1. การพาลูกพบคนหลากหลาย
เป็นการฝึกให้ลูกมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และเข้าใจสังคมมากขึ้น คือทำให้เขาเห็นว่า
ในโลกนี้มีคนที่แต กต่างหลากหลาย ทั้งสีผิว เชื้ อช าติ ภาษา และความคิด ซึ่งสิ่งที่แต กต่างเหล่านี้
ไม่ได้แปลว่าผิดเสมอไป การพาลูกออกเดินทางท่องเที่ยว ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนที่แต กต่าง
พร้อมกับคำชี้แนะที่เหมาะสม จะทำให้ลูกเข้าใจความเป็นไปของโลกใบนี้ได้ดีขึ้น
2. สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า
สำหรับเ ด็กเล็ก โลกของเขายังไม่กว้างใหญ่มากนัก การเล่าเรื่องราวต่าง ๆ จากนิทาน
หรือเกร็ดประวัติศาสตร์อย่ างง่าย ๆ เกี่ยวกับบุคคลที่ทำเพื่อผู้อื่น จะช่วยให้ลูกเข้าใจ
เรื่องการช่วยเหลือกันในสังคมได้ดีขึ้น คนเป็นพ่อแม่อาจถามลูกว่า
หากเหตุการณ์อย่ างในนิทานเกิดขึ้นกับลูก ลูกจะทำอย่ างไร ลองฟังคำตอบของลูก
แล้วชื่นชมหรือตั้งคำถาม เพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูก หลีกเลี่ยงที่จะวิจารณ์และตัดสินว่า
คำตอบของลูกถูกหรือผิด เพื่อให้ลูกได้ฝึกคิดด้วยตนเอง โดยมีพ่อแม่เป็นผู้ชี้นำแนวทางที่เหมาะสม
3. ฝึกลูกช่วยงานบ้าน
เริ่มได้ตั้งแต่เล็ก โดยส่วนใหญ่เ ด็กวัย 2 ขวบ เริ่มฟังและเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ
ดังนั้นเราควรฝึกลูกให้ช่วยงานบ้านขั้นพื้นฐาน เช่น เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จแล้ว
นำเสื้อผ้าที่สวมแล้วไปใส่ตะกร้า เป็นต้น การให้ลูกช่วยงานบ้าน โดยเริ่มจากสิ่งที่เขาควรต้องรับผิดชอบเอง
ทำให้เ ด็กได้เรียนรู้เรื่องหน้าที่ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อ การใช้ชีวิตในสังคม เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น
ค่อยเพิ่มหน้าที่ภายในบ้านให้เหมาะสมกับวัย ลูกก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ตนทำ
มีผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่ างไร นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเอาใจเขาใส่ใจเรา
4. สอนเรื่องอ ารมณ์ต่าง ๆ
พ่อแม่มักให้ความสำคัญ กับการสอนลูกให้เป็นเลิศในด้านวิชาการ สอนเรื่องมารย าท กฎระเบียบ
แต่กลับลืมเรื่องการรับมือ กับอ ารมณ์ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ดังนั้น พ่อแม่ควรเริ่มต้นสอนให้ลูกรู้จักอ ารมณ์ต่าง ๆ ของตน
ด้วยการเอ่ยชื่ออ ารมณ์นั้น ๆ เมื่อลูกแสดงออกมา เช่น เมื่อลูกร้องไห้ที่ไม่ได้ของเล่น อาจบอกลูกว่า
แม่รู้ว่าลูกกำลังเสี ยใจที่ไม่ได้ของเล่น หรือเมื่อลูกโกรธที่ถูกแ ย่งขนม ต้องบอกว่า ลูกกำลังโกรธใช่ไหม
แต่แม่อย ากให้ลูกหายใจลึก ๆ ใจเย็น ๆ การสอนเช่นนี้จะช่วยทำให้ลูก เรียนรู้ที่จะจัดการกับอ ารมณ์ของตนเมื่อโตขึ้น
และไม่นำอ ารมณ์ของตนเอง มาเป็นข้ออ้างในการทำร้ ายคนอื่น
5. ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง
เพื่อเป็นพื้นฐานทักษะอื่นต่อไป เพราะการที่เด็ กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และลดการพึ่งพาคนอื่น
จะทำให้เ ด็กเกิดความมั่นใจในตัวเอง ลดความกังวล และพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน
6. ฝึกระเบียบวินัย
เพื่อเป็นทักษะการควบคุมตนเอง และยับยั้งชั่งใจให้แ ก่ลูก นับเป็นพื้นฐานการทนต่อสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เล็ก ๆ เช่น การตื่นนอนและเข้านอนให้เป็นเวลา รับประทานอาหารเป็นเวลา
การเก็บของเล่นให้เป็นที่เป็นทางหลังเล่นเสร็จแล้ว ไม่รับประทานขนมหรืออาหารในห้องนอน เป็นต้น
ขอบคุณที่มา : deejaiplus