1. ไม่เคยมองเห็นความผิ ดพลาดของตัวเอง
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อย ากจะปกป้องตัวเองจากความรู้สึกผิดในทุ ก ๆ เรื่อง
เรื่องงานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ผิดคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา
ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นผมคำกล่าวนี้จึงไม่เกินความเป็นจริงเลย
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในที่ทำงาน เรากลับไม่พิจารณาตนเองก่อน
หรือไม่เห็นความผิ ดพลาดของตัวเอง กลับโยนให้ทุ กอย่ างเป็นความผิดของคนอื่นหมด
ลองพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นหนึ่งในคนแบบนี้หรือเปล่า
แก้ไขอย่ างไร
ไม่ต้องอายที่จะยอมรับความผิ ดพลาดของตัวเองอย่ างเต็มภาคภูมิ
คนเราย่อมมีการผิ ดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา
การยอมรับผิด และพร้อมที่จะหาทางแก้ไขปัญหาไม่โ ทษผู้อื่น
ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เพื่อนร่วมงานชอบเรามากขึ้น
แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและความซื่อตรงให้กับตัวเราเองได้อีกด้วย
แต่แน่นอนว่าเราเองก็ต้องเรียนรู้จากความผิ ดพลาดนั้น
และ พย าย าม พัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้ความผิ ดพลาดเกิดขึ้นอีก
2. ไม่เข้าสังคม
แน่นอนว่าเมื่อเราตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานในองค์กร เราต้องได้พบเจอ
และทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมแผนก หรือแม้กระทั่งต่างแผนก
การเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงานยุคปัจจุบัน
เนื่องจากไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในตำแหน่งไหน เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นทีมได้
หากเราเป็นคนที่ไม่เข้าสังคม คิดแต่ที่จะอยู่กับตัวเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับส่วนรวมเท่าไร
คงเป็นการอย ากที่เพื่อนร่วมงานของเราจะประทับใจในตัวเราได้
แก้ไขอย่ างไร
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่ว่าเราจะมีโลกส่วนตัวขนาดไหน
การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่ข าดไม่ได้
ลองพย าย ามที่ตอบต กลงเวลามีใครชวนไปกินข้าวกลางวัน
หรือนั่งพูดคุยหลังเลิกงาน สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้
คือจุดเริ่มต้นที่ดีไม่น้อยในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
3. ไม่เคยหยุดนินทา
การนินทาไม่เคยเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นการนินทาเรื่องอะไร หรือนินทาใคร
นอกจากจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีแล้ว มันยังทำให้ความน่าเชื่อถือของตัวเราลดลงไปมาก
อีกทั้งเพื่อนร่วมงานก็จะไม่ให้ความไว้วางใจที่จะพูดคุยหรือปรึกษาอะไรอีกด้วย
การนินทาอาจเป็นเรื่องที่สนุกสนานที่เราอาจจะทำได้ในบางเวลา
แต่มันสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานของเราไม่ชอบเราได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน
แก้ไขอย่ างไร
เลิกนินทาคนอื่นเถอะถ้าสามารถทำได้ หรือถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนที่นินทาคนอื่นอยู่แล้ว
จะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าเราสามารถพาตัวเองออกจากกลุ่มนินทาประจำออฟฟิศ
วิ ธีง่าย ๆ คือการเปลี่ยนบทสนทนาในกลุ่ม หรือขอตัวออกมาจากวงสนทนานั้น
4. วิจารณ์ทุ กอย่ าง
การที่เราแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เป็นการกระทำที่ไม่ได้ผิดอะไร
แต่การวิจารณ์หรือตำหนิไปทุ ก ๆ อย่ าง ไม่ว่าจะเป็นงาน โปรเจกต์ต่าง ๆ
หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะสร้างความรำคาญ
ให้กับเพื่อนร่วมงานแล้วยังอาจเกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างทีมได้อีกด้วย
แก้ไขอย่ างไร
พย าย ามบ่นให้น้อยลง เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เราควรจะมองหาวิ ธีแก้ปัญหา
มากกว่าที่จะบ่นเกี่ยวกับมันไปเรื่อย ๆ โดยไม่พย าย ามแก้ไขอะไร
และถ้าหากว่าเราไม่มีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นไปในองค์กร
หรือในตำแหน่งหน้าที่ของเราสิ่งที่เราควรทำคือ พย าย ามหาทางแก้ไขสิ่งนั้น
5. ไม่เคารพพื้นที่ หรือเวลาส่วนตัวของคนอื่น
การทำงานอย่ างมืออาชีพได้นั้น เราต้องรู้จักพื้นที่ส่วนตัว และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมองค์กร
รวมไปถึงหัวหน้าด้วย ถึงแม้ว่าตัวเราเองอาจไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
แต่การก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัว หรือเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่ างยิ่ง
เพราะนอกจากจะรบกวนเพื่อนร่วมงานแล้ว เรายังแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความไม่มืออาชีพของเราเองด้วย
แก้ไขอย่ างไร
เรียนรู้ที่จะเคารพพื้นที่และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน อย่ าคาดหวังว่าคนอื่น ๆ
จะทิ้งทุ กอย่ างเพื่อมาให้ความช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลา เราควรจะเอาใจเขา มาใส่ใจเรา
และรู้จักก าลเทศะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปพูดคุย ขอความช่วยเหลือ
รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ อย่ างการส่งเสี ยงดังในที่ทำงาน นั่นก็ถือเป็นการไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นเช่นกัน
ขอบคุณที่มา : jingjingna