1. ควรรับฟังปัญหามากกว่าจะเป็นผู้พูด
จริงอยู่ว่าเวลาอีกฝ่าย เกิดเรื่องท้อแท้ ก็คงอย ากได้คำปรึกษาจากใครสักคน
แต่ลึก ๆ แล้วเค้าเหล่านั้นอย ากได้ผู้ฟังที่ดีสักคนมากกว่า
เพราะในบางครั้งการที่เราพูดแทรกระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังระบาย
มันอาจจะยิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัด หรือ รู้สึกแ ย่ขึ้นไปอีกก็ได้
ฉะนั้นทางที่ดีเราควรรับฟังและปล่อยให้เค้าระบายจนหมดก่อน
จากนั้นจึงค่อย ๆ ให้คำแนะนำไปเป็นเรื่อง ๆ ไปดีกว่านะจ๊ะ
2. อย่ าซ้ำเติ มกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องเดิม ๆ
ใครก็คงไม่อย ากมานั่งทนรับฟังเรื่องเดิม ๆ ใช่มั้ยล่ะ
แต่รู้มั้ยว่าคนเราก็มีการเสี ยใจหรือรู้สึกแ ย่กับเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ได้
ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราเองก็เป็นแบบนั้น และถ้าหากวันหนึ่งอีกฝ่ายเกิดต้องการคนรับฟัง
หรือขอคำปรึกษาจงอย่ าซ้ำเติ มต่อว่า เพียงเพราะเป็นเรื่องเดิม ๆ เลย
แต่เธอควรจะบอกเค้าด้วยคำแนะนำดี ๆ ในการเลี่ยงให้เกิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ จะดีกว่า
เพราะเชื่อเถอะว่าไม่มีใครอย ากรู้สึกแ ย่ซ้ำ ๆ หรอกนะ
3. การกอดเป็นอีกหนึ่งการให้กำลังใจที่ดีที่สุด
บ่อยครั่งใช่ว่า การพูดจะดีเสมอไป หากเลือกใช้ภาษากายอย่ างเช่น
การกอดหรือจับมือแน่น ๆ ให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ว่าเรายังคอยอยู่ข้าง ๆ
และคอยที่จะให้กำลังใจอยู่เสมอ โดยไม่ทอดทิ้งไปไหน
ซึ่งการใช้ภาษากายนี่ล่ะ เป็นย ารั กษาความรู้สึกแ ย่ ๆ ได้เป็นอย่ างดีเลย
อีกทั้งยังทำให้รักของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วยล่ะค่ะ
4. ถึงจะเห็นน้ำตาแล้วร้องไห้ตาม แต่ก็ควรเข้มแข็งเพื่อคนข้าง ๆ
ถึงแม้จะเห็นน้ำตาจนอย ากจะร้องไห้ตามขนาดไหน
ขอบอกให้เก็บน้ำตานั้นไว้ใช้ย ามจำเป็นเลยค่ะ เพราะนาทีนี้
เราจะต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้กับคนข้าง ๆ เราก่อนทำไมน่ะเหรอ??
ก็เพราะว่าเวลาที่คน ๆ นึงรู้สึกแ ย่ เค้าก็ต้องการคนปลอบใช่มั้ยล่ะ
ถ้าหากเราไปร้องไห้ตามแล้วแบบนี้ใครจะปลอบใครก่อนกัน??
เพราะอย่ างนั้นเข้มแข็งแล้วคอยเป็นผู้ฟัง เป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีจะดีกว่า
แล้วเรื่องราวแ ย่ ๆ ก็จะผ่ านไปได้ไวขึ้น
5. ใช้รอยยิ้มสยบความรู้สึกแ ย่ ๆ
ใครเห็นรอยยิ้ม ก็เป็นต้องสดใส โลกสีชมพูใช่มั้ยล่ะ และแน่นอนว่า
เมื่อค่อย ๆ ผ่ านความรู้สึกแ ย่มาได้ระยะนึงแล้ว เราก็ควรจะกู้รอยยิ้ม
ของอีกฝ่ายกลับมาให้ได้ไวที่สุดด้วยการใช้รอยยิ้มของเรานี่ล่ะ!
แต่ยิ้มในที่นี่ไม่ใช่การยิ้มเย าะหรือทำเรื่องตลกร้ ายที่อีกฝ่ายขำไม่ออกนะจ๊ะ
แต่อาจจะเป็นการชวนคุย ถึงเรื่องราวสนุก ๆ ที่เคยทำกันมาก็ได้
ให้เค้าได้ลืมความรู้สึกแ ย่ ๆ นี้ออกไป แล้วกู้รอยยิ้มสดใสกับเสี ยงหัวเราะกลับมา
6. ชวนทำอาหารมื้อพิเศษที่ช่วยกันทำเอง
การได้ช่วยกันทำอาหารร่วมกันมัน เป็นเรื่องของการส ารสัมพันธ์ที่ดีมาก ๆ เลยแหละ
และแน่นอนว่าสำหรับช่วงเวลาที่อีกฝ่ายกำลังรู้สึกแ ย่ เราก็ใช้วิ ธีนี้ได้เช่นกัน
เพราะในระหว่างที่เรากำลังตั้งใจทำอาหารอยู่นั้น เราก็ค่อย ๆ ฟังอีกฝ่ายปรับทุ กข์ไปด้วยก็ได้
เมื่ออีกฝ่ายเริ่มสบายใจขึ้นแล้ว ตอนนั้นอาหารมื้อพิเศษก็คงปรุงเสร็จพอดี
ก็จะได้มื้อดี ๆ ฉลองให้กับคนเก่งที่ผ่ านเรื่องแ ย่มาได้
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung