1. เล่าอะไรมาคร่าว ๆ เกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังหน่อย
ผู้สัมภาษณ์อย ากจะรู้ว่าเมื่อคุณเรียนจบมาได้ทำอะไรบ้าง
หรือเริ่มทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง สิ่งที่คุณได้รับจากบริษัทเดิมมีอะไรบ้าง ?
คำถามนี้คุณควรใช้เวลาตอบเพียง 2 -3 นาที ตอบแบบกระชับ ให้ได้ใจความที่สุด
พร้อมยกตัวอย่ างประกอบ เช่น “หลังจากเรียนจบด้านการตลาด
และเริ่มทำงานกับบริษัทการตลาดแห่งหนึ่ง ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานกันเป็นทีม
ก่อนการทำงานทุ กครั้งต้องวางแผนอยู่เสมอ และต้องแข่งขันกับเวลาที่จำกัดอยู่เสมอ
รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ทุ กเมื่อ สิ่งเหล่านี้ล้วนสอนผมมา
จึงทำให้ผมมักจะได้รับมอบหมายดูแลงานโปรเจคใหญ่อยู่เสมอ” แต่ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่
ไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน คุณสามารถพูดถึงกิจกร รมนักศึกษาที่คุณเคยทำมาได้เหมือนกัน
2. ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่า ?
ควรตอบด้วยความเป็นจริงให้มากที่สุด สั้น ๆ กระชับ ให้ได้ใจความพร้อมกับเหตุผลประกอบ
และถ้าการออกจะที่เก่ามันเ ลวร้ ายมาก ๆ คุณก็ไม่ควรจะบอกกับผู้สัมภาษณ์งาน
อย่ าลืมว่าผู้สัมภาษณ์อาจขออนุญาตติ ดต่อกลับบริษัทเก่า เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้น
สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงที่สุดสำหรับการตอบคำถามนี้คือ การวิจารณ์ที่ทำงานและเจ้านายเก่า
เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูแ ย่ และนั่นหมายถึงโอกาสที่คุณจะได้งานนี้ย่อมจบลงเช่นกัน
3. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง ?
ก่อนจะเข้ามาสัมภาษณ์คุณต้องข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้องกับตัวบริษัทไม่ว่าจะเป็น
ประวัติความเป็นมาขององค์กร วัฒนธรรม วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์องค์กรรวมถึงตัวสินค้า
หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถค้นหาได้ตามหน้าเว็ปไซค์ของบริษัทนั่นเอง
คุณอาจจะโทรเข้ามาสอบถามกับทางประชาสัมพันธ์ของบริษัทนั้น เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตัวบริษัท
การที่คุณได้มีเตรียมตัวหาข้อมูลก่อนไปสัมภาษณ์มันแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า
คุณตั้งใจที่จะเขามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้
4. ทำไมคุณถึงมาสมัครงานกับบริษัทเรา ?
คำถามนี้จะเป็นอะไรที่ง่ายมาก ๆ ถ้าคุณได้มีการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวองค์กรมาพอสมควร
การตอบคำถามทุ กครั้งควรตอบอย่ างมีเหตุมีผล เช่น “ตอนที่ผมได้เรียนอยู่ และได้ทราบว่า
จากรุ่นพี่เกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ ที่ได้เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่ ได้เข้าทำงาน
ซึ่งคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ผมจะได้เรียนรู้ และเพิ่มความสามารถให้กับตัวผม”
“ช่วงที่ผมได้ทำงานบริษัทเก่าอยู่ ผมได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้ที่ได้เปิดโอกาส
ให้กับพนักงานทุ กคน พิสูจน์ความสามารถ และโปรโมตตัวเอง เพื่อเลื่อนขั้นได้ครับ”
5. ตามความเข้าใจของคุณ คิดว่าตำแหน่งนี้ต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง ?
คุณควรทำการบ้านก่อนมาสัมภาษณ์ ด้วยการอ่ านรายละเอียดของตำแหน่งงาน
และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ทางบริษัทต้องการทำความเข้าใจกับมัน ตอบให้สั้นและกระชับใจความ
สิ่งสำคัญก่อนตอบต้องมั่นใจว่าเข้าใจ ถ้าไม่แน่ใจส่วนไหนไม่ต้องกลัวที่จะถาม
อาจตั้งคำถามกลับในทำนองว่า เข้าใจตำแหน่งงาน แต่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มลูกค้า
และผลิตภัณฑ์มากนัก อย ากให้ช่วยอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้น และถ้าไม่รู้อย่ าพย าย ามตอบ
เพราะถ้าตอบผิด นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ทำการบ้านมาไม่ได้ให้ความสนใจกับงานนี้ แถมยังมั่วอีกต่างหาก
6. ถ้าคุณได้มาทำงานกับบริษัทคุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด ?
คำถามนี้แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ความสามารถความชำนาญของตัวคุณเอง
การตอบคุณควรตอบอย่ างมั่นใจคำตอบที่คุณตอบไปสามารถบ่งบอกถึงความตั้งใจจริงในการทำงาน
และความสามารถของตัวคุณเอง ไม่ว่าวิ ธีการคิดของคุณที่จะนำมาใช้กับบริษัทได้หรือไม่นั้น
แต่ขอให้คุณใช้ประสบการณ์และความรู้ที่เรียนมาตอบออกไป
7. งานอดิเรกที่คุณทำเป็นประจำมีอะไรบ้าง ?
คำถามประเภทนี้ผู้สัมภาษณ์ต้องการจะดูด้านอุปนิสัย บุคลิกภาพ ของตัวผู้สมัครว่าเป็นคนอย่ างไร
และยังสามารถรู้ถึงความคิด ความอ่ าน การสังเกตุ และการเข้าร่วมกับคนอื่น ๆ
“ผมชอบอ่ านข่าว คุณก็จะถูกถามถึงเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้นคุณมีความคิดเห็นต่อข่าวนี้ยังไงบ้าง”
“ผมชอบเล่นกีฬา กีฬาที่เล่น เพราะอะไรทำไมถึงชอบเล่นกีฬาประเภทนี้ คุณได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง”
8. อะไรคือ จุดเด่น/จุดอ่อนของคุณ ?
จุดเด่นควรจะบอกอะไรที่คิดว่าดีที่สุดในตัวเรา และสามารถนำความสามารถนั้นมาใช้กับงานที่จะสมัครได้
เช่น “ผมเป็นคนไม่ชอบหยุดนิ่ง เนื่องจากชอบ ชอบทำกิจกร รมใหญ่ ๆ อยู่เสมอ” จุดอ่อนควรจะบอก
ในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะปรับปรุงหรือทำแล้ว และควรบอกถึงผลหลังการปรับปรุงด้วย
เช่น “ภาษาอังกฤษของผมอ่อนมาก ๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เรียนมาได้ 4 เดือนแล้ว
และผลการเรียนนี้เอง ทำให้ผมสามารถโต้ตอบจดหมายที่เป็นภาษาอังกฤษได้”
9. คุณต้องการเ งินเดือนเท่าไหร่ ?
เป็นเรื่องที่ย ากในการตอบคำถามประเภทนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเ งินเดือนที่มากหรือน้อย
ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเราทั้งสิ้น ทางที่ดีในการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเงิ นเดือนนี้
เราควรจะหาข้อมูลจากทางเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานในบริษัทหรือคล้ายกับตำแหน่งที่คุณสมัครก่อน
แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์เสนอเ งินเดือนมาสูงหรือต่ำกว่าที่คุณตั้งไว้ คุณก็อย่ าเพิ่งรีบตอบต กลง
คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 1-2 วัน แล้วค่อยให้คำตอบก็ได้ เพราะถ้าเกิดคุณตอบต กลงไปแล้ว
และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นประเภทคนโลเลไม่น่าเชื่อถือได้
10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม
ถ้าเจอคำถามนี้ ย่อมหมายถึงการสัมภาษณ์ได้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ในการตอบคำถามข้อสุดท้ายนี้
จะตอบอย่ างไรดี ที่จะแสดงว่าเราเป็นคนเอาใจใส่ เช่น “สวัสดิการที่ผมจะได้รับมีอะไร”
หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะถ้าคุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทนี้มากพอแล้ว
แต่ถ้าเกิดสงสัยจริง ๆ ก็ควรตั้งคำถามที่ฟังแล้วดูดีและที่คาดว่าน่าจะถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด
ขอบคุณที่มา : jingjai999