Home ข้อคิดดีๆ พ่อแม่ 5 ประเภทที่เหมือนกำลังรังแกลูก

พ่อแม่ 5 ประเภทที่เหมือนกำลังรังแกลูก

4 second read
ปิดความเห็น บน พ่อแม่ 5 ประเภทที่เหมือนกำลังรังแกลูก
0
480

1. พ่อแม่เครื่องประดับ : รางวัลของลูกคือสิ่งสำคัญ

ลักษณะของพ่อแม่

เป็นพ่อแม่ที่เห็นความสำคัญของการเป็นที่หนึ่งทุ กสิ่งที่ลูกทำจะต้องเป็นที่หนึ่งในทุ กด้าน

เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือหน้าตาของพ่อแม่ เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าตัวเองเป็นพ่อแม่

ที่เก่งและดี วัดความสำเร็จและคุณค่าของการเป็นพ่อแม่จากความสำเร็จ

หรือรางวัลที่ลูกได้รับ การที่ลูกเก่งและโดดเด่นจึงเปรียบเสมือนเครื่องประดับของพ่อแม่

ลูกจะเป็นยังไง

ลูกจะเครียด คิดว่าทุ กอย่ างในชีวิตคือการแข่งขัน

จนทำให้กลายเป็นคนที่ชอบเอาชนะ ไม่รู้จักคำว่าแพ้

และถ้าเกิดวันไหนที่แพ้ขึ้นมาเขาจะรับมือกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้

ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร

เริ่มจากปรับความคิดที่ว่ารางวัลคือสิ่งที่การันตีความดีและความเก่งของพ่อแม่

สิ่งที่จะบ่งบอกว่าเราเป็นพ่อแม่ที่ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสุขของลูก

และการสอนให้เขาเป็นคนดีของสังคมมากกว่า พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้ว่ารางวัล

หรือการเป็นที่หนึ่งไม่ใช่ทุ กอย่ างของชีวิต ลูกต้องเรียนรู้ที่จะผิดหวังบ้าง

อีกทั้งพ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกทำสิ่งที่เขาชอบและแค่เต็มที่กับสิ่งที่ทำก็พอ

 

2. พ่อแม่เฮลิคอปเตอร์ : สอดส่องตลอดเวลา

ลักษณะของพ่อแม่

เป็นพ่อแม่ที่ตรวจสอบทุ กสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของลูก

มีพฤติก รรมที่ปกป้องมากเกินไป เลี้ยงดูราวไข่ในหิน

ออกคำสั่งและกำกับเส้นทางชีวิตของลูกทุ กเรื่อง

เพราะกลัวว่าลูกจะทำเรื่องผิ ดพลาด

นอกจากนี้อาจจะจัดการแก้ไขปัญหาทุ กอย่ างที่เข้ามาในชีวิตของลูก

โดยที่ไม่ให้เขาลองเผชิญหน้าด้วยตนเอง

ลูกจะเป็นยังไง

ลูกจะเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย แต่จะเป็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจ

โตแต่ตัว มีความวิต กกังวลสูง

ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร

การสอดส่องดูแลลูกเพราะความห่วงใยไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลยค่ะ

แต่ว่าเราก็ต้องมีขอบเขต ในบางครั้งอาจจะลองปล่อยให้ลูกได้

ทำและตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองบ้าง เราไม่จำเป็นต้องไปบังคับ

หรือกำหนดเส้นทางชีวิตของลูกขนาดนั้น อย่ าลืมนะคะว่าลูกก็มีชีวิต

และควรจะเป็นคนกำหนดทางเดินของเขาเอง หน้าที่ของคน

เป็นพ่อแม่คือคอยให้คำแนะนำ สนับสนุนและพร้อม

ช่วยพยุงย ามที่ลูกอ่อนแอเท่านั้นเองค่ะ

 

3. พ่อแม่หม้อเคี่ยวย า : เร่งรัดเกินพัฒนาการลูก

ลักษณะของพ่อแม่

เป็นพ่อแม่ที่เคี่ยวเข็ญและเร่งรัดลูกให้เรียนเร็วเกินกว่าอายุ

และพัฒนาการที่ควรจะเป็นมีการพาลูกไปเรียนพิเศษ

เพื่อให้ลูกได้เนื้ อหาส าระเกี่ยวกับการเรียนที่เกินอายุของส มอง

เพราะคิดว่าลูกจะต้องเรียนให้ไวและรู้ให้มากเพื่อที่จะได้เปรียบเด็ กคนอื่น ๆ

ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนั้นอาจจะไม่ได้จำเป็นหรือเหมาะกับลูกเลยก็ได้

