การที่เรายืมเ งิ นเขามาสิ่งที่เราต้องทำคือ การหามาใช้คืน ไม่ใช่ยืมแล้วเงียบห า ยไปไม่อย ากคืนเขา
หากการทำเช่นนี้มันจะทำให้เรามีบ าปติ ดตัว ฉะนั้นยืมแล้วก็ต้องรู้จักคืน
การมีห นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต การที่คุณหยิบยืมเ งิ นจากผู้อื่นนั่นเท่ากับว่า
คุณได้รับโอกาสต่อลมห า ยใจออ กไปแล้ว ที่สำคัญเมื่อตัวเองได้รับความช่วยเหลือ
ก็จงอ ย่ าสร้างความเดือ ดร้อนให้คนอื่นและพย ามย ามใช้คืนดังนี้
1. พูดคุยให้ชัดเจนถึงเหตุผลที่เราต้องหยิบยืมเงิ นเพื่อน ยืมเงิ นญาติ
การจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน สิ่งแรกคือคุณต้องชัดเจน อ ย่ าอมพะนำไม่พูดความจริง
คนที่จะช่วยเหลือจึงจะทราบสถานการณ์และความจำเป็นของคุณโดยละเอียด
และควรกำหนดเวลาใช้คืนให้ชัดเจนว่าคุณพร้อมใช้คืนเมื่อไหร่ และที่สำคัญ
เมื่อได้รับความช่วยเหลือมาแล้ว อ ย่ าได้ห า ยหน้าห า ยต าไปอ ย่ างเด็ดข า ด
แม้จะยังไม่ถึงกำหนดชำระก็จงติ ดต่อ กับเพื่อนเพื่อแสดงความจริงใจตลอ ดเวลา
หากคุณยังติ ดขัดอะไรอยู่จงบอ กเหตุผลกับเพื่อนหรือญาติเสมอ การห า ยเข้ากลีบเมฆ
คุณกำลังทำล า ยตัวเองและความน่าเชื่อถือของตัวเองอ ย่ างน่าอ ดสูที่สุด
2. สำรวจข้อผิ ดพลาดในอดีตของตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ก่อนจะใช้ห นี้ได้ คุณต้องเข้าใจเ สี ยก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง
คุณจะได้เข้าไปแก้ไข อ ย่ างตรงจุด ถ้าคุณไม่สำรวจความผิ ดพลาดในอ ดีต
เชื่อเถอะว่าในไม่ช้าวังวนเดิมๆ จะกลับมาหาคุณอ ย่ างแน่นอน
3. ถ้าบริหารแล้วยังไม่พอก็ต้องหารายได้เพิ่ม
สำนวนที่ยังคงเป็นจริงเสมอคือประโยคที่ว่า หาให้มากกว่าใช้ ถ้าคุณบริหารทุ กอ ย่ างแล้ว
ยังไม่เป็นไปต ามเป้า คุณก็ควรจะหาร า ยได้เพิ่มเติมครับ สำรวจว่าคุณมีศักยภาพอะไร
หรือถนัดอะไรและมันพอจะเอามาเป็นวิ ธีหาร า ยได้เพิ่มเติมได้หรือไม่แล้ว
จงลงมือทำเ สี ย เอาเวลาที่มานั่งเครียดนั่งกุมขมับมาหาเ งิ นเพิ่มดีกว่าครับ
4. ปรับพฤติกร รมสิ้นคิดบางอย่ างลง
ถ้าแม้คุณจะมีบัญชีร า ยรับร า ยจ่าย หรือคุณจะรู้และเข้าใจความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นในอ ดีต
แต่ถ้าคุณยังไม่ยอมเปลี่ยนพฤติก ร ร มตัวเอง มันก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แล้วคุณก็ไม่อาจหลุดพ้นจากวังวนนั้นแน่นอน จำไว้ว่าการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
คุณต้องอาศัยความอ ดทนและความตั้งใจอ ย่ างมาก
5. บริหารเงิ นที่เหลือจากการตัดรายจ่ายนั้นอย่ างมีประสิทธิภาพ
จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่การบริหารเ งิ นที่เหลือจากการจัดการร า ยจ่ายที่ไม่จำเป็นนั้นอ ย่ างเดียว
คุณควรจะวางแผนการเ งิ นตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ เ งิ นที่ได้เพิ่มมานั้น คุณควรจะวางแผนดี ๆ
ว่าแต่ละส่วนคุณจะจัดการอ ย่ างไรส่วนไหนเก็บ ส่วนไหนกันไว้ใช้ห นี้ คุณต้องแบ่งแต่ละส่วนให้ชัดเจนครับ
6. ทำบัญชีค่าใช้จ่ายเพื่อเปรียบเทียบสมดุลของรายได้และรายจ่าย
จริง ๆ สิ่งนี้เป็นหัวข้ อคลาสสิคที่สุดสำหรับการสร้างวินัยทางการเงิ น เพราะมันจะบอ กคุณเลยว่า
ในแต่ละเดือนคุณมีร า ยได้เข้ามาเท่าไรและคุณเ สี ยเ งิ นไปกับเรื่องอะไรบ้าง
คุณจะได้เข้าไป จัดการกับร า ยจ่ายที่ไม่จำเป็นเหล่านั้น
ขอบคุณที่มา : kiddeemak99