การลบเพื่อน…บางคน ออกไปจากชีวิต อาจจะทำให้เรามีที่ว่าง สำหรับ “เพื่อนที่ดีกว่า”
ความสัมพันธ์ที่ได้เรียนรู้ “เพื่อน” น้อยลงกลับดีขึ้น
1. ลดจำนวนผู้คนในชีวิตลงบ้าง เพราะจำนวนไม่ได้นำมาซึ่งความสุขเสมอไป
2. ผู้คนที่แวดล้อมตามมาด้วยความคาดหวัง เราอาจเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนมากมาย
แต่ช่วงเวลานั้นกลับไม่ได้เป็นตัวเองเอาแต่พยายามทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกดี
3. ให้เวลากับวงสนทนาเล็กๆ แต่ลึกซึ้งอยู่กับคนที่เรารู้จักเขาเป็นอย่างดี และเขารู้จักเราเป็นอย่างดี
วงสนทนาเช่นนี้ย่อมมีความเห็นอกเห็นใจ มีเมตตา และมิตรภาพที่แท้จริง
4. วงสนทนาที่ดีคือวงสนทนาที่ให้ความสำคัญของการ “ฟัง” ในวงนั้นเรามักได้ฟังความทุกข์ของกันและกัน
เรื่องที่หน่วงใจ เรื่องเช่นนี้ทำให้เรารู้จักกันดีขึ้น
5. วงสนทนาที่เน้นจำนวนคนเหมือนลูกโป่งที่พองตัวขยายใหญ่ แต่ผิวบาง
พร้อมจะแตกโพละได้ทุกเมื่อ ไม่เหนียวแน่น
6. ในวัยหนึ่งเราอาจต้องการมีเพื่อนมาก แต่เมื่อถึงอีกวัยหนึ่งเราจะพบว่า
สิ่งที่ต้องการคือเพื่อนแท้-ซึ่งไม่ต้องมากมายอะไรน้อยแต่ลึกมีคุณภาพกว่ากว้างแต่ว่างโหวง
7. เพื่อนที่แท้ คือ คนที่เรากล้าร้องไห้ต่อหน้าโดยไม่กลัวว่าเขาจะตัดสินเรา
บอกความลับให้เขาฟังได้ กระทั่งเรื่องที่เราผิดพลาดหรือสามารถสารภาพบาปกับเขา
8. เพื่อนแท้อาจมีไม่มาก และเมื่อพบแล้ว เราเองก็มักจะเป็นเพื่อนแท้ของเขาเช่นกัน
9. ถึงเวลาหนึ่งจึงเข้าใจว่า เรามุ่งเน้นความต้องการผิดไป เรามุ่งเน้น “ปริมาณ”
ของความรักจากคนหลายคน แต่อันที่จริงเราอาจต้องการ “ปริมาณ” นั้นจากคนเพียงคนเดียวหรือไม่กี่คน
10. ดอกไม้ปลอมทั้งช่อก็ไม่สวยเท่าดอกไม้จริงเพียงหนึ่งดอก มีเพียงดอกไม้จริงเท่านั้นมีมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ
11. บ่อยครั้งที่หัวเราะเฮฮากับคนจำนวนมาก แล้วรู้สึกเงียบเหงาเมื่อต้องกลับบ้านตามลำพัง
12. ต่างกันกับวงสนทนาคุณภาพที่โอบอุ้มเราไว้แม้เราจะกลับไปอยู่ตามลำพังอีกหนแต่เรารู้สึกเสมอว่า
มีคนที่ห่วงใยเราและพร้อมจะปลอบโยนเราเสมอ
13. การคุยที่เนิ่นนานอย่างลึกซึ้งอาจมีเสียงหัวเราะน้อย แต่กลับทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้–ซึ่งไม่จำเป็นต้องหัวเราะ
14. อย่าได้กังวลว่ามีเพื่อนน้อย จงกังวลว่าไม่มีเพื่อนแท้
15. จะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็น “เพื่อนแท้” ไม่ยากเลย หากเรามีคนเช่นนั้นในชีวิต เราจะรู้สึกขอบคุณที่มีเขา
และเขาเองก็มักขอบคุณที่มีเราในชีวิต เราอาจพบคนเช่นนี้แค่ไม่กี่คน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
“แจกันสวยๆ ไม่ได้ต้องการดอกไม้ทั้งทุ่งมาประดับ”
หากต้องการดอกไม้ที่เหมาะกับแจกันนั้นต่างหาก
เมื่อพบแล้ว ดอกไม้จะทำให้แจกันสวยขึ้น
ขณะเดียวกัน-แจกันก็จะทำให้ดอกไม้สวยขึ้นเช่นกัน
แพะตัวหนึ่ง เจอหมาป่า หมาป่าจะกินแพะ แพะจึงสู้ แพะใช้เขาสู้กับหมาป่า แต่แรงสู้ไม่ได้ ก็เลยต้องตะโกนขอให้เพื่อนๆ
เข้ามาช่วย วัวได้ยิน ชายมองมา เห็นเป็นหมาป่า ก็วิ่งหนีไป ม้า หันมองมา เห็นเป็นหมาป่า ก็วิ่งหนีไปอีกทาง ลา เห็นเป็นหมาป่า
ก็ค่อยๆ เดินหนีไปอย่างเงียบ ๆ แบบไม่ให้ใครรู้ หมู ผ่านมา เห็นเป็นหมาป่า ก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว กระ ต่ า ย ได้ยินเสียงแพะ
ตื่นตูมตกใจ วิ่งหนีแซงเพื่อน ๆ ไปทุกตัว หมา ได้ยิน หันมาดู แล้วก็ รีบวิ่งเข้ามา เพื่อจะสู้กับหมาป่า
เมื่อหมาป่าเห็นมีหมาเข้ามาช่วย จึงวิ่งหนีไป แพะรอด ต า ย กลับมาถึงบ้าน เพื่อนๆ ก็มากันทุก “ตัว”
เมื่อแพะเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
วัวบอก “ทำไมไม่บอก ข้าจะใช้เขาของข้า แทงทะลุท้องมัน”
ม้า “ทำไมไม่บอก ข้าจะใช้เกือกของข้า กระทืบมัน”
ลา “ทำไมไม่บอก ข้าจะร้องเสียงดัง ๆ ให้หมาป่าตกใจ ต า ย”
หมู “ทำไมไม่บอก ข้าจะใช้ปากของข้า พุ่งชนให้มันตกเขาไป”
กระ ต่ า ย “ทำไมไม่บอก ข้าวิ่งเร็ว ข้าจะไปส่งข่าวของความช่วยเหลือ”
ในการพูดคุยกันอย่างเมามันนี้ มีอยู่ตัวเดียวที่ไม่ได้พูดอะไร ก็คือ หมา
มิตรภาพที่แท้จริง ไม่ใช่ดูที่คำพูดที่แสนหวาน แต่เป็น มือ ที่ยื่นเข้ามาให้ความช่วยเหลือตอนที่เพื่อนคับขัน
พวกที่อยู่ล้อมหน้าล้อมหลังคุณ พูดจาทำให้คุณรู้สึกดี อาจจะไม่ใช่เพื่อนแท้ของคุณ
แต่กับใครบางคน ที่ดูเหมือนห่างไกล แต่ใส่ใจคุณตลอดเวลา
ตอนคุณมีความสุข ไม่ไปสมทบ แต่ตอนคุณต้องการช่วยเหลือ จะทำเพื่อคุณอย่างเงียบๆ และเป็นห่วงใส่ใจคุณ
นั่นเป็นเพื่อนแท้ของคุณ..
