Home ข้อคิดดีๆ ผมแต่งงานแล้วแต่ดัน ไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่า

ผมแต่งงานแล้วแต่ดัน ไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่า

10 second read
ปิดความเห็น บน ผมแต่งงานแล้วแต่ดัน ไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่า
0
629

ชีวิตเราในแต่ละวัน ก็เหมือนการเดินทางบนถนนสายหนึ่ง เป็นการเก็บเกี่ยว

ข้อมูลต่าง ๆ ข้างทางที่เราเดินทางผ่ านการเดินทางในถนนสายเดิม ๆ

ในเส้นทางเดิม ๆ บางครั้งอาจดูน่าเบื่อ เจอแต่สภาพแวดล้อมเดิม ๆ

 

บรรย ากาศเดิม ๆ ไม่มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้นเมื่อเจอเส้นทางใหม่ ๆ

ก็อย ากลองค้นหาดู อย ากลองดูว่าเส้นทางใหม่นั้นสามารถนำพาเรา

ไปสู่จุดหมายปลายทางได้ไวขึ้น ถนนดีกว่าเก่า หรือเปล่าแต่ถ้าไม่ใช่ เส้นทางใหม่

 

กลับเป็นถนนลุกลัง เดินทางเข้าป่าเข้า ขึ้นเขา คดเคี้ยวย ากลำบากละ

เราก็ต้องกลับมาใช้เส้นทางเดิมถูกไหม…? ชีวิตคู่ก็เหมือนกันกับถนน

กลางดึกคืนหนึ่ง มีพ ระหนึ่งรูปกับโยมคนสนทนากันอยู่ในวัด

 

โยม : หลวงพ่อครับ ผมแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่ตอนนี้ไปผู้หญิงอีกคน

ผมต กหลุมรักหญิงสาวคนนั้น ผมจะทำอย่ างไรดีครับ

พ ระ : โยมมั่นใจมั้ยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่โยมจะรักตลอดไป

โยม : แน่ใจครับ

 

พ ระ : งั้นโยมก็ต้องเลิกกับภรรย าคนปัจจุบัน แล้วก็ไปขอเธอแต่งงานซะ

โยม : แต่ภรรย าคนปัจจุบันของผมก็อบอุ่น ใจดี เป็นคนดีไม่แพ้กัน

ถ้าผมทำอย่ างนั้นมันจะไม่เห็นแ ก่ตัว ไร้ซึ่งคุณธรรมเกินไปหรอครับ

พ ระ : ในชีวิต การแต่งงานการไร้ซึ่งความรักถึงจะถึอว่าไร้คุณธรรม

ตอนนี้โยมรักคนอื่นแล้ว ไม่ได้รักเขาแล้ว การทำแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

 

โยม : แต่ภรรย าของผมรักผมมาก รักอย่ างลึกซึ้งหมดใจด้วย

พ ระ : งั้นเขาก็มีความสุข

โยม : ผมจะหย่ ากับเขาไปแต่งงานกับคนอื่น เธอต้องรู้สึกทุ กข์ท รมาน

ถึงจะถูก ทำไมหลวงพ่อบอกว่าเธอจะมีความสุขล่ะครับ

 

พ ระ : ในชีวิต การแต่งงานเขายังมีความรักให้โยมอยู่ แต่โยมหมดสิ้น

ความรักต่อเขาแล้ว ในความเป็นจริง การมีเป็นความสุข การสูญสิ้น

เป็นความทุ กข์ ดังนั้นคนที่ทุ กข์ท รมาน คือโยมตะหาก

โยม : แต่ผมกำลังจะหย่ ากับเขาเพื่อไปแต่งงานกับคนอื่น เขากำลังจะเสี ยผมไป

 

พ ระ : โยมผิดแล้ว โยมเป็นแค่รูปธรรมการแสดงความรักแบบหนึ่งของชีวิตแต่งงาน

เมื่อรูปธรรมนี้หายไป ความรักแท้ของเขาก็จะเปลี่ยนไปอยู่ที่รูปธรรมอันอื่น

ดังนั้นความรักแท้ในชีวิต การแต่งงานของเขาไม่เคยสูญเสี ยไป เขาก็เลยมีความสุข

ส่วนโยมทุ กข์ท รมาน

 

โยม : เขาเคยบอกว่าชีวิตนี้รักแต่ผมเท่านั้น เขาจะต้องไม่รักคนอื่นแน่ ๆ

พ ระ : แล้วตัวโยมละ… เคยพูดประโยคนนี้มั้ย…? (พ ระชี้นิ้วไปที่เทียนแล้วถามต่อ)

เทียนสามเล่มที่โยมมองเห็นตอนนี้ เล่มไหนสว่างที่สุด…?

โยม : ผมแยกไม่ออก ดูเหมื่อนว่าจะสว่างเท่า ๆ กัน

 

พ ระ : เทียนสามเล่มนี้ก็เปรียบเสมือนผู้หญิง 3 คน หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาว

คนที่โยมบอกว่าโยมรักที่สุด แต่โยมกลับหาเธอไม่เจอ โลกใบนี้กว้างใหญ่

มโหฬ าร ผู้คนก็มีมากมาย ผู้หญิงก็มีนับไม่ถ้วน แค่เทียนสามเล่มโยม

ยังหาเล่มที่สว่างที่สุดไม่ได้ แล้วโยมจะมั่นใจได้ยังไงว่า

เธอคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่โยมจะรัก ลองเดินไปหยิบเทียนมาหนึ่งเล่ม

วางไว้หน้าโยม แล้วเล่มนั้นก็จะสว่างที่สุด

 

โยม : แบบนั้นหลวงพ่อไม่ต้องบอกผมก็รู้ มันอยู่ข้างหน้าสุด

อยู่ใกล้ผมมันก็ต้องสว่างที่สุดแน่ ๆ

พ ระ : เอามันกลับไปวางไว้ที่เดิม ลองดูใหม่ซิ ว่าเล่มไหนสว่างสุด

โยม : ผมก็ยังดูไม่ออกว่าเล่มไหนสว่างสุด

 

พ ระ : ในความเป็นจริงแล้ว เทียนเล่มที่โยมหยิบมาวางตรงหน้าเมื่อกี้

ก็คือหญิงคนนั้นที่โยมรัก เมื่อโยมรักเธอ ก็เหมือนเอาเทียนมาวางไว้ใกล้ ๆ

มันก็จะถูกด วงตาของโยมขย ายใหญ่ แต่เมื่อเอากลับไปวางที่เดิม

โยมก็จะรู้สึกว่ามองหาเล่มที่สว่างที่สุดไม่เจอ ความรักที่บอกว่า

เป็นรักสุดท้ายจริง ๆ แล้วไม่มีจริงหรอกโยม มันก็เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่มีจริง

 

โยม : ผมเข้าใจแล้ว หลวงพ่อไม่ได้บอกให้ผมหย่ า เพียงแต่กำลังชี้จุดให้ผมเข้าใจ

พ ระ : โยมไปเถิด

โยม : ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมควรจะรักใคร ผมแค่เผลอใจไปชั่ วขณะหนึ่ง

 

เลยทำให้ผมเผลอไปเพ่งมองเทียนเล่มอื่น ทั้งที่จริงแล้วเทียนที่สว่างสุด

เขาก็คือภรรย าของผมนั่นเอง

พ ระ : เจริญพร…

 

ขอบคุณที่มา : staylifeth

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In ข้อคิดดีๆ
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …