Home เรื่องน่ารู้ 7 วิธีเปลี่ยนตัวเองจากคนใช้เงินเก่ง เป็นคน มีเงินเก็บ

7 วิธีเปลี่ยนตัวเองจากคนใช้เงินเก่ง เป็นคน มีเงินเก็บ

16 second read
ปิดความเห็น บน 7 วิธีเปลี่ยนตัวเองจากคนใช้เงินเก่ง เป็นคน มีเงินเก็บ
0
4,529

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนนิสัการใช้เงินเก่งให้เป็นคนที่เก็บเงิน

กับบทความ 7 วิ ธีเปลี่ยนตัวเองจากคนใช้เ งิ นเก่ง เป็นคน มีเ งิ นเก็บ ไปดูกันว่าจะต้องทำอย่ างไรบ้าง

 

1 แบ่งเงินทันที

ทันทีที่เงินออ ก สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดสรรเงินให้เป็นก้อน ๆ ก้อนหนึ่งไว้ใช้จ่ายทั่วไปในชีวิตประจำวันก้อนหนึ่งใช้หนี้

อีกก้อนหนึ่งไว้ให้รางวัลตัวเอง และต้องไม่ลืมแบ่งอีกก้อน เป็นเงินออมไว้เผื่ออนาคตด้วยซึ่งการจัดสรรเงินนี้สามารถประยุกต์

ได้ตามรายรับรายจ่ายของแต่ละคน

 

2 ใช้จ่ายอย่ างรู้ตัว

ถ้าของมันต้องมี คงไม่ดีถ้าไม่ ซื้ อ ความอย ากได้ อย ากมี อย ากกินอย าก ซื้ อ ที่เกินความจำเป็นในชีวิตเรานั้น มีกันทุกคน

ดังนั้นเราสามารถ ซื้ อ ทุกอย่ างที่ต้องการได้ตราบเท่า ที่มีเงินจ่ายแต่ต้องยึดกฎเหล็กว่าจะต้องไม่สร้างหนี้และไม่ไปดึงเงิน

ก้อนอื่นที่แบ่งไว้แล้วก่อนหน้านี้มาใช้

 

3 ออมให้เป็นนิสัย

ไม่จำเป็นต้องอ ดทุกความสุข หมดสนุกกับทุกอย่ าง เพราะเราวางแผนเองได้ว่าจะออมเท่าไหร่จะใช้วิธีออมทีละนิดอย่างสม่ำเสมอ

หรือจะเข้มงวดต ามสูตรออมขั้นต่ำร้อยละ 10 ของรายรับก็ได้แต่อย่ าละเลยการออมเงิน

 

เพราะเงินส่วนนี้นี่แหละที่จะช่วยให้อยู่รอ ดในย ามคับขัน รวมถึงเป็นเงินสำหรับใช้จ่ายในอนาคตต ามหลักแล้ว เราควรมีเงินสำรอง

ไว้ใช้ ในกรณี ฉุ ก เ ฉิ นอย่ างน้อย 3 เดือนเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นก็ยังมีเงินใช้

 

และหากบริษัทมีสวัสดิการให้พนักงานเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วยก็ยิ่งดี ซึ่งจะช่วยให้การออมเงิน ของเรานั้นง่ายขึ้นหากเกิดกรณี

ที่จำเป็นต้องใช้เงิน หรือเกษียณงานไปแล้ว ก็มั่นใจได้ว่ามีเงินก้อนให้ใช้แน่นอน

 

4 บันทึกรายรับรายจ่าย

การควบคุมการใช้เงินที่ดีที่สุดก็คือบันทึกการใช้เงินของตนเองซึ่งประโยชน์จากการเขียนรายรับรายจ่ายทุกวันจะทำให้เรารู้รายละเอียด

การใช้เงินในแต่ละวันว่ามีเงินในกระเป๋า อยู่เท่าไหร่หยิบใช้ได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อใช้จ่ายไปแล้วเหลือเท่าไหร่

อีกทั้งยังทำให้เราเห็นรายจ่ายส่วนเกินได้ง่ายจึงช่วยให้ตัดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นทิ้งได้ง่ายขึ้นต ามไปด้วย

 

5 นำไป ล ง ทุ น

การ ล ง ทุ น ที่ดีคือ การทำให้เงินที่นอนอยู่นิ่ง ๆ ไปทำให้งอ กเงย ซึ่งเราสามารถนำเงินไป ล ง ทุ น ได้ต ามรูปแบบที่สนใจ

และเหมาะสมกับรายรับรายจ่าย อย่ างไรก็ต าม ทุกการ ล ง ทุ น มีความเสี่ยงจึงจำเป็นอย่ างยิ่งที่จะต้องศึกษาวิธีการ ล ง ทุ น

ให้เข้าใจเป็นอย่ างดี และเลือ กปรึกษาคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น

 

6 บริหารการชำระห นี้

ห นี้ที่ว่าคือ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่า บั ต ร เ ค ร ดิ ต และอีก ส า ร พัดห นี้ การวางแผนจ่ายห นี้จะช่วยให้การเงินไม่ข า ดสภาพคล่อง

เช่น ชำระหนีห้ตรงเวลา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียดอ กเบี้ย และค่าต ามทวงห นี้ชำระห นี้รายเดือนให้ได้

 

จำนวนเงินขั้นต่ำเป็นอย่ างน้อย ถ้ายังมีเงินเหลือก็โปะห นี้ให้มากหน่อยเพื่อลดเงินต้น หรือถ้าฝืดเคืองจริง ๆ ควรเลือ กจ่ายห นี้

ที่ มี ดอ กเบี้ย สูงก่อนเพื่อตัดวงจรดอ กเบี้ยบานปล า ย

 

7 รั ก ษ า สถานภาพทางการเงิน

การบริหารเงินจะต้องมีวินัยและปฏิบัติต่อเนื่องอย่ างเคร่งครัด ถ้าเริ่มทำได้เป็นระบบอยู่ตัวแล้วก็ต้องรั ก ษ า สถานภาพทางการเงินไว้

ให้ได้ต ามมาตรฐานในตอนแรกด้วย ทั้งนี้อย่ าลืมแผน สำรองสำหรับปรับการใช้เงินให้ยืดหยุ่นต ามสถานการณ์ด้วยเพียงเท่านี้

สภาพการเงินก็จะคล่องตัว และมีความมั่นคงในระยะย าว

 

ที่มา t o n k i t 3 6 0, f a h h s a i

Load More Related Articles
Load More By Young Hug Phai Eek Dai Bor
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

จังหวะชีวิต ของแต่ละ ค น มักจะไม่เหมือนกัน

บางคนเรียนจบตอนอายุ 22 ปี.. แต่ต้องรออีก 2 ปี ถึงจะหางา … …