Home ข้อคิดดีๆ ต้องวางตัวแบบไหน ถ้าเจอ “คนขี้อิจฉา” อยู่ที่ทำงาน

ต้องวางตัวแบบไหน ถ้าเจอ “คนขี้อิจฉา” อยู่ที่ทำงาน

15 second read
ปิดความเห็น บน ต้องวางตัวแบบไหน ถ้าเจอ “คนขี้อิจฉา” อยู่ที่ทำงาน
0
6,173

น้อยคนนักที่จะเกิดมาบนโลกนี้ แล้วไม่เคยถูกใครอิจฉาเลยการถูกอิจฉา ริ ษ ย า จากคนในที่ทำงาน

โรงเรียน มหาวิทยาลัยมักเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งถ้าหากคุณโชคดีพอ คนที่อิจฉาคุณก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณ

ได้ทำได้เพียงแค่แอบมองคุณจากมุมมืด พร้อมส่งสายตาอิจฉามายังคุณเท่านั้น

 

แต่ถ้าคุณ โ ช ค ร้ า ย คุณก็อาจโดนคนประเภทนี้ ออกมาเล่นงานคุณจัง ๆ จน เ จ็ บ หนักเสื่อมเสีย ชื่อเสียงได้เช่นกั

นอย่างไรก็ดีไม่แน่ว่าความ ร้ า ย กาจของคนที่อิจฉาคุณอยู่นั้น อาจถูกสยบลงได้ หากคุณมีวิธีจัดการที่ดีกับปัญหาดังกล่าว

ซึ่งวิธีจัดการจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

 

1. หยิบยื่นความเป็นมิตร

แม้ว่าคุณ อาจได้ยินหรือพอจะรู้สึกได้ ว่ามีคนบางคน แอบอิจฉาคุณอยู่ แต่การเดินหน้าเข้าไปลุ หรือเข้าไปจัดการกับคู่กรณี

อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีนักหากทำได้ลองมีน้ำใจทำสิ่งดี ๆ กับเขาคนนั้นก่อนจะดีกว่า

 

เช่น พูดกับเขาดี ๆ หรือมีขนมก็แบ่งกัน การลองทำสิ่งดี ๆ แก่กัน อาจช่วยเปิดโอกาสให้คุณและเขาคนนั้นได้รู้จักกันดียิ่งขึ้น

และทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ค่ะ

 

แต่ถ้าหากลองทำแล้วยังไม่เป็นผล ก็อย่านำเรื่องนี้มาเก็บเป็นอารมณ์ให้กังวลใจไปเลย เพราะคนเราก็มีได้หลายมุม

หลายความรู้สึกเราไม่อาจทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับเราได้ทั้งหมด

 

หรือถ้าสบโอกาส ลองสังเกตดูก็ได้ว่าเขาคนนั้น ทำนิสัยเดียวกัน กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ หรือไม่ถ้าทำก็เป็นไปได้ว่า

นั่นคือตัวตนของเขาและไม่ได้มีแต่คุณที่เจอเขาอิจฉาใส่

 

2. ก ร ะ ตุ้ น ให้มีการทำงานเป็นทีม

เพราะการทำงานเป็นทีมจะสำเร็จได้ ทุกคนต้องหันมาร่วมมือกัน ซึ่งการทำเช่นนั้น ก็อาจทำให้คุณและคนที่อิจฉาคุณได้มีโอกาส

ศึกษานิสัยใจคอกันมากขึ้นกว่าเดิม เข้าใจกันมากกว่าเดิม นำไปสู่การเลิก อคติหรือมองกันในแง่ ร้ า ย ได้

 

3. มุ่งมั่นในหน้าที่ของตัวเอง

การเปลี่ยนจุดหมาย ในการทำงาน แทนที่จะพัฒนางาน ของตนเองให้ดีขึ้นไปหาคนที่อิจฉาหรือจ้องจะทำไม่ดีกับคุณอยู่นั้น

ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำคุณควรเอาเวลาในออฟฟิศไปมุ่งมั่นพัฒนางานของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

 

ศึกษาความต้องการขององค์กร เป้าหมายของหัวหน้างาน ฯลฯ แล้วปรับปรุงการทำงาน ของตนเองให้เป็นไปในทิศทางนั้น ๆ

เพื่อที่ว่าอย่างน้อย เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็จะได้ไม่สามารถ ทำ ล า ย หรือพูดถึงคุณในแง่ไม่ดีได้นั่นเอง

 

4. เข้มแข็งเข้าไว้

บางคน กว่าจะทราบว่า มีคนอิจฉาหรือลอบใส่ความ ก็มาสังเกตได้เมื่อสายไปเสียแล้วเช่น เพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศ

ต่างได้รับข้อมูลเท็จเกี่ยวกับตัวคุณจากคน ๆ นั้นและไม่มีใครอยากคบหาสมาคมกับคุณอีก

 

ถ้าเป็นเช่นนี้ขอให้เข้มแข็งเข้าไว้ ยืดอกเชิดหน้า ให้มั่น (จะแอบร้องไห้ก็ได้ ถ้าร้องเสร็จแล้วตาไม่แดง)เพราะถ้าคุณ

ไปแอบร้องไห้ หรือทำ ต า แ ด ง ๆ ก็เท่ากับเข้าล็อกตามที่ เขาต้องการแล้วเขาก็จะจัด “ปฏิบัติการลอบ เ ม า ท์” ตามมาอีกชุดใหญ่

 

5. สร้างความน่าเชื่อถือในหมู่เพื่อนร่วมงาน

ไม่มีอะไร สามารถสร้างแรงหนุน ให้กับคุณและผลักคำกล่าวหา ร้ า ย ๆ ออกไปได้เร็วเท่ากับการ

ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างหากคุณได้รับการยอมรับจากทีมหรือคนอื่น ๆ

 

ที่มีความเชื่อมั่นในตัวของคุณพวกเขา จะไม่สนใจคำว่า ร้ า ย นินทาจากคนที่อิจฉาคุณแต่ประการใด

และจะทำให้คนที่อิจฉาคุณอยู่นั้นต้องยอมจากไปแต่โดยดี

 

6. กันไว้ดีกว่าแก้

การป้องกัน การเกิดความอิจฉา ในหมู่เพื่อนร่วมงาน อาจทำได้หลายแบบ เช่น การกล่าวชื่นชมทุก ๆ

คนที่มีส่วนต่อความสำเร็จในงาน (เพื่อนร่วมงานบางคนอาจหา ความมีส่วนร่วมไม่เจอ แต่ก็ขอให้พยายามนึกให้ออก)

 

แม้จะเล็กน้อย แต่การกล่าวชมออกไป เผื่อแผ่ความดี ความชอบออกไปจะทำให้คุณ ไม่ตกเป็นเป้าจากคนขี้อิจฉาเหล่านั้น

อีกทั้งยังทำให้คนที่ได้รับคำชม หรือการพูดถึงจากคุณไม่รู้สึกอิจฉาคุณด้วย

 

7. หากปัญหา รุ น แ ร ง เข้าพบหัวหน้าย่อมดีที่สุด

ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องเข้าไป ร้องไห้ฟูมฟาย ขณะเล่าให้ผู้จัดการ หรือหัวหน้าของคุณฟัง

เพราะมันจะดูเหมือนเด็กถูกเพื่อนแกล้งแล้วเข้าไป ฟ้ อ ง ครูถ้าจะเข้าพบหัวหน้าเพื่อแจ้งถึงปัญหาดังกล่าวให้รับรู้

 

การวางตัวให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น เอ่ยถึงปัญหาและความวิตกกังวลของคุณ ขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว

กับปัญหาดังกล่าว เรียกว่าทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า

 

8. ไม่ว่าอย่างไร เป็นคนน่ารักไว้ก่อน

แม้ว่าจะมีคนทำไม่ดี กับคุณอย่างมาก แต่ถ้าคุณอดทนกับมัน และใจดีพอที่จะไม่ถือสา หาความกับเรื่องไร้สระเช่นนี้ก็เป็นไปได้ว่า

เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกอิจฉานั้นก็จะถูกแทนที่ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นั่นเอง

 

แต่ถ้าวันใด ตัวคุณเองกลายเป็นฝ่าย อิจฉาคนอื่นบ้าง ก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน

ที่จะไป ทำ ร้ า ย ใครดีกว่านะคะ

 

ขอขอบคุณ A S T V ผู้ จั ด ก า ร อ อ น ไ ล น์

Load More Related Articles
Load More By Young Hug Phai Eek Dai Bor
Load More In ข้อคิดดีๆ
Comments are closed.

Check Also

จังหวะชีวิต ของแต่ละ ค น มักจะไม่เหมือนกัน

บางคนเรียนจบตอนอายุ 22 ปี.. แต่ต้องรออีก 2 ปี ถึงจะหางา … …