ในโลกของการทำงาน ใคร ๆ ก็ย่อมอย ากเป็นที่รักจริงหรือเปล่าคะ แต่การจะเป็นที่รัก
ในที่ทำงานได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่เรื่องย ากเกินไปสำหรับคุณ
เพราะในโลกของการทำงานนั้น เราต้องพบเจอผู้คนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนที่เด็ กกว่า โต กว่า
เจ้านาย หัวหน้า หรือลูกน้อง ดังนั้น เราอยู่อย่ างไรให้เป็นที่รัก และสามารถทำให้คนรอบข้างเอ็นดูเราได้
1. ใช้ความคิดเห็นหรือใช้เพียงแค่ความรู้สึก
ในการทำงานทุ กอย่ าง เชื่อว่า มันจะต้องมีหลายต่อหลายครั้ง ที่ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ค่อยลงรอยกับคนในที่ทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นด้วยนิสัย ทัศนคติ หรือวิ ธีการทำงาน แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรปฏิบัติต่อทุ กคนเหมือนกันเลยคือ
อย่ าพย าย ามใช้อ ารมณ์ในการตัดสินใครคนหนึ่ง ถ้าพูดให้เห็นภาพอย่ างง่าย ๆ เลย ก็คือ หากเราไม่ชอบนิสัยใคร
ก็ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องทำงานไม่ดีเสมอไปจริงหรือเปล่าคะ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใคร
อย ากให้สาว ๆ ลองใช้เหตุผลแสดงความคิดเห็นออกมาให้มากกว่าเดิมเพื่อที่คนภายนอกมองจะได้รู้ว่า
เราก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะมีเหตุไม่นำอ ารมณ์ของตัวเองมาตัดสินใคร ๆ ค่ะ
2. เปิดใจรับฟังความคิดแต กต่างอย่ างเป็นมิตร
ทุ กครั้งที่เราประชุม เพื่อหาไอเดียใหม่ ๆ หรือไม่ว่าในขณะทำงานอยู่ ย่อมเจอกับเหตุการณ์ที่มีความคิดเห็นแต กต่างกันออกไป
เพราะแต่คนละก็มีความคิดของตัวเองกันทั้งนั้น ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่เพื่อน หัวหน้า หรือลูกน้อง มีความคิดเห็นที่แต กต่างจากเรา
สิ่งหนึ่งที่คุณควรทำเลย คือ การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และสิ่งที่จำเป็นอย่ างยิ่งคือ การเปิดกว้างทางความคิดความรู้สึก
เพื่อรับฟังสิ่งที่ไม่ตรงกัน อย่ าเพิ่งแสดงท่าทางไม่ถูกใจ ออกไปในทันที สุดท้ายแล้วหากเราคิดว่าอย ากจะแสดงความคิดเห็น
หรือจะปฏิเสธสิ่งที่ไม่เห็นด้วย กับความคิดของคนอื่น เราสามารถจัดการได้อย่ างสุภาพและไม่ต้องทำร้ ายจิตใจใครได้นะคะ
การทำแบบนี้จะช่วยให้เราเป็นที่รักของทุ กคนในที่ทำงานด้วยค่ะ
3. แสดงออกถึงความจริงใจอย่ างตรงไปตรงมา
เมื่อไรก็ตามที่เราแสดงออกถึงความจริงใจไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนร่วมงานกับหน้าที่ที่เราต้องทำหรือกับงานที่เรารับผิดชอบ
เชื่อเถอะว่าสิ่งเหล่านั้น มันจะแสดงออกไป ให้ผู้คนรับรู้ได้เองโดยที่เราไม่ต้องไปประกาศบอกใครเลยนะคะ
หากเป็นเพื่อนร่วมงานหรือเป็นคนในทีมเดียวกันย่อมต้องแสดงความจริงใจออกไปให้มากที่สุด
เช่น การคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มอบน้ำใจให้แ ก่กัน และเมื่อเกิดปัญหาต้องพูดคุยกันอย่ างจริงใจ
ไม่ใช้อ ารมณ์มาตัดสินนั่นเองและหากเป็นในเรื่องของหน้าที่การงาน คุณควรแสดงออกในหน้าที่การงานอย่ างจริงใจ
ไม่ใช่ต่อหน้าหัวหน้าขยันทำงาน และลับหลังโยนงานให้คนนั้นคนนี้ และอย่ าลืมที่จะซื่อสัตย์ต่อผลงานของตัวเองด้วย
เมื่อเราแสดงความจริงใจออกไปสิ่งที่ได้กลับมาก็จะได้รับ แต่เรื่องราวดี ๆ และความจริงใจจากคนอื่นกลับมาค่ะ
4. ยืดหยุ่นในการทำงานซะบ้างอย่ าตึงเค รียดเกินพอดี
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าทุ กคนทุ กตำแหน่งย่อมมีภาระหน้าที่แต กต่างกันออกไป ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน
ล้วนมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว การที่เราจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากใคร
สิ่งหนึ่งที่ต้องจำเลยคือ การรอ ไม่ใช่ว่าจะต้องได้ทุ กอย่ างทันใจเสมอไป ต้องหัดมีความยืดหยุ่นในหน้าที่การงาน
และเรื่องอื่น ๆ เป็นไปตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือจากใครการปรึกษางานกับใคร
หรือแม้กระทั่งภาระหน้าที่งานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบนั่นเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยคือ
การไม่ก้าวก่ายงานของคนอื่น และเข้าใจในงานของส่วนอื่นด้วยเช่นกัน การที่เราเข้าใจคนอื่น
รู้จักยืดหยุ่นในเรื่องของการทำงานด้วย นั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า เราสามารถจัดการกับทุ กเรื่องที่เข้ามาได้
อย ากให้สาว ๆ คิดไว้เสมอว่าในโลกของการทำงานเราต้องเผื่อเตรียมใจเตรียมแผนสำรอง
สำหรับเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วยนะคะ เพราะทุ กอย่ างล้วนเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราไปทุ กอย่ างค่ะ
5. อย่ าเป็นคนที่ใคร ๆ เรียกว่า “ยกตนข่ มท่าน”
ไม่ว่าจะผ่ านไปกี่ยุค สมัยสำนวน “ยกตนข่ มท่าน” ก็ยังใช้ได้จริงอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่ง
หากเราอย ากเป็นที่รักในที่ทำงานด้วย เพราะ การที่เราจะเป็นคนเก่งในที่ทำงานบอกเลยว่า
เก่งอย่ างเดียวอาจไม่เพียงพอ สำหรับการทำงานในสมัยนี้ เพราะการที่เราเป็นคนเก่ง
แล้วชอบโอ้อ วดความเก่งกับคนอื่น หรือทับถมว่าตัวเองเก่งกว่าทุ กคนในที่ทำงาน
คงเป็นเหตุผลที่ใครมองเข้ามา ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่เก่งจริงสักเพียงไหน
แต่หากชอบพูดจาทำร้ ายความรู้สึกคนอื่น หรือทำตัวอยู่เหนือคนอื่นตลอดเวลา ก็คงไม่มีใครพอใจมากเท่าไร
แต่ขอบอกเลยนะคะ ว่าไม่ใช่ว่าให้คุณไม่แสดงความเก่งออกไป เพียงแต่การแสดงออกถึงความคิดความเก่งนั้น
ก็สามารถมี วิ ธีการแสดงออกได้หลากหลายวิ ธี โดยไม่จำเป็นต้องพูดจาทับถมคนอื่น เพื่อให้คนอื่นมองว่าคุณเก่งค่ะ
ขอบคุณที่มา : sabailey