หลายคนคงจะสงสัยแล้วตั้งคำถามว่า ทำไมต้องสาธุ?
หากไม่กล่าวคำว่าสาธุ จะเป็นอะไรหรือเปล่า
ในวันนี้เราได้มีคำตอบที่หลายคนสงสัยมาบอกให้กับทุ กท่านได้รับรู้กัน
คำว่า สาธุ แปลว่า “ดีแล้ว” เป็นการยืนยันหรือเห็นด้วยกับบุญกุศล
หรือสิ่งดี ๆ ที่เราได้เห็นคนอื่นกระทำ คำ ๆ นี้ ใช้กันแพร่หลายในห มู่ชาวพุทธ
และหลายคนก็มักใช้กันจนติ ดปากเมื่อได้เห็นการทำบุญของผู้อื่นเกิดขึ้น
ทำไม ต้องกล่าวคำนี้ ?
คำๆ นี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การกล่าวคำเพียงลอย ๆ หรือเป็นมารย าทอันดีงาม
หากคุณรู้อานิสงส์ของการกล่าว คำว่า สาธุ ว่าส่งผลให้กับชีวิตของคุณ
ให้พบกับสิ่งดี ๆ ในชีวิตมากมายเกินกว่าที่คุณคิด คนฉลาดในทางกุศล
จะไม่ลังเลที่จะกล่าวคำสาธุต่อทุ กสิ่งดี ๆ หรือบุญเล็กหรือใหญที่ได้รับรู้
เชื่อหรือไม่ คนเหล่านี้ จะมีวิถีชีวิตที่สุขสบาย ชีวิตรุ่งเรือง แบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำ
คนที่พลาดโอกาสยิ่งใหญ่ เมื่อเจอการทำบุญของใครก็ตาม แล้วเพิกเฉย หรือ แค่รับรู้ รับทราบ ก็จบไป
คนเหล่านี้ แทบจะไม่ได้สิ่งดี ๆ ในชีวิตเลย ทุ กอย่ างที่เกิดขึ้นมักจะได้มาด้วยความเหนื่อยย าก
เช่น เราเห็นคนมาบอกบุญกับเรา แล้วเราเห็นว่าบุญนั้นมีประโยชน์ ไม่ว่าเราจะร่วมทำบุญหรือไม่ก็ตาม
แต่หากเรากล่าวสาธุไป สิ่งดีๆต่าง ๆ จะค่อยหลั่งไหลเข้ามาหาเรา ยิ่งกล่าวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รับผลเร็วขึ้น
พ ระสงฆ์ หรือ ผู้รู้ มักแนะนำให้เรา กล่าวสาธุ ถึง 3 ครั้ง สาธุ สาธุ สาธุ เพื่อตอกย้ำว่าสิ่งดี ๆ นั้นจะเข้าชีวิตเราเร็วขึ้น
ทำไม การกล่าว คำนี้ จึงนำพาความเจริญในชีวิตมาให้?
เพราะว่า เมื่อเราได้รับรู้ รับฟังงานบุญ การทำบุญ ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา หรือ การบอกบุญต่าง ๆ นั้น
ภาวะที่เรารับรู้รับฟังนั้น เป็นเพียงขั้นของ กุศลวิบากกำลังตอบสนอง หมายความว่า
สิ่งที่เราได้ทำดีหรือทำบุญไว้ในอดีต มาส่งผลให้เราได้รับรู้ว่ามีการทำบุญเกิดขึ้น
ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า เมื่อรับรู้แล้วว่ามีสิ่งดี ๆ กำลังจะเกิดขึ้น แล้วเราจะตัดสินใจทำอะไรต่อไป
ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นช่วงของการ กระทำกร รมใหม่เกิดขึ้น ซึ่ง จะแบ่งช่องทางเป็น 3 ทาง
คือ การสร้างกร รมดี การสร้างกร รมชั่ ว หรือ กร รมที่ทำด้วยความเพิกเฉย
การกระทำทั้ง 3 ทางนี้ จะส่งผลเป็นวิถีชีวิตของเรา หรือ เป็นชะตากร รมของเราต่อไปว่า จะดีหรือร้ าย หรือ เฉย ๆ
หากเราได้กล่าวว่า สาธุ ต่อบุญกุศลที่ได้รับฟัง รับรู้มา สภาวะจิตของเรา จะแปลความว่า
เราได้รับเอาสิ่งดี ๆ นั้นให้เกิดขึ้นกับเรา ขณะนั้นจิตจะถูกยกระดับขึ้นสู่การเป็นหนึ่งเดียวกับกระแสของ กุศลวิบาก
หรือ ผลของบุญที่มาส่งผลให้เรารับรู้ แล้วเรา กล่าว สาธุ เท่ากับเราได้สร้างบุญใหม่ ในระดับ ของ มโนกร รม และวจีกร รมแล้ว
การกล่าวสาธุ ถือว่า วจีกร รมที่มีผลานิสงส์มาก การเขียนข้อความ ว่า สาธุ เหมือนกับการกล่าวเป็นคำพูด
แต่การเขียนจะมีอานิสงส์มากกว่า เพราะ การเขียนต้องใช้กำลัง และความเพียรมากกว่าการพูด
การเขียนจะค่อนมาทางกายกร รมด้วยซ้ำ ด้วยภาวะกร รมดีจาก มโนกร รม และวจีกร รมนี้เอง
ซึ่งจะส่งผลให้จิตเราเปิดรับเอาสิ้งดี ๆ ได้หลั่งไหลเข้าสู่วิถีชีวิตของเราอย่ างทวีคูณ
การยอมรับ สิ่งดีๆที่เกิดขึ้น ภาษาธรรมะ เรียกว่า สันโดษ
คำนี้ ไม่ได้แปลว่า อยู่โดดเดี่ยว อ้างว้างนะ แต่แปลว่า การยินดีกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
แต่การกล่าวสาธุ นั้นจิตใจเราต้องพลอยยินดีไปด้วยนะ ไม่ใช่สักแต่กล่าวลอย ๆ แบบนกแก้วขุนท อง
เมื่อเปรียบเทียบกับ คนได้รับรู้ การทำบุญของผู้อื่น แต่เพิกเฉย จิตจะแปลความว่า เรารู้สึกเฉย ๆ
ไม่ใยดีกับสิ่งดี ๆ ที่พร้อมจะหลังไหลเข้าสู่ชีวิตเรา ถ้าเป็นดังนี้ การต่อยอดทางบุญก็ไม่เกิดขึ้น
และผลดีก็ไม่เกิด เหมือน ตัวล็อตเตอรี แต่ไม่ยอมเอาไปขึ้นเงิ น ก็สูญเ สียโอกาสท องไปแบบน่าเสี ยดาย
คนเหล่านี้ หากจะชีวิตดีขึ้นได้ เขาต้องสร้างบุญด้วยตัวเขาเอง ด้วยการสร้างสภาวะจิตตัวเอง
ซึ่งต้องอาศัยเหตุและปัจจัยที่เหมาะสม จึงจะเกิดสภาวะของบุญได้ ทำให้ชีวิตของเขาจะพบความสำเร็จช้ากว่ามาก
หากคุณรู้เคล็ดลับของการ กล่าว สาธุ แล้ว ต่อไปนี้ หากพบเจอการทำบุญใด ๆ ก็ตาม
ขอให้กล่าวสาธุ บ่อย ๆ ทำให้เป็นนิสัย แล้ว ความสุขความเจริญจะถ่าโถมเข้าสู่ชีวิตคุณแบบไม่ทันตั้งตัวเลย
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณที่มา : postsod