สมัยก่อนเราเป็นคนที่จริงจังกับความรักมาก ทุ่มเทกับแฟนสุด ๆ
แบบไม่กลัวตัวเองเหนื่อย ยอมประหยัดเงิ นส ารพัด ทำงานพิเศษ
ได้เงิ นมาก็พาแฟนไปเลี้ยง ไปทานร้านหรู ๆ อะไรอย่ างนั้น
ฟัง ๆ ดู ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่กำลังมีความรัก
ด้วยความที่รักแฟนมาก.. แน่นอน เราย่อมมีเวลาให้แฟนอย่ างที่สุด
จนลืมนึกถึง.. คนที่รักเราและดูแลเรามาตลอดทั้งชีวิต อย่ าง “ ป๊าและม้า ”
หลาย ๆ ครั้งท่านทั้งสองก็ห่วงเรา คอยเตื อนเรา
เพราะ กลับบ้านดึกมาก กับข้าวที่ม้าทำไว้ให้บางทีก็ไม่ได้กิน เพราะไปกินกับแฟนแล้ว
วันเส าร์อาทิตย์ ก็ไปหาแฟน เก็บเงิ นไว้ซื้อของให้แฟน
หายใจเข้าออกเป็นสาวคนนั้นเลยทีเดียว เวลามีให้แฟนมากกว่าที่มีให้ตัวเองและป๊าม้า
หลาย ๆ ครั้ง ป๊าม้าคอยเตื อน เพราะท่านห่วงเรา กลัวเหนื่อย กลัวพักผ่อนไม่พอ
แต่เราก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ มีปากเสี ยงกับท่าน ทำให้ท่านเสี ยใจไปก็คงไม่น้อยหล่ะ (รู้สึกผิดจริง ๆ)
ทีนี้ แน่นอนว่า ความรักของเรา มันไม่ได้ยืนย าวหรอก….
แล้วมันก็มาถึงจุดสิ้นสุดของความรัก แต่ก็เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตด้วยเหมือนกัน….
….ช่วงใกล้ ๆ เลิกกับแฟน เพราะ แฟนคนนี้ แอบไปมีคนใหม่….
ซึ่งแน่นอนดีกว่าเราทุ กอย่ าง… แฟนเริ่มเปลี่ยนไป หงุดหงิดเราง่ายขึ้น ไม่คุยเหมือนเดิม
ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิม แล้วยังไงดีหล่ะ เราก็เ สียใจ หงุดหงิดเหมือนกัน อ ารมณ์แปรปรวน
บางครั้งถึงกับขึ้นเสี ยงกับคนที่บ้านไปบ้างก็มีเวลาคนที่บ้าน ป๊าม้า พี่น้องเตื อนเรา ก็คนมันหงุดหงิดอ่ะนะ ทำไงได้..
แล้ววันที่ทำให้เราคิดได้ก็มาถึง..
วันนั้นระหว่างที่เรานั่งรถเมล์กลับบ้านฝนต กหนักมาก…
ก็คิดถึงแฟน (ที่กำลังจะเลิกกัน) ก็เลยโทรหา นี่คือบทสนทนาคร่าว ๆ..
เรา : อยู่ไหนคะ ทำอะไรอยู่ ฝนต กหนักหรือเปล่าตรงนั้น
แฟน : กำลังกลับบ้าน มีอะไรก็รีบ ๆ พูด
เรา : มีร่มมั้ย
แฟน : ไม่มี
เรา : แล้วทำยังไงเดี๋ยวตากฝน ไม่สบายนะ
แฟน : ไม่เป็นไรจัดการเองได้ โตแล้ว
เรา : แล้วกินอะไรหรือยัง
แฟน : ยังอะ.. ยังไม่หิว
เรา : กลับบ้านดี ๆ นะ ถ้าฝนต กหนัก หาที่หลบก่อน รอฝนซาแล้วค่อยกลับ ดูแลตัวเองด้วย เป็นห่วง
แฟน : (เริ่มหงุดหงิด) อืม รู้แล้ว ไม่มีอะไรใช่มั้ย แค่นี้นะ.. แล้วก็วางหูไป
เรายังอยู่บนรถเมล์ หลังจากวางหูไปเราเสี ยใจมาก เพราะว่าเราหวังดี ไม่คิดว่าจะทำให้รำคาญ….
