1. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงบอกตัวเองว่า สิ่งนั้นจะผ่ านเราไปเสมอ ไม่ว่าสุข ทุ กข์ ดีใจ เสี ยใจ
จงมองดูเวลา ให้เวลาได้ทำหน้าที่ของมัน จงอดทน เข้มแข็ง อย่ ายอมแพ้ในสิ่งใดก็ตาม
2. ขอขวัญที่ดีที่สุดคือ รอยยิ้ม กำลังใจ และความจริงใจ จงแจกจ่ายของขวัญเหล่านี้ไปยังผู้คนที่พบเห็น
ทำให้เป็นนิสัย แล้วมิตรภาพดี ๆ จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราทุ กวัน
3. จงฝึกจิตใจของตน ขัดเกลาจิตใจของตนด้วยการกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ ฝึกคิดอย่ างเท่าทัน ฝึกสมาธิ ฝึกกำหนดรู้ตามจริง
เพราะชีวิตคือสิ่งไม่แน่นอน และไม่อาจคาดเดาได้ ดังนั้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมในทุ กสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
เราต้องเตรียมความแข็งแรงของจิตใจไว้ เพราะการทำใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผู้ไม่เคยฝึกฝน
4. อย่ าพูดในสิ่งไม่ดี อย่ าพูดโกหก อย่ าพูดความจริงที่ไร้ประโยชน์ อย่ าพูดจาทำล ายน้ำใจบุคคลอื่น
อย่ าพูดจาดูถู กตนเอง และอย่ าพูดอะไรที่ทำล ายสังคม บุคคล และศา สนาที่ตนนับถือ
5. มองไปรอบข้าง ถามตนเองว่า มีใครบ้างที่มีความหมายกับชีวิตของเรา มีใครบ้างที่มีบุญคุณกับชีวิตของเรา
บุคคลเหล่านี้คือบุคคลที่เราต้องดูแล ไม่อาจละเลย
ขอให้มองไปยังเขาเหล่านั้น แล้วถามตนเองว่า เราจะทำอะไรเพื่อเขาได้บ้าง
และลงมือทำทันที อย่ าได้รีรอ เพราะเวลาไม่อาจย้อนคืนได้ใหม่
6. ย้ำเตื อนตนเองอยู่เสมอว่า สิ่งต่าง ๆ อยู่ด้วยเหตุปัจจัย อย่ าคาดหวังในผล แต่จงสร้างเหตุ
อย่ าคาดหวังในรักที่ดี แต่จงสร้างเหตุแห่งรักที่ดี อย่ าคาดหวังในความร่ำร วยให้มากเกินไป
แต่จงสร้างเหตุแห่งความร่ำร วยให้เกิดขึ้น สิ่งนี้เองคือการทำทุ กอย่ างด้วยจิตว่าง
เมื่อทำทุ กอย่ างด้วยจิตว่างได้แล้ว ชีวิต ก็จะพบกับหนทางแห่งความดีงามและความสุขได้ง่ายขึ้น
7. จงรักในหน้าที่ของตน และพย าย ามเชื่อมโยงหน้าที่ของตน ไว้กับประโยชน์ของผู้อื่น
หรือประโยชน์ของสังคม คิดให้ออกว่าหน้าที่ของเรา สามารถช่วยอะไรสังคม หรือผู้อื่นได้บ้าง
และขย ายความรู้สึกนึกคิดตรงนั้นให้งอกงามในใจ การงานของเราก็จะเปลี่ยนจากการทำงาน
เป็นการทำบุญ กลายเป็นคนที่มีใจและหน้าที่อันเป็นกุศลอยู่ตลอดเวลา
8. ทำปัจจุบันตรงหน้า ระหว่างการใช้ชีวิต ควรมีสติระลึกรู้ว่า ขณะนี้ตนเองกำลังทำอะไรอยู่
กำลังทำงานก็อยู่กับงาน กำลังเดินก็อยู่กับการเดิน มองต้นไม้ให้เห็นต้นไม้ มองฟ้าให้เห็นฟ้า
ฟังเ สียงนกร้องก็ขอให้ได้ยินเ สียงนั้น เหล่านี้คือการกำหนดใจลงสู่ปัจจุบันทั้งสิ้น
ขอบคุณที่มา : dhammasawatdee