1. หาแรงบันดาลใจจากโลกภายนอก
ง่ายที่สุดคือมองหาคนเก่ง และลองทำให้ได้เหมือนอย่ างเขา
2. ขี้เกียจได้ แต่ทุ กอย่ างต้องเรียบร้อย ไม่ทิ้งเวลาโดยเปล่าประโยชน์
โดยปกติคนเราจะมี ช่วงเวลาสำคัญที่คิดหรือทำงานได้อย่ างราบรื่นประมาณ 2 ชั่ วโมงต่อวัน
ซึ่งหากเรารู้ช่วงเวลาดังกล่าวและใช้ช่วงเวลานั้นไปกับการทำในสิ่งสำคัญที่สุดก่อน ผลที่ได้นอกจากจะช่วยย่นระยะเวลาแล้ว
ยังช่วยให้สิ่งที่ทำออกมามีประสิทธิภาพด้วย นึกง่าย ๆ เลยเวลาเรียนหนังสือหรือทำงาน
เราจะคิดอะไรออกแค่ 2 ชั่ วโมงแรกเท่านั้น แม้แต่การประชุมก็ตาม หลังจากนั้น เราจะเริ่มใจลอยและคิดเรื่องอื่น
ไม่อย ากจะทำสิ่งตรงหน้าแล้ว ดังนั้น 2 ชั่ วโมงอันมีค่าที่สุดเราจะต้องจัดสรรค์ให้ดีและทำงานให้รวดเร็วที่สุด
เพื่อที่เวลาที่เหลือเราจะได้ทำในสิ่งที่เราอย ากทำ
3. ทำอะไรที่มันไม่กดดันบ้าง อย่ าไปเครียดเยอะ
แรงกดดันที่มากเกินไปอาจกลายเป็นความเครียด
และการทำงานบนพื้นฐานของความเครียดอยู่ตลอดย่อมไม่ส่งผลดี
4. พักผ่อนไปพร้อม ๆ กันทำงาน
การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการเข้านอนเร็ว
และไม่ทำกิจก รรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการนอนบนเตียง
รวมทั้งในระหว่างนอนไม่ควรเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ใกล้ตัว
5. เลือกทำกิจวัตรที่รู้สึกว่าได้กำไร
คือฟังอะไรดี ๆ เวลาขับรถ จะได้ไม่รู้สึกเสี ยเวลาเปล่า
หรือฟังอะไรที่อย ากฟังก็ได้ เรื่องตลกขำขัน หรือบทความภาษาอังกฤษ
6. ให้ตัวเองขี้เกียจได้บ้าง
ต้องไม่ปฏิเสธความจริง อาทิ หากคุณรู้สึกว่าตัวเอง ป่ ว ย และสามารถลางานได้
คุณก็ไม่ควรฝืนตัวเองไปทำงาน เพราะนอกจากงานที่ทำจะไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อาจทำให้ร่า งกายและจิตใจคุณแ ย่ยิ่งไปกว่าเดิม
7. ลองหัดทำอะไรติ ดกันสัก 10 วันดู
ตัวอย่ างคือ การเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา เมื่อคุณทำติ ดต่อกันได้สัก 10 วัน
ร่า งกายคุณจะปรับให้ไม่รู้สึกย ากเหมือนในช่วงวันแรก ๆ
อ้างอิง Mission to the Moon, หนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” ของ Naoyuki Honda
ขอบคุณที่มา : p a r i n y a c h e e w i t