1. พูดจาให้น่าฟัง
น้ำเสี ยงที่กังวานแจ่มใส ดังพอประมาณ พูดจาฉะฉานชัดเจนจะดึงดูด
ความสนใจจากผู้ฟังได้มาก การพูดในบางครั้งต้องพูดปากเปล่า
แต่บ่อยครั้งก็ต้องพูดผ่ านไมโครโฟน หากมีโอกาสฝึกฝนเรื่องการใช้เสี ยง
อย่ างเหมาะสมทั้งแบบปากเปล่าและผ่ านไมโครโฟนได้ ก็ควรทำ
เพราะการพูดผ่ านไมโครโฟนนั้น
ต้องมีระยะใกล้ไกลระหว่างปากกับไมโครโฟนที่พอเหมาะเสี ยงจึงจะชัดเจน
ไม่มีเสี ยงเสี ยดแทรกจนผู้ฟังรู้สึกไม่สบายหู หรือรำคาญในการพูดนั้น
ควรมีการเน้นจังหวะและเว้นจังหวะ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจชวนติ ดตาม
2. พูดมีเ นื้อหาส าระ
ห้ามพูดเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าจะคุยกันกับเพื่อน ผู้ร่วมงาน พ่อแม่ หรือพูดในที่ประชุม
หรือที่สาธารณะ ก็ต้องมีเป้าหมายในการพูด
พูดอย่ างมีส าระมีขอบเขตชัดเจนว่าต้องการสื่อส ารเรื่องอะไร หรือต้องการ
จะบอกกับผู้ฟังว่าอะไร
3. พูดให้เกิดความรู้สึกร่วม
วิ ธีการง่าย ๆ คือ สบตากับผู้ฟังอย่ างทั่วถึง ตั้งคำถามในขณะพูดแล้วค่อย ๆ
อธิบายเพื่อนำไปสู่คำตอบ สอบถามผู้ฟังบ้างในบางหัวข้อที่ง่าย ๆ
หรือเป็นเรื่องของประสบการณ์เป็นเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ใช่เรื่อง
ซึ่งเมื่อตอบแล้วอาจถูกหรือผิดทั้งนี้ ผู้พูดจำเป็นต้องรู้พื้นภูมิของผู้ฟังบ้าง
เพื่อพูดในภาษาที่เขาเข้าใจง่าย
บางครั้งการพูดด้วยสำเนียงท้องถิ่นก็ทำให้ผู้ฟังรู้สึกดี รู้สึกเป็นกันเองอย่ าพูด
ไทยผสมกับภาษาต่างประเทศโดยไม่อธิบาย เลือกใช้ภาษาต่างประเทศ
เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
4. พูดถูกก าลเทศะ
ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกนะคะ ที่คนเราจะพูดได้ ต้องมีบ้างบางขณะที่เราควรหยุดพูด
เพื่อเป็นผู้ฟังคนอื่นพูดบ้าง คนบางคนถูกตั้งข้อสังเกตว่า “ผ ีเจาะปากมาพูด”
คือได้แต่พูด (พูด ๆ ๆ ๆ)
ฟังไม่เป็น ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นพูด ทำตัวเป็นผู้รู้ไปหมดทุ กเรื่อง จึงพูดอยู่ตลอดเวลา
คนแบบนี้น่ารำคาญ… จริงไหมอย่ าทำตัวน่ารำคาญด้วยการพูดจาไม่หยุดไม่หย่อน
ไม่ดูวาระและโอกาส คนพูดเป็นจะรู้ว่าโอกาสไหนควรพูด โอกาสไหนควรฟัง
และโอกาสไหนควรวางเฉย หลักการพูดให้ถูกก าลเทศะทำได้ง่าย ๆ คือ ดูว่าเรา
ต้องพูดในหัวข้อไหนเรื่องอะไร พูดที่ไหน ใครฟัง
ผู้ฟังกี่คน ฟังกันในที่เปิดเผย หรือในห้องจำกัดพูดสั้นหรือ พูดย าวจริงจัง หรือกันเอง
ใครอ่ านสถานการณ์ออกเตรียมตัวพร้อมก็สามารถพูดจาได้น่าจดจำตามวาระและ
โอกาสนั้น ๆ ได้เสมอ
5. คนจะพูดดีได้ต้องเริ่มจากคิดดีก่อน
ไม่มีประโยชน์ที่เราจะเริ่มต้นจากการ คิ ด ร้ า ย แม้กับคนที่เราไม่ถูกชะตาด้วยที่สุด
ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องพูดจาไม่ดีกับเขา การคิดดี ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์
เป็นพื้นฐานของจิตใจที่ดีงาม
ใครก็ตามที่รู้จักคิดดี เขาก็จะเห็นแง่งามของโลก ของชีวิตของตนเอง และของผู้อื่น
เมื่อเห็นแง่งามหรือแง่ดีของสิ่งต่าง ๆ เขาก็ย่อมมีทัศนคติที่ดี
มีท่าทีที่ดี และเมื่อต้องพูดจาเสวนากัน เขาก็ย่อมพูดจาดี “พูดดี” ในที่นี้หมายความว่า
พูดเพราะ พูดคำสุภาพ มีน้ำเสี ยงที่สุภาพ มีหางเสี ยงครับ ค่ะ จ๊ะ จ้ะ
เพื่อแสดงความ มีม ารย าท
มีไมตรีจิต ไม่พูดคำหย าบไม่ใส่ร้ าย ไม่ตะค อกตะเบ็งใส่กันไม่ประชดประชัน ไม่โกหก
พกลมคนจะพูดดีเช่นนี้ได้จะคิดร้ าย อยู่ในใจไม่ได้แน่นอน
เพราะความร้ ายกาจในใจจะเผยมาทางคำพูด น้ำเ สียง แววตา
หรือท่าทีขณะที่พูดได้ จึงจำเป็นต้องฝึกตนให้เป็นคนคิดดี
ขอบคุณที่มา :staylifeth