ไม่มีอะไรแน่นอนจริง ๆ เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
แม้แต่เรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนก็ยังเกิดมาแล้ว
อย่ าง “โ ค วิ ด” ที่ส่งผลกระทบไปแทบจะทุ กประเทศ
เป็นเวลาหลายเดือน จนเศรษฐกิจย่ำแ ย่ไปทั่วโลก
ในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ด อกเบี้ยเ งินฝาก 0%
ซึ่งดูเหมือนว่าในบ้านเราก็ใกล้จะถึงจุดนั้นแล้วเช่นกัน
เราทุ กคนควรจะใช้ชีวิต ใช้จ่ายเ งินกันอย่ างไร
ต้องปรับตัวหรือต้องเจอกับอะไรบ้าง
มาดูกันว่าต่อจากนี้ไป จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
1. คอรัปชั่น และการโกงจะมากขึ้น
แน่นอนว่ายิ่งเ งินหาย าก คนฉวยโอกาสก็จะมีมากขึ้น
การข าดเงิ นจะทำให้คนข าดจิตสำนึกได้ง่ายกว่าเดิม
ยอมทำทุ กอย่ างเพื่อเ งิน โดยไม่สนใจว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก
2. ครอบครัวมีปัญหามากขึ้น
สมัยก่อนผู้ชายจะเป็นคนออกไปทำงานหาเ งิน เพื่อมาเลี้ยงครอบครัว
ผู้หญิงจะอยู่บ้านคอยดูแลงานบ้าน และเลี้ยงลูก
ทำให้มีเวลาอยู่กับลูกได้ตลอด แต่พอมายุคนี้ ทั้งพ่อและแม่ก็ออกไปทำงานนอกบ้าน
และยิ่งยุคที่เ งินหาย าก ยิ่งต้องทำงานมากขึ้นไปอีก
เพราะหาเ งินมาก็ไม่พอค่าใช้จ่าย ลูกก็ไม่มีใครอยู่ด้วย
และยิ่งมีการทำโอทีกลับบ้านดึกดื่น ยิ่งไม่มีเวลาเจอหน้ากันเลยในแต่ละวัน
เมื่อพ่อแม่ทำแต่งาน ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ก็ทำให้ลูกเริ่มมีปัญหา
หากแก้ไขไม่ได้ก็จะทำให้เป็นปัญหาสังคมต่อไปอีก
3. หลังจากยุคด อกเบี้ย 0% ทุ กอย่ างจะแ ย่ลงไปอีก
นั่นเป็นเพราะว่าเงิ นจะล้นระบบ แต่ไม่ใช่เ งินมีมากสำหรับทุ กคนหรอกนะ
เมื่อเ งินล้นระบบ จะล้นไปอยู่ในมือคนร วย
ซึ่งคนร วยมีจำนวนที่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับคนจน
จึงเกิดการใช้จ่ายที่น้อยตามไปด้วย และเมื่อใช้จ่ายน้อยก็จะส่งผลกระทบแบบโดมิโน่
คือ พ่อค้าแม่ค้าไม่มีคนซื้อ ของก็จะขายไม่ได้ ตลาด ห้างสรรพสินค้าไม่มีคนเดิน
คนส่วนมากไม่มีเงิ นที่จะเอาไปใช้จ่าย ให้เ งินหมุนเวียนเศรษฐกิจ
และพอเศรษฐกิจไม่ดี ทั้งบริษัททั้งโรงงานก็ต้องปิดตัวลง
พนักงานและคนงานก็ต้องต กงาน กลายเป็นล้ มไปหมดทั้งระบบ
4. ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น
หากเงิ นฝากไม่มี ดอ กเบี้ย ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน
คนร วยที่มีอยู่เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็จะยิ่งร วยขึ้น ในขณะที่คนจน คนที่หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเ งินเหลือเก็บ
และยิ่งการวางแผนทางการเงิ นไม่มี หรือลงทุนไม่เป็น
ไม่มีความรู้ในการลงทุนให้เงิ นงอกเลยได้เลย ก็ต้องทำงานหนักแบบนี้ไปตลอดชีวิต
5. เงิ นจะหาย ากขึ้น
ลองดูทุ กวันนี้สิ ว่าคนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลงขนาดไหน
นี่ยังไม่รวมกับวิกฤต โ ค วิ ด ที่เพิ่งเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบในวงกว้าง
และหากในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ด อกเบี้ยเ งินฝาก 0%
เท่ากับคนที่ฝากเ งินในธนาคารจะไม่ได้ดอ กเบี้ยเลย
คุณรู้ไหมว่า เงิ นที่สามารถงอกเงยจากระบบด อกเบี้ยนั้น
มีถึงแสนล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว และถ้าเ งินส่วนนี้หายไปกลายเป็น 0
คิดภาพดูสิว่าเงิ นหายไปจากเศรษฐกิจ ชีวิตประจำวันขนาดไหน
เมื่อเ งินหายไป กำลังการซื้อก็ลดลงด้วยเช่นกันสิ่งเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้น
6. คำว่า “อิสรภาพทางการเ งิน” จะเอื้อมถึงได้ย ากขึ้น
เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ชอบพูดเรื่อง อิสรภาพทางการเงิ นกันมากขึ้น หรือที่ชอบเรียกกันว่า Passive Income
เป็นการที่มีรายได้เข้ามามากกว่ารายจ่าย แบบที่เราไม่ต้องทำงาน เป็นการสร้างอิสรภาพทางการเงิ นให้ตัวเอง
ซึ่งคนสมัยก่อนจะนิยมฝากเ งินเพื่อเอาด อกเบี้ย แต่ถ้ามองดูยุคปัจจุบัน เราคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว
และยิ่งลงทุนผิดที่ กลายเป็นว่าเราจะต้องทำงานไปตลอดชีวิต
และไม่มีคำว่า “อิสรภาพทางการเงิ น” ให้เราได้เข้าใกล้เลย
7. ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน
ปกติแล้วในวัยสูงอายุ คนวัยนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะวางแผนก่อนวัยเกษียณ เพื่อให้มีเ งินเก็บเงิ นก้อนไว้ใช้หลังเกษียณ
ได้มากเพียงพอที่จะสามารถฝากธนาคาร และหวังเก็บด อกเบี้ยกินได้บ้าง
แต่ถ้าหากเงิ นฝากไม่มี ดอ กเบี้ย ก็จะทำให้เงิ นก้อนค่อย ๆ ถูกใช้ไปจนหมด
แล้วก็กลายเป็นว่า ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน เพื่อหาเ งินเลี้ยงตัวเองอีกครั้ง
8. เงิ นจะอยู่เหนือคนมากยิ่งขึ้น
เมื่อเงิ นหาย ากมากขึ้น ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้น และคนก็จะพย าย ามทำทุ กอย่ างเพื่อให้ได้มันมา
โดยไม่สนว่าใครจะลำบากหรือเ ดือดร้อน ความยุติธรรมจะหาได้ย าก คนอ่อนแอจะถูกเอารัดเอาเปรียบ
9. ค่าครองชีพจะสูงขึ้นอีก
หากลองมองย้อนกลับไปในอดีต จะเห็นว่าค่าครองชีพนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เ งิน 40 บาท ที่เมื่อก่อนซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ 2 ชาม
เดี๋ยวนี้ก็ซื้อได้แค่ชามเดียว ข้าวของทุ กอย่ างแพงขึ้น แต่เงิ นท องกลับหาย ากกว่าเดิม
ถ้าวันนี้ไม่ร ะวัง วันข้างหน้าต้องเ สียใจภายหลังแน่นอน
ขอบคุณที่มา : อ่ า น ส นุ ก