“หัวหน้า” เป็นตำแหน่งที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะได้ทั้งลาภยศและความเคารพจากทีม
แต่ก็มีหัวหน้าบางประเภทที่ขาดความเป็นผู้นำ จนไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
จะเป็นหัวหน้าที่ดีต้องสตรองแค่ไหน? เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าแล้ว ย่อมได้รับการคาดหวังว่า
จะนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าได้ พร้อมๆ กับการดูแลพนักงานหลายชีวิต
ตำแหน่งหัวหน้าที่มาพร้อมกับภาระหนักอึ้งเอาการ แต่ในความเป็นจริงบางคนอาจได้เป็นหัวหน้า
ตั้งแต่อายุยังน้อย ยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการบริหารงานและบุคคล
เพราะฉะนั้นลองสำรวจตัวเองว่าเป็นหัวหน้าที่ดี หรือเป็นหัวหน้ายอด แ ย่ กันแน่
จะได้ปรับปรุงตัวแล้วเลิกพฤติกรรมแบบนี้เสียที
1. ไม่กล้าตัดสินใจ
หัวหน้าบางคนมีคุณสมบัติดีเลิศทั้งการศึกษาและการทำงาน แต่กลับขาดภาวะผู้นำ
ไม่กล้าตัดสินใจ บริหารงานไม่เด็ดขาด กล้าๆ กลัวๆ มีบุคคลิกไม่มั่นใจ แล้วแบบนี้
จะเป็นแบบอย่างในการทำงานให้ลูกน้องได้อย่างไร แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้
เริ่มต้นจากการเชื่อมั่นศักยภาพของตัวเองและลูกน้อง ไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
จากเด็กรุ่นหลังหรือผู้ที่อาวุโสกว่า มีการวางแผนงานล่วงหน้าที่ชัดเจน
และไม่หยุดนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา
2. บ้ า อำ น า จ
อย่าหลงระเริงกับอำนาจที่มีอยู่ ใช้ตำแหน่งบังคับให้อื่นคนทำตามใจตัวเองหรือใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์
ส่วนตัว จะทำให้ลูกน้องกดดัน ทำงานด้วยความหวาดกลัว
ถ้าอยากให้ลูกน้องเคารพจากใจจริง ก็ควรฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเคารพเช่นกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ไม่มีอีโก้ถือตัวเหนือกว่าผู้อื่น หัวหน้าที่ดีควรส่งเสริมทีมคอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาได้ แบบนี้ถึงจะได้ใจลูกน้องจริงๆ
3. เจ้าอารมณ์
การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์เป็นคุณสมบัติของคนทำงานทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า
ควรควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล ยิ่งอยู่ในตำแหน่งสูงๆ
ก็ควรระมัดระวังในการวางตัว เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนอยากเป็นที่รองรับอารมณ์
จริงอยู่ว่ามนุษย์เรามีอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อถูกทักท้วง
ควรอดทนอดกลั้น หยุดคิดสักนิด ไม่พูดจาโต้ตอบแบบ ห ย า บ ค า ย หรือวีนเหวี่ยงโดยไม่มีเหตุผล
4. เลือกที่รัก มักที่ชัง
หัวหน้าลำเอียง เล่นพรรคเล่นพวก เข้าข้างลูกน้องคนสนิทตลอดเวลา ทำผิดก็แก้ตัวให้
ตรงกันข้ามถ้าไม่ปลื้มลูกน้องคนไหนก็ไม่สนใจจะให้คำปรึกษา หรือโยนงานเล็ก ๆ
แบบปิดทองหลังพระให้รับผิดชอบ แบบนี้เรียกว่าสองมาตรฐานชัดๆ จนทำให้ลูกน้องเกิดอคติ
กับหัวหน้าไปตลอด เพราะฉะนั้นคุณควรแยกเรื่องส่วนตัวกับการทำงานให้ได้
ไม่ให้ท้ายลูกน้องคนใดคนหนึ่งจนเกินงาม ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
5. เอาดีใส่ตัว เอ า ชั่ ว ใ ส่ ค น อื่ น
ไม่ว่าผลงานจะได้รับคำชมหรือคำติ คนมักจะพุ่งเป้ามาที่หัวหน้าก่อนเสมอ เพราะเป็นตำแหน่ง
ที่มีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในทีม เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ผลงานได้รับการชื่นชม
ต้องให้เครดิตกับลูกน้องเสมอ อย่ารับไว้เป็นผลงานของตัวเองคนเดียว
ในทางกลับกันเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ก็ไม่ควรโยนความผิดให้คนอื่น และไม่รู้สึกอายที่จะขอโทษ
ในกรณีที่ลูกน้องทำผิด สามารถตักเตือนได้แต่ไม่ควรซ้ำเติม ต้องรู้จักให้โอกาสคน
แนะนำให้ลูกน้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและหาวิธีการแก้ไขปัญหา
6. โลกแคบ
นี่มันปี 2023 แล้ว คนเป็นหัวหน้าต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ตามยุคสมัยให้ทัน คอยเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตลอด
ทั้งความรู้ในการทำงานและมุมมองการใช้ชีวิต คงไม่มีใคร
อยากทำงานร่วมกับคนโลกแคบ ที่จำกัดความคิดอยู่ในกรอบของตัวเองโดยไม่ฟังใคร ในบางองค์กร
ที่มีพนักงานหลายเจเนอเรชั่น หัวหน้าต้องเปิดใจยอมรับความแตกต่าง
ทางความคิดและรูปแบบการทำงานให้ได้
แล้วคุณล่ะเป็นหัวหน้าแบบไหน? ถ้าอยากเป็นหัวหน้าที่มีความเป็นผู้นำ ได้รับการยอมรับจากลูกน้อง
ลองนึกถึงตอนที่คุณยังเป็นลูกน้อง คุณเคารพหัวหน้าแบบไหน
ก็ควรจะปฏิบัติตัวให้น่าเคารพแบบนั้นเช่นกัน เมื่อรู้ว่าเรามีข้อเสียตรงไหนก็รีบแก้ไขให้เร็วที่สุด
ส่วนใครที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้า หรืออยากเติบโตในสายอาชีพของตัวเอง
สามารถค้นหาตำแหน่งงานระดับสูงและมั่นคง
ขอขอบคุณ jobsDB