ชาร์ลี มังเกอร์ เป็นคู่หู ของคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์
ที่มักจะมีแนวความคิดกลับด้านแปลก ๆ ในการนำมาแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
มังเกอร์ ได้แนวคิดที่เรียกว่า “คิดกลับด้านเสมอ” เพื่อมาช่วยในการแก้ปัญหาย าก ๆ ที่เขาต้องเจอ
จากจาโคบี นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมนี โดยมังเกอร์ได้ ใช้แนวคิดนี้ ในครั้งแรกตอนที่เขาได้รับมอบหมาย
ให้เป็นนักอุตุนิยมวิทย า ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตนักบิน มังเกอร์ใช้การคิดกลับด้านว่า
“ทำยังไงได้บ้าง ที่จะทำให้นักบิน ถึงแ ก่ชีวิตได้” แทนการคิดว่า “ทำยังไง ที่จะให้นักบินมีชีวิตรอดได้บ้าง”
และให้เขาได้ คำตอบออกมา 2 วิ ธี คือ การพานักบินไปอยู่อากาศที่หนาวจัด
และสองคือการพานักบินไปอยู่ในที่สภาพอากาศย่ำแ ย่มาก
จนนักบินไม่สามารถลง จอดได้ และน้ำมันหมด
เมื่อเขาได้คำตอบแล้ว เขาก็จะพย าย ามหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องเกิดเหตุการณ์เหล่านี้
เพื่อที่จะทำให้นักบินอยู่ได้อย่ างปลอดภัย การใช้แนวคิดกลับด้านนนี้
ก็สามารถนำมาใช้กับคำถามที่่ว่า “ทำอย่ างไรให้ร วย”
โดยพลิกกลับ และถามอีกคำถามแทนด้วย “ทำอย่ างไรไม่ให้ถังแต ก”
ซึ่งมังเกอร์ บอกว่ามีเพียง 3 วิ ธี ที่จะทำให้ถังแต ก คือ สุร า ผู้หญิง และกู้เงิ นมาลงทุน
และเมื่อได้ คำตอบแล้ว เราก็แค่หลีกเลี่ยง มันเท่านั้นเอง
เรายังสามารถนำการคิดกลับดานแบบนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
หากคิดว่า “ทำอย่ างไรจะประสบความสำเร็จ” ก็ให้คิดว่า
“ทำอย่ างไรจะล้ มเหลวแทน” เช่น ความเกี ยจคร้าน ความอิ จฉา
การดูถู กความสามารถตัวเอง ก็ให้หลีกเลี่ยง การทำสิ่งเหล่านี้ แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จ
หรือหากเรามีเป้าหมาย ที่จะออกกำลังกาย 5 วัน/สัปดาห์ อย่ าเพิ่งคิดว่าจะทำได้ไหม
ให้ลองคิดว่าอะไรที่จะขัดขวางไม่ให้เราไปยิม และเมื่อได้คำตอบ
เราก็หลีกเลี่ยงที่จะให้มันเกิดขึ้น และไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนในชีวิตของเรา
ทั้งความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การลงทุน
ความเป็นผู้นำ เราสามารถนำแนวคิดกลับด้านนี้ไปใช้ได้ทั้งสิ้น
ขอบคุณที่มา : kaeyim