1. หยุดวงจรการสร้างหนี้
–หยุดการใช้บัตรเครดิต
แม้ว่าบัตรเครดิตจะเป็นตัวช่วยในการจับจ่ายใช้สอยสำหรับคนในยุคปัจจุบันก็จริง
แต่ด้วยรูปแบบการใช้งานที่แสนสะดวกสบาย
ใช้ผ่อนสินค้าง่าย แถมยังมีส่วนลดล่อตาล่อใจ ทำให้บัตรเครดิตกลายเป็นตัวสร้างหนี้
ได้ด้วย เช่นเดียวกันถ้าคุณมีบัตรเครดิตอยู่
หลายๆใบ และไม่สามารถวางแผนการใช้ได้ แน่นอนว่าก็อาจจะสร้างหนี้เกินกว่าที่จะจ่ายไหว
ทางที่ดีนั้น คุณจะต้องหยุดการใช้บัตรเครดิต เพื่อเป็นการปลดหนี้บัตรเครดิตให้หมดไวนั่นเอง
-ห้ามยุ่งกับการกู้หนี้นอกระบบ
แม้จะอยู่ในช่วงที่กระแสเงินสดขาดมือ มากขนาดไหนก็ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการกู้หนี้นอกระบบเด็ ดขา ด
เพราะการกู้หนี้นอกระบบจะทำให้คุณเจอกับเจ้าหนี้
ที่คิดด อกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่ากฎเกณฑ์ ทำให้หนี้สินที่มีอยู่เพิ่มมากขึ้นเกินกว่าความสามารถใน
การจ่าย แถมยังเ สี่ ย ง อั น ต ร า ยกับการถูกตามทวงหนี้ด้วย
-เลิกใช้วิธีหมุนเงินเพื่อโปะยอดหนี้
การยืมเงินจากเพื่อนอีกคนหนึ่งมาโปะยอดหนี้ให้อีกคนหนึ่งหรือการใช้วิธีถอนเงินสดจากบัตรเครดิต
ออกมาเพื่อใช้จ่ายหนี้อื่น ๆทั้งหมดนี้ล้วนไม่ใช่วิธีที่ทำให้คุณปลดหนี้ได้ แถมยังมีโอกาส
เพิ่มหนี้สินจากการเพิ่มอัตราด อกเบี้ยในส่วนที่หยิบยืมเงินจากอนาคตมาใช้ รวมถึงอาจทำให้เสี ย
ความเชื่อใจกับคนรอบข้างได้ด้วย ดังนั้นการปลดหนี้ให้ได้ผลจึงควรเลิกใช้วิธีการหมุนเงิน
เพื่อโปะยอดหนี้คงค้างเดิม แต่ควรจะเริ่มจากการลดค่าใช้จ่ายและเริ่มปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
ด้วยการวางแผนการชำระหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะดีกว่านะ
2. แยกประเภทหนี้ให้ถูกต้อง
โดยคุณสามารถแบ่งแยกหนี้ที่มีออกเป็น 2 กลุ่มได้ดังนี้
-หนี้ดีการปลดหนี้ด้วยการคัดแยกหนี้ดีและหนี้ไม่ดี เป็นวิธีการจัดหมวดหมู่
หนี้ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้พฤติกร ร มการใช้เงินที่ก่อให้เกิดหนี้ตามมาได้ในทีเดียวโดยจะต้อง
จำแนกให้ได้ว่า หนี้ที่มีอยู่หลายก้อนนั้นเป็นหนี้ที่สามารถสร้างรายได้กลับมาให้ในภายหลังได้หรือไม่
-หนี้ไม่ดีเป็นหนี้ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ตามมาเลย ยกตัวอย่างหนี้ทั้ง 2 รูปแบบ
เช่น หนี้จากการซื้ อสินค้า เสื้อผ้า หรือของใช้ต่างๆ ที่เป็นสินค้าตามแฟชั่น ตลอดไปจนถึงการกินอาหารหรู
มื้อละหลายร้อยบาท ทั้งหมดนี้เป็นหนี้ไม่ดีที่เกิดจากความฟุ่มเฟือยของตัวเอง ส่วนประเภทหนี้สินที่
เกิดจากการลงทุน อย่ างการปล่อยเช่าอสังหาฯ จะเป็นหนี้ที่จัดอยู่ในประเภทหนี้ดีที่สามารถสร้างรายได้
จากค่าเช่า ซึ่งช่วยในการผ่อนทรัพย์
สินที่ซื้ อมา แถมยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา หากต้องการจะขายในภาย
หลังก็ยังสร้างกำไรให้กับเจ้าของหนี้ได้อีกด้วย
-จัดลำดับหนี้ตามอัตราการเสี ยด อกเบี้ย
หลังจากจำแนกหนี้ดี-หนี้ไม่ดีได้แล้ว ก็ให้นำหนี้ทั้ง 2 ประเภทมาจัดอันดับและแยกแยะ
เพื่อเข้าสู่กระบวนการปลดหนี้ในขั้นต่อไป นั่นก็คือ
การเรียงลำดับว่าหนี้ก้อนไหนเป็นหนี้สินที่จะต้องเสี ยด อกเบี้ยมากสุดให้เริ่มปลดหนี้ส่วนนั้น
ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อหยุดวงจรการทบต้นทบดอกของหนี้ที่เกิดขึ้น
ซึ่งจะช่วยทำให้ปลดหนี้ได้ไวยิ่งขึ้นด้วย
3. รู้จักวิธีช่วยลดหนี้
แน่นอนว่าหนี้นั้นต้องมาพร้อมกับด อกเบี้ย ที่ถ้าปล่อยไว้เรื่อย ๆ มันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่
ซึ่งแนะนำให้รู้จักกับวิธีการลดภาระดอกเบี้ย
จากการรีไฟแนนซ์ ที่เป็นวิธีการชำระเงินกู้เดิมด้วยเงินกู้ใหม่และใช้สินทรัพย์เดิมเป็นหลักประกัน
โดยสามารถทำได้จากการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินแห่งใหม่เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่
4. ปรับแผนการเงินใหม่
วิธีการที่จะช่วยทำให้ปลดหนี้ได้เร็ว และยั่งยืนมากที่สุด ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยลดหนี้และควบคุมค่า
ใช้จ่ายได้ดีแล้ว ยังเป็นพื้นฐานของการวาง
แผนทางการเงินให้ชีวิตสามารถบรรลุสู่เป้าหมายที่ตั้งใจในระยะยาวได้
อีกด้วย เริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วย 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
-ขั้นที่ 1 : วางแผนรายรับ-รายจ่าย
สาเหตุที่คนเรามักมีพฤติก รรมการใช้จ่ายเกินตัว เป็นเพราะมองไม่เห็นว่าในแต่ละเดือนเราหมดเงิน
ไปกับสิ่งต่างๆ มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นการ
เริ่มต้นปลดหนี้ด้วยการวางแผนรายรับ-รายจ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้มองเห็นภาพกว้างมากขึ้นว่า
ในแต่ละเดือนควรสร้างสมดุลให้กับ
รายรับและรายจ่ายให้เกิดขึ้นได้ด้วยการสร้าง 2 บัญชีหลักไว้สำหรับบัน
ทึกค่าใช้จ่าย ดังนี้
-บัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวัน
เป็นรูปแบบบัญชีที่ช่วยในการสำรวจตัวเองว่าการใช้เงินในแต่ละวันนั้นเกินงบที่ตั้งไว้แต่แรกหรือไม่
มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่เสี ยไปแบบเปล่า
ประโยชน์เพราะพฤติกร ร มแบบเดิมๆ หรือเปล่า เช่น ค่า ชา กาแฟ ที่ต้อง
จ่ายวันละ 20-30 บาท ฯลฯ
-บัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน
เป็นบัญชีภาพรวมที่จะทำให้มองเห็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่ามีสัดส่วนเป็นอย่ างไร โดยต้องทำการ
แบ่งหมวดหมู่การใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือนไว้
ว่ามีรายรับและรายจ่ายอะไรที่หมุนเวียนในเดือนนั้นๆ บ้าง และควรลดสัดส่วนการใช้จ่ายตรงไหน
ถึงจะสามารถหักลบกลบกับหนี้ที่มีได้ทันกับเวลาที่กำหนด
-ขั้นที่ 2 : ตั้งเป้าหมายทางการเงิน
สำหรับคนที่ยังมีหนี้ การตั้งเป้าหมายในครั้งนี้อาจจะเป็นการตั้งเป้าการชำระหนี้ให้ครบโดยเร็ว
ซึ่งอาจใช้การกำหนดเวลาช่วยด้วยก็ได้ เช่น มี
หนี้อยู่ทั้งสิ้น 1 ล้านบาทต้องการชำระให้หมดภายใน 2 ปี การตั้งเป้าแบบนี้ก็จะช่วยทำให้คุณมองเห็นว่า
หากต้องการใช้หนี้จำนวนนี้ในระยะเวลา2 ปี ในแต่ละเดือนควรจะเริ่มทำอะไรบ้าง เป็นต้น
-ขั้นที่ 3 : รู้จักการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ
การลงทุนก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้คุณบรรลุเป้าหมายในการปลดหนี้ได้ไวขึ้นด้วย
โดยอาจจะแบ่งหนี้ที่สามารถชำระได้ในระยะยาว
ออกมา และคำนวณดูว่าการลงทุนแบบไหนที่จะสามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอจะชำระหนี้ก้อนนี้
ได้บ้าง แต่ก็อย่ าลืมว่าการลงทุนมาพร้อม
กับความเ สี่ ย ง ดังนั้นการบริหารความเ สี่ ย งด้านการลงทุนเท่าที่รับไหวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ต้องใช้เวลาศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้นการลงทุน
5. เข้าไปคุยกับธนาคาร
เมื่อเป็นหนี้ก็อย่ ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ ดังนั้นการเลือกเข้าไปคุยกับธนาคาร
จึงถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดเพื่อขอประนอมหนี้
และทำการตกลงกับทางธนาคารในการปลดหนี้ที่มีทั้งหมดใหม่ เช่นการขอปรับลดดอกเบี้ย
ชั่ วคราว การขอหยุดชำระหนี้ ชั่ ว คราว ฯลฯ
เพื่อเป็นการคืนสภาพคล่องทางการเงินและตั้งหลักได้ง่ายขึ้น ซึ่งการพิจารณาประนอมหนี้
ทั้งหมด จะแล้วแต่กรณีและขึ้นอยู่กับทางธนาคารว่า
จะเริ่มต้นปรับโครงสร้างหนี้อย่างไรได้บ้าง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นให้ก่อนในระยะสั้น
แต่อย่ างไรก็ตามคุณจะต้องหาวิธีปลดหนี้ ให้ได้จนกว่าจะสำเร็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นศาล
และการถูกฟ้องร้องที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง
ขอขอบคุณ b l o g.g h b a n k