เรื่องเล่า…
มีอยู่ว่า พี่ชิต แกเป็นคนใจดำครับ ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนัก
ก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับ แม่แกบอก
มันบาปนะลูก พี่แก ก็ไม่เคยสนใจ คำเตือนของแม่เลย
เมื่อราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป…
ครั้งนั้น มีแม่หมาขี้เรื้อน ตัวหนึ่งครับ มันมักวิ่งไปหาของ
กิน แถวๆ บ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด
ผมเคยถามพี่ชิต ที่กินหมา อยู่บ่อยๆ ว่า ทำไมไม่กิน
หมาขี้เรื้อน แกบอก “กินไม่ลงว่ะ”
มีอยู่วันหนึ่ง เนื้อแห้งที่แกตากไว้ หายไป พอมองไป
ก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนนั้น วิ่งคาบเนื้อตากแห้ง ของแกอยู่
ความแค้นใจ และการ ฆ่ า ที่อยู่ในสันดาน
พี่ชิตคว้าไม้ ที่ใช้ตีหมาได้ ก็วิ่งตามไป อย่างรวดเร็ว
พอตามทัน แกก็ทุบไปทีเดียว หมาขี้เรื้อนนั่น ล้มลง
ชักทันที (แกบอกว่า หากตีตรงจุด แค่ไม้เล็กๆ ธรรมดา
ก็ ต า ย ได้ นี่คือคน ตีหมาจนชำนาญ)
พี่ชิตทิ้งซากหมา กองไว้อยู่ตรงนั้น โดยไม่ต้องเหลียว
หน้าไปดูอีก เพราะตีมาเป็นร้อย ก็ไม่มีทางฟื้น และวันนี้
ด้วยความโมโห พี่ชิตจะกินหมาขี้เรื้อนตัวนี้ ที่ดันมากิน
เนื้อตากแห้ง และมาหยาม ถึงถิ่นของแก
พี่ชิตเดินกลับไปที่บ้าน เพื่อเตรียมอุปกรณ์ ในการแล่
เนื้อ พร้อมกับสั่งให้ผม เฝ้าซากหมาขี้เรื้อนตัวนี้เอาไว้
แต่ผมก็มัวแต่เก็บตะขบ จนลืมดู
พอพี่ชิตมาถึง ก็โวยวายกับผมว่า ซากหมาหายไปไหน
พร้อมกับวิ่งตาม รอยเลือด หมาขี้เรื้อนตัวนี้ พร้อมกับ
บ่นว่า… “ ทำไมมันไม่ ต า ย วะ ”
หมาขี้เรื้อน … เปลี่ยนหัวใจคนใจดำ
สักพักหนึ่ง แกก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกก็ตามเสียง
ไปทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็นคือ หมาขี้เรื้อน กำลัง
จะ ต า ย มันมีลูก ที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังกินนมอยู่
บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อ ที่แม่หมาขี้เรื้อน คาบไปฝาก
(เห็นกับตา) แม่หมาขี้เรื้อนตัวนี้ มัน ต า ย แล้วฟื้น คงไม่ใช่
แต่ที่มัน ยังไม่ยอม ต า ย ก็เพราะจิตใจอันเข้มแข็ง ของมัน
ที่ปลุกเร้าเยื่อใย ที่คงเหลือ อย่างเหนียวแน่นว่า…
ต้องกลับไปให้ได้ เพื่อให้ลูกมันกินนมครับ
การตีของพี่ชิตนั้น กระทบกระเทือน ถึงหัวสมองแตก
เลือดสาดเป็นลิ่มๆ แต่มันก็ยัง ลากตัวมันเอง กระเสือก
กระสน ล้มลุกคลุกคลาน เพื่อกลับมาหาลูกของมันจนได้
และสิ่งที่เห็นคือ… การกระทำที่ยิ่งใหญ่ ของความเป็นแม่
ที่รักลูกมากเป็นที่สุด โดยไม่ห่วงตัวจะ ต า ย นี่จิตใจอัน
ยิ่งใหญ่ของแม่ ที่ไม่ว่าสัตว์ หรือคน ก็มีจิตใจเช่นนี้
แม้มันจะ ต า ย ก็ขอให้ลูกพวกมัน ได้อิ่มซักมื้อ
แม่หมาพยายาม อย่างดีที่สุดแล้วครับ ผมไม่อยากจะเชื่อ…
นั่นคือ น้ำตา ของแม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น มันมองผมกับพี่ชิต
เหมือนขอร้อง เป็นครั้งสุดท้าย ที่มันต้องการให้นมลูก
ก่อน ต า ย
สายตาของมันเศร้ามาก มันมองผมกับพี่ชิต อย่างวิง
วอนทางสายตา ที่ขอร้องของมัน เพื่อขอให้มัน
ได้ให้นมลูกของมัน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะ ต า ย
พี่ชิต ไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดู แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น
ในยามนั้น… สิ่งที่แกเห็น ไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นจิตใจ
แห่งความเป็นแม่ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทนเจ็บปาง ต า ย
เพื่อกลับไปหาลูกให้ได้
ไม่พูดอะไร… ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ… สายตาพี่ชิต
ที่แข็งกร้าว กลับอ่อนโยนลง พร้อมกับมีลูกหมาตัวหนึ่ง
วิ่งไปหาแก กระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้น พร้อมมองไปที่ สายตา ของแม่หมาขี้เรื้อนนั้น
อย่างสำนึกผิด และพูดคำว่า “ขอโทษ” พูดได้แค่นั้น แม่หมาก็สิ้นใจ ต า ย อย่างตาหลับ
ผมกับพี่ชิต ช่วยกันฝังแม่หมาตัวนี้… พร้อมๆ กับจิตสำนึก
ที่เกิดใหม่ ของพี่ชิต ที่เปลี่ยนไป ราวกับคนละคน
แกรับเลี้ยง ลูกหมานั้นไว้ ทั้ง 5 ตัว และตั้งแต่นั้น
แกกลายเป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนก ยิงหมา ยิงแมวอีก แกบอกว่า…
” มันอาจจะมี ลูกรออยู่ก็ได้ ”
วันเกิดของแม่ ปีที่แล้ว แกเอามะลิ ร้อยเป็นพวง ไปให้แม่
ทั้งๆ ที่ ไม่เคยทำมาก่อน พี่ชิตกราบแม่ พร้อมพูดกับแม่ว่า
“แม่ครับ… ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผม ยังไงนะ สอนอีกหน
ได้ไหมครับ” แม่แกน้ำตาคลอ พูดไม่ออก
_____________________
เค้ามีชีวิต เหมือนที่คุณมี
เค้ามีหัวใจ เหมือนที่คุณมี
เค้ามีความรัก เหมือนที่คุณมี
ใครซักคนพูดไว้ว่า…
หากคุณลองเลี้ยงสุนัขซักตัวด้วยรัก แล้วคุณจะรู้ว่า
“รักแท้” เป็นเช่นไร
โปรดเมตตา T^T
โปรดแชร์ เพื่อหวังว่า เรื่องราวนี้ จะเปลี่ยนหัวใจของ
ใครได้อีกหลายๆคน
เครดิต A CALL for Animal Rights Thailand