Home เรื่องน่ารู้ อย ากให้ลูกอนาคตดี พ่อแม่ต้องมี 3 ข้อนี้

อย ากให้ลูกอนาคตดี พ่อแม่ต้องมี 3 ข้อนี้

3 second read
ปิดความเห็น บน อย ากให้ลูกอนาคตดี พ่อแม่ต้องมี 3 ข้อนี้
0
226

1. แม่ต้องขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตนเอง

คุณแม่กุ๊ก เผยประสบการณ์ว่า เธอจะไม่เข้าไปช่วยลูกในสิ่งที่ พวกเขาสามารถทำได้เอง

เช่น เมื่อห้องนอนของกุ๊กไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย แม่จะเตื อนกุ๊กว่า ควรจัดห้องอย่ างไร เพื่อให้เป็นระเบียบ

แต่จะไม่เข้าไปทำให้ลูกเอง เธอปล่อยให้ลูกได้ทำด้วยตัวเองช่วงเปิดภาคเรียน

คุณครูขอให้นักเรียนห่อปกหนังสือเรียนเล่มใหม่ของเทอมนี้ แต่กุ๊กทำไม่เป็น

แม่จึงสอนกุ๊กห่อ 1 เล่มก่อนเป็นตัวอย่ างให้กุ๊กดู จากนั้นก็ปล่อยให้กุ๊กลองทำเองทั้งหมด

กุ๊กไม่อย ากห่อเอง จึงไม่ยอมขยับมือ แม่ก็ไม่สนใจเธอได้แต่ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมชี้นิ้วบอกให้ทำอย่ างนั้นอย่ างนี้

แต่ไม่เข้าไปช่วยห่อ ทำให้กุ๊กต้องนั่งห่อเองทั้งหมด แม่ของกุ๊กบอกว่า “ความจริงถ้าฉันจะเข้าไปช่วยห่อจะประหยัดเวลาได้มาก

แต่กุ๊กจะไม่มีวันเรียนรู้ที่ห่อ ปกหนังสือเองได้เลย ดังนั้นนี้เป็นวิ ธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้กุ๊กห่อเอง แม้ว่าจะห่อไม่เรียบร้อยก็ตาม”

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขี้เกียจ” ไม่เคยขยันหมั่นเพียร ในการช่วยเหลือลูก ในการทำสิ่งต่างๆ แต่ให้ลูกทำเอง

เพื่อจะได้พึ่งพาอาศัยตัวเองช่วยเหลือตัวเองได้และไม่เฉยเมยต่อการฝึกฝน สร้างความรับผิดชอบให้กับลูก

 

2. แม่ต้องขี้เกียจบ่นหรือพูดมาก ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเติมโตด้วยตนเอง

พ่อแม่หลายคนชอบสร้างความคาดหวัง ในตัวลูกมากเกินไป อย ากให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองนั้นต้องการ

เพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูก แต่การทำแบบนี้จะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด กดดัน

และกลายเป็นไม่อย ากฟังและทำเป็นหูทวนลม ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่แม่พูด แต่มีครอบครัวหนึ่ง

ที่กลับทำตรงกันข้ามในช่วงสุดสัปดาห์ ต้นเล่นเกมเป็นเวลานานมาก และไม่ทำการบ้าน

แม่จึงถามเขาว่า… “ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง…?” ต้นตอบว่า : “ขอเล่นอีก 10 นาที”

แม่ตอบกลับไปว่า… “โอเค ต้องรักษ าคำพูดนะ”

พอผ่ านไป 10 นาที แม่ก็เดินกลับมาดูอีก ต้นก็ยังคงนั่งเล่น อยู่ที่เดิม แม่โกรธมาก

แต่ก็ต้องสงบสติอ ารมณ์และพูดอย่ างใจเย็นว่า… “ปกติลูกเป็นคนรั กษาคำพูดไม่ใช่หรอ…?”

ในตอนนั้น ต้นเริ่มรู้สึกผิด จากนั้นก็เดินไปปิดสวิทช์และรีบไปทำการบ้านทันที…!!

