1. ความเจ็ บป วดชั่ วคราว ช่วยทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น
ทุ กคนมีความอ่อนแอในแบบฉบับของตัวเอง และนั่นก็เป็นเรื่องง่ายมาก
ที่จะโดนจี้จุดทำร้ ายความอ่อนแอตรงนั้น เพราะฉะนั้น เราต้องรักตัวเองให้มาก
ให้มุมมองในด้านที่ดีกับทุ ก ๆ อย่ างในชีวิต
เราทุ กคนล้วนสามารถควบคุมทุ กอย่ างในชีวิต ให้เป็นไปอย่ างที่ต้องการได้
ดังนั้น อย่ าปล่อยให้เรื่องแ ย่ ๆ ชั่ วคราว เข้ามาทำร้ ายสภาพจิตใจและขัดขวางความก้าวหน้าของชีวิตเราได้
2. พอใจ ภูมิใจ ที่ได้เป็นตัวของตัวเอง
หลายครั้งสังคมก็ฉุดให้เราต้องวิต กกังวลในความต้องการที่ตัวเองมี
เราปล่อยให้ความคิดเห็นและความชอบของคนอื่น
เข้ามามีอิทธิพลต่อการเลือกและการตัดสินใจของเรา
กลัวที่จะแปลกแยก กลัวจะไม่เหมือนคนอื่น หากคุณไม่สามารถปล่อยวาง
เพิกเฉยต่อความคิดเห็นและความชอบของสังคมได้ คุณก็จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับความสุขจริง ๆ สักที
3. ไม่ผูกความสุขไว้กับสิ่งใด
บางคนจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อ ได้ทำงานที่นี่ ตรงนี้ หรือมีเ งินเท่านั้น ครอบครัวอย่ างนี้
มันก็เหมือนลาที่วิ่งไล่เชือกพ่วงแครอทที่ถูกคล้องไว้ตรงหน้า
วิ่งต่อไปอีกเท่าไหร่ก็ได้แค่เห็นว่ามันอยู่ตรงหน้า แต่ไม่มีโอกาสได้กิน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนทุ กคน ไม่ว่าจะร วย จะจน จะมีโอกาสล้นฟ้ามาจากไหน
แต่ถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ คุณก็จะไม่มีความสุข เพราะคุณคิดว่าความสุขเป็นผลลัพธ์
แต่มันไม่ใช่.. ความสุขเป็นเหตุที่สร้างขึ้นได้ทันที เมื่อไหร่ ที่ไหน ก็ย่อมได้
หากคุณคิดจะมีความสุข ก็ปล่อยให้ตัวเองได้มีความสุข เท่านั้นเอง
4. คนที่ถูกความโกรธทำร้ ายมากที่สุด คือตัวคนโกรธเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น จบแล้วจบเลย แต่เราแทบทุ กคนไม่ปล่อยให้มันจบอยู่แค่นั้น
เราสร้างเรื่องราวขึ้นมา เชื่อและจมปลักอยู่กับเรื่องราว ราวกับว่ามันติ ดตามเรามาตลอดเวลา
และความโกรธก็คือองค์ประกอบหนึ่งของเรื่องราว คุณกำลังทำร้ ายตัวเองด้วยสิ่งที่ไม่มีตัวตน
ซึ่งนั่นมันคุ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากความโกรธแล้วหรือ.
ขอบคุณที่มา : สถานีความสุข