ลูกจะเป็นยังไง

เป็นเด็ กที่เคร่งเครียด ไม่มีเวลาไปทำกิจก รรมอื่น ๆ ที่ตนเองสนใจ

เพราะต้องเรียนอย่ างเดียว ลูกจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ

หากทำตามสิ่งที่พ่อแม่อย ากให้ทำไม่ได้ อีกทั้งยังรู้สึกกดดันว่า

จะต้องแข่งขันกับคนอื่นตลอดเวลา

ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร

พ่อแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าพัฒนาการของเด็ กในแต่ละช่วงวัยนั้นแต กต่างกัน

เราต้องค่อย ๆ กระตุ้นพัฒนาการของลูกให้เป็นไปตามวัย

ไม่ใช่เอาแต่เร่งรัดให้ลูกเรียนเกินวัย ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับลูกของคนอื่น ๆ

และต้องเข้าใจว่าเด็ กแต่ละคนมีความชอบและความเก่งที่แต กต่างกัน

ไม่ใช่ทุ กคนที่จะเก่งด้านวิชาการ ยิ่งเราไปเร่งรัด

ก็อาจจะทำให้การเรียนรู้ของลูกแ ย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย

 

4. พ่อแม่กระต่ายตื่นตูม : หวาดวิต กในทุ กเรื่อง

ลักษณะของพ่อแม่

เป็นพ่อแม่ที่หวั่นวิต กกับทุ กสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของลูก รวมไปถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวต่าง ๆ

ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมาก่อให้เกิดอั นตรายกับลูกของเรา แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก

จะเป็นเรื่องที่เล็กแค่ไหนแต่สำหรับพ่อแม่ประเภทนี้มักจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่

ราวกับโลกจะแต กจึงพย าย ามปกป้องลูก ไม่ให้ลูกได้เผชิญเหตุการณ์ที่ย ากลำบากด้วยตัวเอง

ลูกจะเป็นยังไง

ลูกจะเป็นคนที่หวาดระแวงกับเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัวเหมือนกันพ่อแม่

เป็นเด็ กขี้กลัวไม่กล้าทำอะไรใหม่ ๆ

ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร

พ่อแม่ต้องทำใจให้สบาย ๆ รู้จักปล่อยวาง ไม่ต้องไปตึงเครียดกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากนัก

ให้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ลูกเรียนรู้และเติบโตขึ้น

ดังนั้นลองปล่อยให้ลูกได้จัดการกับความย ากลำบากที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองดูบ้าง

 

5. พ่อแม่คู่หู : ทำตัวเหมือนเพื่อนเกินไป

ลักษณะของพ่อแม่

การเลี้ยงลูกแบบเพื่อนเป็นวิ ธีการเลี้ยงที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้

เพราะอย ากให้ลูกรู้สึกสนิทใจและกล้าเปิด อกคุยกับเราทุ กเรื่อง

แต่ในบางครั้งการเลี้ยงลูกแบบเพื่อนที่ “มากเกินไป” ย่อมส่งผลเสี ยเช่นกัน

เพราะเมื่อเลี้ยงลูกแบบเพื่อนในลักษณะที่ไม่เคยคัดค้าน

เห็นดีเห็นเห็นงามไปทุ กเรื่อง โดยไม่มีกฎเกณฑ์หรือขอบเขต

เพราะกลัวลูกไม่รักก็จะทำให้ลูกไม่มองเห็นว่าเราเป็นพ่อแม่

ลูกจะเป็นยังไง

เป็นคนไม่มีวินัย ไม่เชื่อฟัง พูดห้ามปรามอะไรก็ไม่เคยเชื่อ

ไม่เคารพพ่อแม่ ลูกจะคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

ปรับวิ ธีเลี้ยงอย่ างไร

การเลี้ยงลูกแบบเพื่อนไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี

หากแต่ว่าควรจะต้องมีขอบเขตที่แน่ชัดว่าแบบไหนที่ทำกับเพื่อนได้

และแบบไหนที่ทำกับพ่อแม่ไม่ได้ หรือเมื่อมีกฎกติการ่วมกันแล้วก็ห้ามใจอ่อน

พ่อแม่ต้องเป็นคนที่คอยห้ามปรามและให้คำแนะนำในฐานะที่เป็นพ่อแม่

เพื่อให้ลูกรับรู้และเห็นว่าสถานภาพของเราคือพ่อแม่ ไม่ใช่เพื่อน

 

ขอบคุณที่มา : 360scopenew

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In ข้อคิดดีๆ
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …