มีเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เสนอเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งพ่อแม่เป็นคนที่เรียนเก่งและฉลาด
แต่พวกเขากลับมีลูกชายที่เรียนหนังสือไม่เก่งเอาเสี ยเลย เรื่องราวมีอยู่ว่า…
ลูกชายฉันเรียนไม่เก่ง แต่เขาทำอาหารอร่อยมาก ใครๆต่างต้องการประสบความสำเร็จ
ร่ำร วย และมีชื่อเสี ยง แต่คนส่วนใหญ่เกือบ 90% กลับเป็นเพียงแค่บุคคลธรรมดาเท่านั้น
ที่โรงเรียนมักจะมีอยู่ 2 ประเภทที่คุณครูจะจำพวกเขาได้แม่น คือ คนที่เรียนได้เก่ง กับคนที่เรียนได้แ ย่
เวลาที่มีประชุมผู้ปกครอง เหล่าพ่อแม่ของเด็ กเรียนเก่ง ก็มักจะยืด อกเดินอย่ างมั่นใจและภูมิใจ
แต่อีกฝั่งสำหรับฉันที่เป็นผู้ปกครองของเด็ กเรียนไม่เก่ง มักจะเดินไปนั่งอยู่ตรงมุม ๆ
และใส่เสื้อสีไม่ฉุดฉาดเพื่อหลีกเลี่ยงในการเป็นที่สนใจ รวมถึงสายตาจากคุณครูด้วย
เพื่อที่จะให้ลูกมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ฉันจึงได้ตามหาโรงเรียนกวดวิชา และสมัครเพื่อให้ลูกไปลงเรียน
แต่ไม่ว่าจะเรียนสักกี่ที่ลูกก็ยังเรียนไม่เก่งอยู่ดี ในที่สุดฉันก็ต้องยอมรับกับความจริง ลูกฉันเป็นเพียงคนธรรมดา
แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นเด็ กที่น่ารักสำหรับฉันและสามีมาก เขาเชื่อฟังที่ฉันบอกทุ กอย่ าง
และไปเรียนพิเศษทุ กที่ที่ฉันส่งเขาไป โดยไม่มีอิดออด ซึ่งเขาก็ทำตามหน้าที่อย่ างตั้งใจ
ลูกบอกกับฉันว่า “แม่ครับ ช่วยสมัครเพิ่มให้ผมอีกสักวิชาได้ไหมครับ ผมจะได้ตามเพื่อนทัน”
เมื่อฉันได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกป วดใจ สำหรับคนเป็นแม่แล้ว การที่เห็นลูกพย าย ามเพื่อเรา
ถึงแม้เขาจะเรียนได้ไม่ดี แต่จะให้ไปตำหนิเขาได้อย่ างไร เมื่อเห็นถึงความตั้งใจของเขาขนาดนี้
ในที่สุดฉันก็ยอมรับได้ว่า บางคนเกิดมามีความสามารถ แลความถนัดไม่เหมือนกัน
บางคนไม่ต้องมีครูสอนก็วาดรูปออกมาได้สวย บางคนแค่ไม่กี่ขวบก็สามารถแต่งกลอนได้
บางคนชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ คนเรียนเก่งอย่ างพวกเราสองคนพ่อแม่
ได้ให้กำเนิดลูกที่เรียนไม่เก่งเท่าคนอื่น แต่ลูกของฉันมีจิตใจที่ดี
แล้วในอนาคตถ้าเขาจะตั้งใจทำงานสักอาชีพจะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้จริงหรอ?
ถึงลูกชายฉันจะเรียนไม่เก่ง ไม่เก่งเลข แต่เขาสามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู
ทั้ง ๆ ที่อายุแค่ 10 ขวบ และยังอร่อยอีกด้วย ถึงเขาจะจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ได้
แต่เขาก็เป็นคนจิตใจดี ทุ กครั้งที่เขาเปิดประตู แล้วมีคนตามหลังมา
เขาจะเอามือกันประตูรอให้คนข้างเดินเข้ามาด้วยเสมอ
เมื่อเปิดเทอมใหม่ ลูกของฉันย้ายขึ้นอีกชั้น และทางโรงเรียนได้มีการเลือกตั้งคณะกร รมการนักเรียน
อาจารย์ที่ปรึกษาได้บอกกับฉันว่า กลับบ้านอย่ าลืมชื่นชมลูกชายของคุณด้วยนะคะ
เพราะเขากล้าที่จะขึ้นบนเวที เพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานนักเรียน และนักเรียนในห้องทั้ง 40 คน
ก็เลือกเขา ถึงแม้จะมีนักเรียนคนอื่นที่ลงแข่งขันด้วยอีก 4 คน ทั้งยังเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีอันดับต้น ๆ ของห้อง
อาจารย์ยังบอกอีกว่า “ฉันรู้สึกอึ้งที่เพื่อน ๆ ต่างรักเขาเป็นอย่ างมาก ฉันถามนักเรียนทุ กคนว่าทำไมถึงได้เลือกเขา
ทุ กคนต่างตอบเป็นเสี ยงเดียวกันว่า เขาเป็นคนที่มีน้ำใจกับเพื่อน ๆ เสมอ เวลาที่มีปัญหาเขามักจะเป็นคนแรก ๆ
ที่ยื่นมือเข้าไปช่วย นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นที่รักของเพื่อนทุ กคน
แม้เขาจะไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง แต่เขามีจิตใจที่พร้อมจะช่วยเหลือทุ กคนตลอด”
เมื่อได้ยินอย่ างนั้นฉันก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชาย จริงอยู่ที่เขาไม่ใช่คนที่มีผลการเรียนดี
แต่เขาเป็นคนที่รายล้อมไปด้วยความรักจากคนอื่น ๆ มีจิตใจโอบออ้อมอารี สิ่งนี้มันมีค่ายิ่งกว่าอะไรซะอีก
ขอบคุณที่มา : bitcoretech