Home เรื่องน่ารู้ คำถามสัมภาษณ์งาน เตรียมตัวยังไงให้ได้งาน

คำถามสัมภาษณ์งาน เตรียมตัวยังไงให้ได้งาน

18 second read
ปิดความเห็น บน คำถามสัมภาษณ์งาน เตรียมตัวยังไงให้ได้งาน
0
195

1. เล่าอะไรมาคร่าว ๆ เกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังหน่อย

ผู้สัมภาษณ์อย ากจะรู้ว่าเมื่อคุณเรียนจบมาได้ทำอะไรบ้าง

หรือเริ่มทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง สิ่งที่คุณได้รับจากบริษัทเดิมมีอะไรบ้าง ?

 

คำถามนี้คุณควรใช้เวลาตอบเพียง 2 -3 นาที ตอบแบบกระชับ ให้ได้ใจความที่สุด

พร้อมยกตัวอย่ างประกอบ เช่น “หลังจากเรียนจบด้านการตลาด

และเริ่มทำงานกับบริษัทการตลาดแห่งหนึ่ง ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานกันเป็นทีม

 

ก่อนการทำงานทุ กครั้งต้องวางแผนอยู่เสมอ และต้องแข่งขันกับเวลาที่จำกัดอยู่เสมอ

รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ทุ กเมื่อ สิ่งเหล่านี้ล้วนสอนผมมา

 

จึงทำให้ผมมักจะได้รับมอบหมายดูแลงานโปรเจคใหญ่อยู่เสมอ” แต่ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่

ไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน คุณสามารถพูดถึงกิจกร รมนักศึกษาที่คุณเคยทำมาได้เหมือนกัน

 

2. ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่า ?

ควรตอบด้วยความเป็นจริงให้มากที่สุด สั้น ๆ กระชับ ให้ได้ใจความพร้อมกับเหตุผลประกอบ

และถ้าการออกจะที่เก่ามันเ ลวร้ ายมาก ๆ คุณก็ไม่ควรจะบอกกับผู้สัมภาษณ์งาน

 

อย่ าลืมว่าผู้สัมภาษณ์อาจขออนุญาตติ ดต่อกลับบริษัทเก่า เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้น

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงที่สุดสำหรับการตอบคำถามนี้คือ การวิจารณ์ที่ทำงานและเจ้านายเก่า

เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูแ ย่ และนั่นหมายถึงโอกาสที่คุณจะได้งานนี้ย่อมจบลงเช่นกัน

 

3. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง ?

ก่อนจะเข้ามาสัมภาษณ์คุณต้องข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้องกับตัวบริษัทไม่ว่าจะเป็น

ประวัติความเป็นมาขององค์กร วัฒนธรรม วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์องค์กรรวมถึงตัวสินค้า

 

หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถค้นหาได้ตามหน้าเว็ปไซค์ของบริษัทนั่นเอง

คุณอาจจะโทรเข้ามาสอบถามกับทางประชาสัมพันธ์ของบริษัทนั้น เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตัวบริษัท

การที่คุณได้มีเตรียมตัวหาข้อมูลก่อนไปสัมภาษณ์มันแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า

คุณตั้งใจที่จะเขามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้

 

4. ทำไมคุณถึงมาสมัครงานกับบริษัทเรา ?

คำถามนี้จะเป็นอะไรที่ง่ายมาก ๆ ถ้าคุณได้มีการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวองค์กรมาพอสมควร

การตอบคำถามทุ กครั้งควรตอบอย่ างมีเหตุมีผล เช่น “ตอนที่ผมได้เรียนอยู่ และได้ทราบว่า

จากรุ่นพี่เกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ ที่ได้เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่ ได้เข้าทำงาน

 

ซึ่งคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ผมจะได้เรียนรู้ และเพิ่มความสามารถให้กับตัวผม”

“ช่วงที่ผมได้ทำงานบริษัทเก่าอยู่ ผมได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้ที่ได้เปิดโอกาส

ให้กับพนักงานทุ กคน พิสูจน์ความสามารถ และโปรโมตตัวเอง เพื่อเลื่อนขั้นได้ครับ”

 

5. ตามความเข้าใจของคุณ คิดว่าตำแหน่งนี้ต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง ?

