ประเภทที่ 1 : คนที่ทำงานแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
พนักงานที่ต้องทำงานแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เช่น แพคของ ประกอบชิ้นส่วนจัดเรียงสินค้าในคลังงานที่อาศัย
แค่การจับวางให้เข้าที่ไม่ได้ใช้การคิด วิเคร าะห์หรือการตัดสินใจใด ๆ เรียกว่าทำงาน
ด้านเดียวคล้าย ๆ หุ่นยนต์จึงไม่แปลกเลย หากจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์จริง ๆ
เพราะหุ่นยนต์ไม่เรียกร้องขึ้นเงิ นเดือน ไม่ ข าด ลา มาสายไม่บ่นไม่หยุดงานประท้วง ไม่เรียกร้องสวัสดิการเพิ่ม
ประเภทที่ 2 : คนที่นอกเหนือจาก 8 ชั่ วโมงไม่เรียนรู้
มีเพื่อนผมคนหนึ่งทำงานที่โกดังสินค้า คอยเช็คจำนวนสินค้า ในคลังเป็นงานง่าย ๆ
ที่เหมือนจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ในอนาคตแต่เมื่อทำงานปีแรกเขาก็ค้นพบว่ามีของบางอย่ างที่ถูกจัดส่ง
เป็นจำนวนมากเขาเริ่มเกิดไอเดียจึงไปค้นหาข้อมูลต่อและพบว่าของบางอย่ างในโกดังนั้นเป็น
ที่ต้องการของตลาดมากด้วยความที่อยู่ในวงการนี้อยู่แล้ว ทำให้เขามองหาแหล่งผลิตที่
ต้นทุนถูกได้และ เริ่มนำมาลงหน้าเว็ปเพื่อขายออนไลน์ ผ่ านไป 3 ปี ธุรกิจขย ายตัวอย่ างรวดเร็วปีที่ 7
เขาก็เปิดบริษัทของตัวเอง…!! ตลอดระยะเวลาแห่งงานเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาไม่เคย
หยุดทำก็คือ ใช้เวลานอกเหนือจาก 8 ชั่ วโมงในการเรียนรู้ยุคสมัยนี้เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ความรู้เติบโตขึ้น
ในอัตรา ที่ก้าวกระโดดทุ กคนมีอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงความรู้ต่าง ๆ ได้อย่ างรวดเร็วแค่ปลายนิ้ว
อยู่ที่ว่าคุณจะใช้โอกาสที่มีไขว่คว้า หรือ นั่งรอวันถูกแทนที่
ประเภทที่ 3 : คนที่ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น
บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ให้เ งินผู้สมัครงาน 75 บาท ให้พวกเขาไปหาข้าวกินด้วยกันผู้สมัคร 6 คน
ไปถึงร้านอาหารด้วยกัน แต่ข้าวจานหนึ่งราคาอย่ างต่ำ 15 บาทเงิ นที่พวกเขามีไม่พอจะซื้อ
ข้าวคนละจานเลยด้วยซ้ำ ก็เลยกลับไปบริษัทพอถึงบริษัท ประธานบริษัทรู้เข้าก็ส่ายหน้า :
” ขอโ ทษด้วย พวกคุณไม่เหมาะกับบริษัทเรา” รู้ไหม…? ร้านอาหารร้านนั้น มีโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1
ไม่ได้อ่ านดูรายละเอียดในเมนูเลยหรอ นี่แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจหรือ ถึงแม้ไม่มีโปร 5 แถม 1
ก็ยังขอจานเปล่ามาหนึ่งใบ แล้วสั่งข้าว 5 จานมาแบ่งกันกินได้แต่ผู้สมัครทั้ง 6 คนไม่มีใคร
คิดว่ามาด้วยกันจึงไม่เกิดคำว่า เป็นทีมเดียวกันทุ กคนต่างคิดถึงแต่ตัวเอง
เมื่อเข้ามาอยู่ในองค์กรก็ไม่รู้จักการทำงานเป็นทีมรู้ไหม…? ทีมเวิร์คที่ดีนี่แหละที่ทำให้มนุษย์เหนือกว่าหุ่นยนต์
ประเภทที่ 4 : คนที่ไม่เข้าใจการลงทุนในตัวเอง
เรามักจะได้ยินคำเตื อนว่า… ” อย่ าฟุ่มเฟือย “ แต่ถ้าเราเก็บเงิ นได้ 1 แสนต่อปีภายใน 10 ปี เก็บได้ 1 ล้าน
นี่คือเก่งหรอ…?ไม่ใช่…! เพราะเมื่อคุณใช้เวลา 10 ปีถึงจะเก็บเงิ นได้ 1 ล้านคนอื่นอาจจะใช้เวลาแค่ปีเดียว….!!
ตอนที่คุณยังเย าว์วัยคุณต้องรู้ว่าจะลงทุนกับตัวเองยังไงถ้าทุ กเดือนคุณเอาเงิ นส่วนหนึ่งมาลงทุนกับตัวเอง…
บางคน.. ” ออกเดินทาเที่ยวรอบโลก “ ไปเจอธุรกิจใหม่ ๆ ที่น่าสนใจในต่างประเทศแต่ในบ้านเรายังไม่มี
ก็นำไอเดียกลับมาต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเองบางคน.. ” ไปเรียนคอสการขายเสริมหลังเลิกงาน “
อาจไม่ได้ร วยในทันทีแต่การได้ทำความรู้จักคนมากมายก็นำพาโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตได้เหมือนกัน
บางคน.. ” ไปเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย “ จนค้นพบช่องทางธุรกิจเปิดยิม ขายอาหารเสริมสำหรับคนรักสุ ขภาพ
หลายปีผ่ านไปคุณจะพบว่าเ งินที่คุณใช้ไป ทำให้คุณค่าของตัวเองเพิ่มขึ้น คุณได้คืนกลับมาหลายเท่า…!!
ประเภทที่ 5 : คนมองอะไรสั้น ๆ ตัดสินแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทันที
หลังเรียนจบ Li Ting และ Tan Si เข้าไปฝึกงานที่บริษัทบัญชี แห่งหนึ่งด้วยกันหลังหมดระยะฝึกงาน
บริษัทเสนอให้ไปศึกษางานที่สำนักงานใหญ่ที่ต่างประเทศ 2 ปีแต่ได้เงิ นเดือนครึ่งเดียวไม่มีค่าคอมมิชชั่น Li Ting
รู้สึกว่าเงิ นเดือนน้อยเกินไป แถมไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในต่างแดนก็เลยไม่เอาส่วน Tan Si กล้าตัดสินใจ
เลือกไปศึกษางานที่สำนักงานใหญ่ในต่างประเทศในมุมมองของเธอ… ไปศึกษางานแถมยังได้เงิ นเดือน
เป็นเรื่องที่คุ้มแสนคุ้ม ผ่ านไป 2 ปี Tan Si กลับมาที่บริษัทในฐานะหัวหน้าโครงการคนใหม่รายได้ 1 ล้านต่อปี
ส่วน Li Ting ยังคงทำงานในตำแหน่งเดิมเงิ นเดือนในตอนนี้ไม่ถึง 1 ใน 3 ของ Tan Si ไม่ใช่ว่า Tan Si ตัดสินใจถูก
หรือ Li Ting ตัดสินใจผิด เพราะ ทั้งคู่ต่างเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้ตนเองแต่เมื่อเวลาที่ผ่ านไปจะเป็นเครื่องพิสูจน์
ว่าการตัดสินใจของเราในอดีต จะพาเราก้าวหน้าขึ้นได้หรือไม่เมื่อก่อนปลาเล็กกินปลาใหญ่
ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็นปลาเร็วกินปลาช้าสิ่งใหม่ ๆ ที่ปรากฏขึ้นมักมาพร้อมกับโอกาสทางธุรกิจ
แต่เมื่อโอกาสผ่ านไปคนที่ช้าก็จะไม่มีทางได้สัมผัสในยุคนี้ พวกเราต้องมีสัญช าตญาณของการเอาตัวรอด
(เราเป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ ต้องรู้จักเรียนรู้ และ ปรับตัว) ค้นหาและแก้ไข้ข้อบกพร่องของตัวเองอย่ างทันท่วงที
เพื่อที่จะพัฒนาต่อไปในทิศทาง ที่ดียิ่งขึ้นไม่อย่ างนั้นในแต่ละปีที่ผ่ านไปคุณจะพบว่า คุณถูกคนอื่น ๆ ทิ้งไว้ข้างหลัง
แล้วจะเห็นว่าตัวอย่ าง ที่หยิบยกมานั้นไม่ได้เจาะจงถึงอาชีพใด เพราะทุ กอาชีพล้วนมีโอกาสต กงานได้ทั้งนั้น
แต่ยกตัวอย่ างให้เห็นถึงทัศนะคติ ที่จะเป็นสิ่งตัดสินว่า คุณจะถูกแทนที่หรือได้ไปต่อ
ขอบคุณที่มา : fahhsai