นั้นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ แม่ของต้นเคยพูดหลายรอบเกี่ยวกับนิทานเรื่อง “การเป็นคนน่าเชื่อถือ”

และ นั้นก็ทำให้ต้นค่อยซึมซับเข้าไปในจิตใจปกติแม่จะเป็นคนที่ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอ่ านหนังสือ

ทบทวนตำราเป็นอย่ างมาก จึงได้ซื้อนิทานสร้างแรงบันดาลใจให้อ่ านมากมาย และจากนิทานเหล่านี้

ทำให้ต้นเรียนรู้ที่จะนำมาใช้กับตนเอง เสริมสร้างการควบคุมนิสัย ของตนเอง การอดทนอดกลั้น

ด้านจิตตานุภาพเพื่อให้ตนเองเป็นคนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขี้เกียจ” ไม่ขยันที่จะบ่นทั้งวันแต่ใช้เหตุผลในการพูดคุย เพราะเธอรู้ดีว่า

ลูกไม่ชอบการบ่น แต่เธอขยันในการหาวิ ธีในการรับมือ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและคุณภาพที่ดีเยี่ยมให้ลูก

 

3. แม่ต้องขี้เกียจ ไม่เข้าไปช่วยลูกทำการบ้าน

มีคุณแม่คนหนึ่ง เล่าประสบการณ์ว่า ตนเองไม่เคยไปสอนการบ้าน ให้ลูกชายเลย

แม่จะเตื อนลูกมากกว่าว่าเวลาไหนควรไปทำการบ้านได้แล้ว เมื่อทำเสร็จแล้วก็บอกแม่คำหนึ่งก็พอ

ส่วนการตรวจสอบว่าลูกชายทำถูกหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตัวเขาเอง

หรือให้เรียนรู้ว่าถูก หรือผิดจากที่โรงเรียน แม่มีหน้าที่แค่เซ็นชื่อเท่านั้นในตอนแรกลูกชายไม่พอใจเป็นอย่ างมาก

โดยบอกว่า “แม่ของคนอื่นจะช่วยตรวจการบ้านให้ด้วย ทำไมแม่ขี้เกียจแบบนี้…?”

เธอตอบลูกชายไปว่า… “ ไม่ใช่เพราะแม่ขี้เกียจหรอกนะ ลูกคิดดูสิ..!! หากแม่ช่วยลูกตรวจ การบ้าน

แล้วลูกจะรู้ได้อย่ างไร ว่าผิดตรงไหนบ้าง แล้วต่อไปลูกจะตรวจเองเป็นไหม…? ตอนสอบหากผิดลูกจะรู้ไหม

ว่ามันผิดตรงไหน จงจำไว้นะว่าในตอนนั้นไม่มีใครสามารถมาช่วยลูกตรวจข้อสอบได้

ลูกจะได้ฝึกการตรวจความถูกต้อง และเรียนรู้ด้วยตัวเอง ” ในห้องเรียนลูกจะเจอ บทเรียนก่อน และจึงจะได้ทำข้อสอบ

แต่… ในโลกแห่งความเป็นจริงลูกจะได้ เจอบททดสอบก่อน แล้วถึงจะได้บทเรียน

นี่คือสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด เธอสอนให้ลูกรู้จักพึ่งตนเอง เมื่อพบเจอปัญหาก็ต้องคิดใคร่ครวญเอง

หากคิดไม่ออกจริงๆค่อยถามแม่หรือขอคำแนะนำจากแม่ได้

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขี้เกียจ” ไม่เคยชี้นำลูกให้เรียนรู้ แต่ปล่อยให้ลูกทำอย่ างอิสระ และคิดอย่ างอิสระ

แต่เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอยังให้ความสนใจกับลูก และใช้วิ ธีการที่ชาญฉลาด

เพื่อช่วยแก้ปัญหาเมื่อลูกมีปัญหามันสอนให้รู้ว่าผู้ปกครองควรที่จะปล่อยลูกของตัวเองบ้าง

ในเวลาที่สมควร ให้เขาได้เรียนรู้ และใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ สิ่งที่ตัวอย่ างแม่ ๆ ทั้งหลายทำนั้น

มันเป็นวิ ธีในการปลูกฝังลูกน้อยที่ดีมาก เพื่อให้เขาสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง และช่วยเหลือตัวเองได้

พ่อแม่ทุ กคนมักจะกังวลกับลูก จนไม่กล้าปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเขาเอง

คุณควรเอาความกังวลเก็บไว้ในใจ และปล่อยให้เขาโบยบิน ไปด้วยวิ ธีของเขาเอง

เพื่อให้เขามีปีกที่แข็งแรงพอ และอยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีคุณปกป้อง

 

ถ้าอย ากให้ลูกเป็นคนใจเย็น ให้ฝึกการรอคอย

ถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ

ถ้าอย ากให้ลูกพูดเพราะ และ มีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุ กวัน

ถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จักรั กษ าคำพูด

ถ้าอย ากให้ลูกแก้ปัญหาได้ ให้ฝึกให้เจอปัญหาบ่อย ๆ

ถ้าอย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น

 

ขอบคุณที่มา : verrysmilejung

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …