุ กข์ ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยว
ความทุ กข์ก็ผ่ านไปเวลามีสถานการณ์แ ย่ ๆ เกิดขึ้นก็ให้รู้ทันว่าเรื่องราวเหล่านี้มันไม่ได้อยู่กับเราจน
วันจากโลกนี้ไปดังนั้นอย่ า ไปเสี ยเวลาคิดมาก อย่ า ไปย้ำคิดย้ำทำอย่ า ไปหลงยึดไว้เกินความ
จำเป็นให้รู้จักธรรมชาติของมันการยึดติ ดกับวัตถุบุคคล หรือความรู้สึกจนเกินเหตุคือปัจจัยสำคัญ
อันดับต้นๆ ที่ทำให้คนเราเกิดความทุ กข์ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้และต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนปล่อย
วางอะไรง่าย ๆ เข้าไว้
4. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม
หมายความว่าการสะสมอะไรสักอย่ า งนั้นเป็นภาระไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี
นอกนั้นล้วนเป็นภาระ ทั้งหมดไม่มากก็น้อยในแง่ของความสุข เราไม่จำเป็นต้องสะสมอะไรเพื่อให้มีความสุข
วิ ธีมีความสุขของคนเรามีมากมายหลายอย่ า ง และเราไม่ควรเลือกวิ ธีที่สร้างภาระให้กับตนเอง
5. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่ง ๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดี ๆ
หมายความว่าถ้าอะไรไม่ดีก็อย่ า ไปพูดมาก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดแต่ถ้ามันไม่ดีเป็นไปได้ก็ไม่ต้อง
พูดเพราะการพูดหรือวิ จ า ร ณ์ ในทางเสี ยหายนั้นมีแต่ทำให้จิตใจตนเองต กต่ำและขุ่นมัวคนที่พูดจาไม่ดี
แม้ว่าคำพูดจะดูฉลาดหลัก แ ห ล ม เพียงไรมันก็คือความโ ง่ ชนิดหนึ่งคนที่พูดแต่เรื่องไม่ดีของคนอื่นนับ
เป็นคนหาความสุขได้ย า กนัก
6. ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา
หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอนดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า
“เรามาถูกทางแล้ว” แปลว่าเรายังมีตัวตนอยู่บนโลกคนที่ชอบเต้น แ ร้ ง เต้นกากับคำนินทาก็คือคน
ไม่รู้เท่าทันโลกแม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูกคนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่นับประสาอะไรกับคนอื่น
ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ค่อยมาคิดว่าเราจะไม่ถูกนินทาขอให้รู้ว่า คำนินทา
คือของคู่กับมนุษย์โลกมีมาช้านานแล้วแม้แต่คนที่สร้างคุณงามความดีไว้กับโลกมากมายยังถูกนินทา
แล้วเราเป็นใครจะไม่ถูกนินทาดังนั้น อย่ า ไปใส่ใจให้มากถ้าอะไรที่ดีเก็บไว้ปรับปรุงตัวอะไรที่ไม่ดี
ทิ้งมันไว้ไม่ต้องไปตีคราคาสร้างค่าให้คำพูดไร้ส าระส่วนตัวเราเองก็สมควรอย่ า งยิ่งที่จะต้องฝึก
ตนเองให้เป็นผู้ไม่นินทาคนอื่นเช่นกัน
ขอบคุณที่มา : wansukth