ในทางพุทธศาสนานั้น กล่าวถึงเรื่อง เพื่อน ไว้ดังนี้
มิตรแท้ 4
เพื่อน ต า ย เพื่อนที่คอยช่วยเหลือเพื่อนอย่างจริงใจโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
เป็นมิตรที่หวังดี มีสิ่งดี ๆ ให้กันด้วยความจริงใจ
1. มิตรมีอุปการะ คอยคุ้มครองป้องกันเพื่อนของตน ทั้งเป็นที่พึ่งของเพื่อนได้ และเพื่อนก็พึ่งได้
– ป้องกันเพื่อนผู้ประมาท
– ป้องกันทรัพย์สมบัติของเพื่อนผู้ประมาท
– เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งพำนักได้
– เมื่อมีธุระ ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก แม้แต่ชีวิตเรายังสละได้
2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ เพื่อนสนิทเหมือนญาติ ไว้วางใจกัน คอยช่วยเหลือเกื้อกูล
– บอกความลับแก่เพื่อน ต่างฝ่ายต่างเผยความลับของตนแก่เพื่อน ถ้าความลับนั้นมีจุดอ่อนหรือปมด้อยก็ช่วยกันแก่ไข และ เป็นการให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
– ปิดความลับของเพื่อน ไม่ให้ผู้อื่นรู้
– ไม่ละทิ้งยามวิบัติ เมื่อเวลาที่เพื่อนตกทุกข์ได้ยากก็คอยช่วยเหลือไม่ละทิ้ง
– แม้ชีวิตก็อาจสละแทนได้
3. มิตรแนะนำประโยชน์ เพื่อนที่คอยแนะนำแต่ในทางที่ดี มีลักษณะเหมือนครู
-ห้ามไม่ให้ทำชั่ว
-แนะนำให้ทำแต่ความดี
-ให้ฟังในสิ่งที่ยังไม่เคยทำ
-บอกไปสู่อนาคตอันสดใส ด้วยการแสวงหาความรู้หรือปัญญา
4. มิตรมีความรักใคร่ ได้แก่ เพื่อนประเภทสหาย มีลักษณะสำคัญ ๔ ประการคือ
-ทุกข์ ทุกข์ ด้วย หรือ ไม่ยินดีด้วยความเสื่อมของเพื่อน
-สุข สุข ด้วย หรือ ยินดีด้วยความเจริญของเพื่อน
-โต้เถียงผู้ที่ติเตียนเพื่อน หมายถึง เมื่อเห็นคนอื่นติเตียนเพื่อนของเรา ไม่ว่าต่อหน้าและลับหลัง ก็ช่วยพูดจาชี้แจงให้เข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อนไม่ให้เพื่อนเสียหาย
-รับรองคนพูดสรรเสริญเพื่อน หมายถึง เมื่อเห็นคนพูดจาชมเชยเพื่อนก็พูดจาสนับสนุน
เราจะไปมองแต่ผู้อื่นก็ไม่ได้ ตัวเราเองก็ต้องทำตัวให้เป็นมิตรแท้สำหรับผู้อื่นที่ได้คบหากันด้วย
มิตรเทียม 4
1. คนปอกลอก คนประเภทนี้ไม่ใช่มิตรแต่แสดงตัวว่าเป็นมิตร ซึ่งหวังผลประโยชน์จากคนที่คบด้วย
-คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
-เป็นคนเสียให้น้อย แต่คิดเอาให้ได้มาก
-มีภัยเห็นแก่ตัวไม่ยอมช่วยเหลือใคร แต่เมื่อตนประสบปัญญาแล้วจึงมาแกล้งแสดงตัวเป็นมิตร
-เป็นคนคบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัว
2. คนดีแต่พูด พูดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
-เก็บของล่วงแล้วมาปราศรัย(พูด) คือ พวกที่คอยเรียกร้องความสนใจ ส่วนใหญ่แล้วจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตมาพูด
-อ้างเอาของที่ยังไม่มีมาปราศรัย คือ พวกที่ชอบพูดในเรื่องของอนาคต พูดในทำนองการพยากรณ์ ทำตัวเป็นผู้รอบรู้
-สงเคราะห์ด้วยสิ่งที่หาประโยชน์มิได้ คือ ถ้าช่วยเหลือคนที่คบกันอยู่ก็จะช่วยเหลือแบบเล่น ให้สิ่งที่ไม่มีประโยชน์
-ออกปากพึ่งมิได้ เมื่อเพื่อนต้องการพึ่งเพราะมีความเดือดร้อนบางอย่าง ก็บ่ายเบี่ยงแบ่งรับแบ่งสู้
3. คนหัวประจบ เป็นคนที่คอยตามใจเพื่อน ให้เพื่อนเป็นผู้นำส่วนตนนั้นทำตัวเป็นผู้ตาม เพราะหวังผลประโยชน์ไม่ว่าสิ่งใดก็สิ่งหนึ่ง
-จะทำชั่วก็เออออ
-จะทำดีก็เออออ
-ต่อหน้าว่าสรรเสริญ
-ลับหลังนินทาเพื่อน
4. คนชักชวนในทางฉิบหาย คบเพื่อนเพื่ออาศัยเพื่อนเป็นเครื่องมือหาความสนุกเพลิดเพลิน
-ชักชวนให้ดื่มน้ำเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
-ชักชวนเที่ยวกลางคืน
-ชักชวนให้มัวเมาในการเล่น
-ชักชวนเล่น ก า ร พ นั น
cr: นิ้วกลม