ปกติพ่อแม่ที่ทำงานนอกบ้านเป็นประจำ การหาเวลาคุยกับลูก ๆ ก็มีน้อยเต็มทีอยู่แล้ว
ยิ่งในยุคที่มี 4G ใช้กันได้เกือบทั่วประเทศ ทำให้การสื่อ ส า ร ผ่ า น
แอพพลิเคชั่นมีบทบาทยิ่งกว่าการพูดคุยกัน เ สี ย อีก กรณีเกิดปัญหาระหว่าง
พ่อแม่กับลูกที่คุยกันไม่รู้เรื่อง มีการสื่อ ส า ร ไม่ตรงกัน
หรือพ่อแม่ไม่เข้าใจลูกช่องว่างตรงนี้ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกไม่อ ย า ก
คุยกับพ่อแม่ก็ได้มีหลายปัจจัยในปัจจุบันที่เป็นเหตุผลให้ เ ด็ ก สมัยนี้ห่างที่จะคุย
อ ย่ า ง เข้าใจกับพ่อแม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขินอาย การอยู่ห่างกัน การเห็น
เพื่อนเป็นที่ปรึกษามากกว่าพ่อแม่
หรือการมีแอพพลิเคชั่นเข้ามาแทนที่การสื่อ ส า ร แบบตัวต่อตัว แต่สิ่งสำคัญที่ลูก
ไม่กล้าหรืออ ย า กเข้ามาคุยกับพ่อแม่อาจเกิดจากเหตุผลเหล่านี้หรือเปล่า
1 เอาเรื่องลูกไปเล่าต่อ
การนำเรื่องที่ลูกไปเล่าต่อหน้าไม่ว่าจะเป็นการพูดเปรียบเทียบในทางไหน ก็เป็นสาเหตุที่ลูกไม่
อ ย า กคุยกะพ่อแม่ในเรื่องของตัวเอง เพราะรู้สึกอับอายหรือไม่ชอบที่จะให้ถูกพูดถึง
2 คอยจ้องจับผิด
พอลูกมีปัญหามาเล่าแทนที่จะรอฟังให้จบหรือถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง แต่กลับคอยมองว่า
ลูกทำไม่ถูก หรือฟังแต่ไม่ช่วยลูกแก้ไขปัญหา เจอแบบนี้ต่อไปลูกก็ไม่อ ย า กคุยด้วยแล้ว
3 พ่อแม่ขี้บ่นกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากช่องว่างระหว่างวัยพ่อแม่อาจจะคิดอีก อ ย่ า ง ลูกอาจจะคิด
ไม่ตรงกับพ่อแม่ ทำให้เกิดความขัดใจกันเมื่อเกิดความไม่พอใจพ่อแม่ก็จะเป็นฝ่ายบ่นลูก
ทำให้ลูกไม่อ ย า กคุยหรือบางทีก็อาจเกิดลุกหนีเข้าห้องของตัวเองไปเลย
4 ทำตัวเป็นนักสืบ
ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เ ด็ ก ๆ ก็เช่นกัน โดยเฉพาะลูกที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น
มักจะต้องการห้องส่วนตัว พื้นที่ส่วนตัวการที่พ่อแม่เข้าไป
ในห้องของลูกโดยไม่บอกกล่าว หรือแอบไปดูสมุดบันทึกส่วนตัวของลูก แทนที่จะ
ให้ลูกเล่าเรื่องประจำวันให้ฟังหรือตั้งคำถามแบบนักสืบจนลูกอึดอัดและอาจหลบ
เลี่ยงหน้าที่จะเจอเพื่อพูดคุยกับพ่อแม่ก็ได้
5 ไม่ได้ฟังลูก อ ย่ า ง ตั้งใจ
เมื่อลูกอ ย า กจะคุยกับพ่อแม่ ก็แค่ฟังให้ลูกพูดจบ ๆไป โดยไม่มีปฏิกิริ ย า โต้ตอบ
หรือไม่มองหน้าลูกเอาแต่ทำงานของตัวเอง เมื่อลูก
จะแสดงความคิดเห็น ก็มีทีท่าไม่สนใจ ในเมื่อพ่อแม่ไม่สนใจฟังบ่อย ๆ เข้าลูกก็ไม่
อ ย า กเดินที่จะมาเล่าเรื่องอะไรของตัวเองให้ฟังอีก
6 ชวนคุยผิดจังหวะ
เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นต่างฝ่ายต่างก็มีเวลาหรือกิจ ก ร ร ม ที่ต้องทำจังหวะที่พ่อแม่ว่างอ ย า กชวนลูก
คุยด้วยอาจไม่ลงตัวในเวลาที่ลูกอ ย า กจะพักผ่อนเล่น เกม อ่ า น หนังสือ
เมื่อถูกขัดจังหวะเข้าแทนที่อ ย า กจะคุยก็ไม่สนใจที่จะฟังพ่อแม่ เมื่อหาเวลาคุยผิดจังหวะ
แบบนี้เห็นที่ทางแก้คงต้องขอเวลาลูกในช่วงว่างที่ลงตัวเพื่อให้เป็นช่วงเวลา ท อ ง
ของครอบครัวที่พ่อแม่ลูกมีเวลาให้กันนะคะ
7 ประมาณว่าเกรงใจเมื่อเห็นพ่อแม่ทำงานเหนื่อย
ใจหนึ่งก็อ ย า กจะเข้าไปปรึกษาหรือเล่าเรื่องของวันนี้ให้ฟัง แต่เมื่อเห็นพ่อแม่
ทำงานกลับมาเหนื่อย ๆ ก็กลัวจะไปสร้างความรำคาญให้
หรือพอจะเข้าไปคุยพ่อแม่กลับไม่สนใจที่จะฟัง เมื่อเกิดช่องว่างตรงนี้ลูกเลยเลี่ยง
ที่จะพูดคุยกับพ่อแม่ หรือพ่อแม่แทนที่จะให้เวลากลับลูกหลัง
กลับบ้านชวนลูกคุยหรือเล่าเรื่องต่าง ๆก็กลับไม่สนใจ จึงกลายเป็นเกิดระยะห่าง
ระหว่างพ่อแม่กับลูกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ขอขอบคุณที่มา จาก p i g d a i l y