คุณควรทำการบ้านก่อนมาสัมภาษณ์ ด้วยการอ่ านรายละเอียดของตำแหน่งงาน

และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ทางบริษัทต้องการทำความเข้าใจกับมัน ตอบให้สั้นและกระชับใจความ

 

สิ่งสำคัญก่อนตอบต้องมั่นใจว่าเข้าใจ ถ้าไม่แน่ใจส่วนไหนไม่ต้องกลัวที่จะถาม

อาจตั้งคำถามกลับในทำนองว่า เข้าใจตำแหน่งงาน แต่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มลูกค้า

 

และผลิตภัณฑ์มากนัก อย ากให้ช่วยอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้น และถ้าไม่รู้อย่ าพย าย ามตอบ

เพราะถ้าตอบผิด นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ทำการบ้านมาไม่ได้ให้ความสนใจกับงานนี้ แถมยังมั่วอีกต่างหาก

 

6. ถ้าคุณได้มาทำงานกับบริษัทคุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด ?

คำถามนี้แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ความสามารถความชำนาญของตัวคุณเอง

การตอบคุณควรตอบอย่ างมั่นใจคำตอบที่คุณตอบไปสามารถบ่งบอกถึงความตั้งใจจริงในการทำงาน

 

และความสามารถของตัวคุณเอง ไม่ว่าวิ ธีการคิดของคุณที่จะนำมาใช้กับบริษัทได้หรือไม่นั้น

แต่ขอให้คุณใช้ประสบการณ์และความรู้ที่เรียนมาตอบออกไป

 

7. งานอดิเรกที่คุณทำเป็นประจำมีอะไรบ้าง ?

คำถามประเภทนี้ผู้สัมภาษณ์ต้องการจะดูด้านอุปนิสัย บุคลิกภาพ ของตัวผู้สมัครว่าเป็นคนอย่ างไร

และยังสามารถรู้ถึงความคิด ความอ่ าน การสังเกตุ และการเข้าร่วมกับคนอื่น ๆ

 

“ผมชอบอ่ านข่าว คุณก็จะถูกถามถึงเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้นคุณมีความคิดเห็นต่อข่าวนี้ยังไงบ้าง”

“ผมชอบเล่นกีฬา กีฬาที่เล่น เพราะอะไรทำไมถึงชอบเล่นกีฬาประเภทนี้ คุณได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง”

 

8. อะไรคือ จุดเด่น/จุดอ่อนของคุณ ?

จุดเด่นควรจะบอกอะไรที่คิดว่าดีที่สุดในตัวเรา และสามารถนำความสามารถนั้นมาใช้กับงานที่จะสมัครได้

เช่น “ผมเป็นคนไม่ชอบหยุดนิ่ง เนื่องจากชอบ ชอบทำกิจกร รมใหญ่ ๆ อยู่เสมอ” จุดอ่อนควรจะบอก

 

ในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะปรับปรุงหรือทำแล้ว และควรบอกถึงผลหลังการปรับปรุงด้วย

เช่น “ภาษาอังกฤษของผมอ่อนมาก ๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เรียนมาได้ 4 เดือนแล้ว

และผลการเรียนนี้เอง ทำให้ผมสามารถโต้ตอบจดหมายที่เป็นภาษาอังกฤษได้”

 

9. คุณต้องการเ งินเดือนเท่าไหร่ ?

เป็นเรื่องที่ย ากในการตอบคำถามประเภทนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเ งินเดือนที่มากหรือน้อย

ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเราทั้งสิ้น ทางที่ดีในการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเงิ นเดือนนี้

 

เราควรจะหาข้อมูลจากทางเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานในบริษัทหรือคล้ายกับตำแหน่งที่คุณสมัครก่อน

แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์เสนอเ งินเดือนมาสูงหรือต่ำกว่าที่คุณตั้งไว้ คุณก็อย่ าเพิ่งรีบตอบต กลง

 

คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 1-2 วัน แล้วค่อยให้คำตอบก็ได้ เพราะถ้าเกิดคุณตอบต กลงไปแล้ว

และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นประเภทคนโลเลไม่น่าเชื่อถือได้

 

10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม

ถ้าเจอคำถามนี้ ย่อมหมายถึงการสัมภาษณ์ได้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ในการตอบคำถามข้อสุดท้ายนี้

จะตอบอย่ างไรดี ที่จะแสดงว่าเราเป็นคนเอาใจใส่ เช่น “สวัสดิการที่ผมจะได้รับมีอะไร”

 

หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะถ้าคุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทนี้มากพอแล้ว

แต่ถ้าเกิดสงสัยจริง ๆ ก็ควรตั้งคำถามที่ฟังแล้วดูดีและที่คาดว่าน่าจะถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด

 

ขอบคุณที่มา : jingjai999

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …