สำหรับวันนี้เราก็มีข้ อคิดหรือจะเรียกว่าแนวทางการเลี้ยงลูกก็ได้ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ ที่ตอนนี้อาจจะเป็น
มือใหม่หรือใครที่กำลังมีลูกที่ยังเล็กเป็นแนวทางการสอนลูกให้เขาเติบโตไปมีปีกบินที่แข็งแ ร ง
และสามารถเอาตัวรอ ดได้ในสังคมที่กว้างใหญ่ ซึ่ง อั น ต ร า ย อยู่รอบตัว
พ่อแม่บางคน กลัวลูกลำบาก จึงหวังดีเลี้ยงลูก แบบไข่ในหิน ไม่ค่อยให้เขาได้เผชิญความลำบาก อย ากให้ลูกสบาย
จึงทำให้พวกเขา ติ ด ความสบาย จนเคยตัวเมื่อเติบโตขึ้น จึงมักพึ่งพาตนเองไม่ค่อยได้ ส่วนพ่อแม่อีกกลุ่ม
อย ากให้ลูกมีคุณภาพ สามารถพึ่งพาตนเองได้
ก็ให้แบบทดสอบชีวิต ที่ลำบากเกินกว่าวัย ทำให้รู้สึกกดดัน มากเกินไป ทำให้ดื้ อเกเร และไม่เชื่อฟังพ่อแม่อีกเลยก็มี
หากคุณคิดว่า คุณเลี้ยงลูกถูกต้องแล้ว ลองมาดูวิ ธีการเลี้ยงลูก แบบนกอินทรีกันดีกว่า
เ พ รา ะนกอินทรี มีการเลี้ยงดู และฝึกฝนลูกๆ ในแบบเป็นขั้นเป็นตอน
เหมาะสมกับวัยกว่าจะได้มา เป็นเจ้าแห่งท้องฟ้านั้น ลูกนกอินทรีนั้นต้องผ่ า น อะไรกัน มาบ้าง ลองมาดูกัน ก่อนที่จะวางไข่
ทั้งพ่อและแม่นกอินทรี จะช่วยกันสร้าง รังบนหน้าผาที่สูงชัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกรบกวน จากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
และฝึกลูกให้ชินกับพื้นที่สูงๆ ที่มีอากาศ ห า ยใจน้อยและเบาบาง
1.แม่นกจะวางก้อนหินก้อนใหญ่ๆ
วางล้อมกรอบเป็นวงขนาดพอตัว
2.แม่นกจะวางท่อนไม้ ท่อนโตๆไขว้กันไปมา
เพิ่มความแข็งแ ร งของรัง
3.แม่นกจะวางกิ่งไม้ ที่มีหนามขนาดใหญ่
วางพลาดระหว่างท่อนไม้ซ้อนไปมา
4.แม่นกจะวางใบไม้หนาๆเพื่อป้องกัน
หนามที่แหลมคมจากกิ่งไม้ และเป็นพื้นนอนได้
5.แม่นกจะจิกขนอ่อนใต้ปีก ของตนเอง
ออ กมาทำเป็นที่นอนนุ่มๆ สำหรับให้ลูก นอนสบาย
พ่อและแม่นกอินทรี จะคอยดูพัฒนาการ ของลูกๆในรัง
เมื่อใช้เวลาเลี้ยงลูกน้อย ในรังจนเติบโตได้
ในระดับหนึ่ง จนสามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว แม่นกจะเริ่มฝึก
ลูกนกอินทรีย์ แบบเป็นขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนสำคัญ ของการฝึกลูกนกอินทรี ในรังแบบ 5 ชั้น
ขั้นที่ 1
แม่นกเริ่มคาบ เอาขนที่อ่อนนุ่ม ออ กจากรัง เพื่อไม่ให้ได้นอนสบายเหมือนเดิม
ลูกจะเริ่มได้เรียนรู้ ถึงความลำบาก ซึ่งแรกๆ ลูกจะร้อง แต่ต่อมาจะค่อยๆ ปรับตัวได้ในที่สุด
ขั้นที่ 2
เอาใบไม้ออ ก จากรังจนหมด จนเหลือแต่กิ่งไม้แข็งๆ ไว้เป็นที่นอน ซึ่งลูกนก ก็จะต้องพย าย าม
นอนให้ได้ และต่อมา ลูกนกจะเริ่มชิน กับการนอนแบบนี้ ซึ่งการนอนบนหนาม ก็มีข้ อ ดีคือ
เมื่อนอนพลิกตัวไปมา จะโดนหนาม ทำให้ฝึกสัญชาตญาน ให้รู้สึกตัวอยู่ตลอ ดเวลา
และต้องมีสติแม้เวลานอนก็ต าม
ขั้นที่3
เอากิ่งไม้ที่มีหนามออ ก คราวนี้ไม่มีให้นอน ดังนั้นลูกนกจะต้อง เรียนรู้ที่จะใช้ขาเกาะกิ่งไม้ ให้แข็งแ ร ง
เป็นการฝึกกล้าม เ นื้ อ ขาให้แข็งแ ร ง แล้วลูกนก ต้องสามารถหลับได้โดย การเกาะกิ่งไม้นอน
ขั้นที่ 4
เอากิ่งไม้ออ ก เหลือเฉพาะรากฐาน ที่เป็นก้อนหิน เป็นพื้นแข็งซึ่งคราวนี้ แหละจะลำบากที่สุด
เ พ รา ะไม่มีแม้ แต่กิ่งไม้ให้เกาะ เพื่อสร้างความอ ดทน ให้ลูก ทุ ก ตัว เตรียมพร้อมที่จะบิน
ขั้นที่ 5
สอนบิน แม่นกจะเริ่มคาบลูกนกทีละตัว แล้วบิน ขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อให้ลูกนกได้เห็นโลกกว้าง
ที่ไม่เคยเห็น มาก่อน และ ให้เคยชินกับอากาศเย็นๆ มีลมพัดแ ร งๆ ในที่สูงๆ จากนั้นก็จะนำลูกนก
กลับรัง และเปลี่ยนเอาตัวอื่นๆ ไปจนครบหมด ทุ ก ตัว วันต่อๆมา แม่นกจะไม่คาบลูกนกบิน แต่จะกางปีก
ลงไปที่รัง แล้วให้ลูกนกปีนขึ้น มาบนปีกของแม่แทน จากนั้นแม่นก ก็จะพาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และพา
ลูกนกกลับมาคืนรัง โดยทำแบบนี้วนซ้ำไปเรื่อยๆ คราวนี้แม่นกพาบินทีละตัว แม่นกบินไปมา อ ย่ างรวดเร็ว
ขึ้นลงบนท้องฟ้า แม่นกเริ่มพาลูกบินสูงขึ้น และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ลูกนกยังไม่ทันได้ ตั้งตัว
แม่นกก็สลัดปีกตัวเองอ ย่ างแ ร ง จนลูกนกตัวน้อย ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ และ ต ก ล ง มาอ ย่ างรวดเร็ว
ลูกนก ต ก ใจ ได้แต่ร้องดังลั่น และพย าย ามกางปีกออ ก เพื่อประคองตัวเอง พอใกล้จะถึงพื้น ลูกนกยังไม่ทัน
จะได้กางปีกออ ก แม่นกก็บิน มาโฉบรับลูก ก่อนจะถึงพื้นได้อ ย่ างแม่นยำ และพาลูกนกกลับ
รังอ ย่ างปลอ ดภั ย แล้วแม่นกก็จะเริ่มฝึกลูกแบบนี้ ทุ ก ตัว จนกว่าลูกจะสามารถ กางปีกและบินเองได้
ในที่สุดเมื่อถึงวันนั้น หน้าที่ของพ่อแม่นกเหล่านี้ก็ เรียกได้ว่าสำเร็จแล้ว ลองหันกลับมาถาม ตัวคุณดูซิว่า
คุณเลี้ยงลูกได้ถูกทางแล้วหรือยัง คุณกำลังฝึกทักษะต่างๆ ให้ลูกสามารถ
เอาตัวรอ ดบนโลกใบนี้ ได้ด้วยตัวเอง โดยเหมาะสม ไปต ามวัยอันควรหรือไม่ หรือคุณกำลัง เร่งรัดลูกมากเกินไป
จนอาจทำให้ลูกๆ รู้สึกอึดอัด และไม่ค่อย เชื่อฟังคำสั่ง หรือคุณกำลังช่วยเหลือลูกๆ ทุ ก อ ย่ าง มากเกินไป
โดยไม่ปล่อยให้พวกเขา หัดทำอะไรเองไหม พ่อแม่ ทุ ก คนรักลูก
แต่ต้องรักและเลี้ยงดูให้ถูกทางด้วยนะคะ เ พ รา ะหากคุณโอ๋ลูกมากจนเกินไป สุดท้ายแล้วเมื่อเติบโตขึ้น
พวกเขาอาจไม่ใช้ ผู้ใหญ่ที่ปีกกล้า ขาแข็งมากพอ ที่จะพึ่งพาตัวเองได้ ดังนั้นควรปล่อยให้เขา
ได้เรียนรู้และ ช่วยเหลือตัวเอง ให้ได้ ต ามความเหาะสมในแต่ละวัย
ไม่เร่งรัด หรือ กดดัน มาก เกินไป แต่ก็ไม่เข้าไปช่วยเหลือ จนลูกๆ ทำอะไรเองไม่เป็น
ถ้ารักลูก ต้องรักให้ถูก และเลี้ยงลูกให้เป็น
ที่มา bitcoretech stand-smiling