และแล้ว… จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดก็มาแล้ว เมื่อเสี ยงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง….!!
เรา : ฮัลโหล
ป๊า : (เรียกชื่อเรา) ลื้ออยู่ไหนเนี่ย
เรา : อยู่บนรถเมล์ ป๊ามีอะไร กำลังกลับบ้าน
ป๊า : กินข้าวหรือยัง
เรา : ยังอ่ะ
ป๊า : เออ ๆ ที่บ้านอาม้าทำกับข้าวไว้แล้ว มี (บอกชื่อกับข้าว)
เรา : อืม
ป๊า : แถวบ้านฝนต กหนักนะ ลื้อเอาร่มไปหรือเปล่าเนี่ย
เรา : ไม่มีอ่ะ ไม่ได้เอามา
ป๊า : อ้าว แล้วเดี๋ยวลงรถ จะทำไง จะตากฝนกลับบ้านเหรอ (จากป้ายรถเมล์ เราต้องเดินอีกไกลกว่าจะถึงบ้าน)
เรา : อืม ๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวลุยกลับบ้านไป แป๊ปเดียว ไม่เป็นไรหรอก
ป๊ า: เออ ๆ เอางี้ ลื้อลงรถแล้วโทรหาป๊า เดี๋ยวป๊าเอาร่มไปรับ
เรา : ไม่เป็นไรป๊า เดี๋ยวเค้ากลับเอง (เราใช้แทนตัวเองว่า “เค้า” กับป๊าและม้ามาตั้งแต่เ ด็ก ๆ)
ป๊า : เออ ๆ ลงรถแล้วโทรมาละกัน แค่นี้แหละ….วางหู
….สังเกตอะไรมั้ย…
…บทสนทนาระหว่างเรากับแฟน แทบจะเหมือนกับที่ป๊าพูดกับเราเลย…
…นั่นล่ะจุดเปลี่ยน….
…ในขณะที่เราห่วงแฟน.. รัก และพย าย ามดูแลทุ กอย่ าง ..
จะโดนด่าให้เ จ็บช้ำน้ำใจขนาดไหนก็ทนเหลือเกิน
แต่สุดท้ายแล้วเค้าเห็นค่าของเราหรือเปล่าก็ไม่รู้….???
…แต่มีชายหญิงคู่หนึ่ง รักเรามากกกกกก มากจริง ๆ ก็พ่อแม่เรานี่แหละ.. รักเรามาก
ไม่เคยหวังผลตอบแทน ห่วงเราได้ทุ กสถานการณ์ ต่อให้เราเคยหงุดหงิด
มีปากเสี ยงกับท่าน ถามว่าท่านโกรธไม๊…. (แน่นอน) ก็คงมีบ้าง
แต่สุดท้ายความโกรธนั้นก็หายไป กลายมาเป็นความห่วงใยทุ กครั้ง
และ ท่านก็ยังรัก หวังดี แล้วก็ห่วงเราเหมือนเดิม…
แต่แปลก…!! ทำไมเราต้องไปสนคนอื่น แคร์คนอื่น ไปเสี ยใจ
เพราะคนอื่นไม่รัก ร้องไห้ฟูมฟายตอนเลิกกับแฟน
เราเสี ยใจให้กับคนที่เรารัก แล้วเค้าไม่รักเรา….แล้วรู้มั้ยว่า ??
คนที่รักเราที่สุดในโลก พ่อแม่เรา เค้าเสี ยใจมากขนาดไหน
ที่เห็นเราเสี ยใจ เห็นเราเป็นทุ กข์ เราเคยคิดอย่ างนี้กันบ้างหรือเปล่า…?
กับแฟน เราซื้อของให้..มีเวลาให้ ดูแลเทคแคร์ส ารพัด…!!
แต่กับคนที่รักเราที่สุดในโลก เราเคยซื้อของดี ๆ ให้ท่านบ้างมั้ย??
เคยพาท่านไปเที่ยว ไปไหว้พ ระ ไปทานข้าวนอกบ้าน
หรือ..เคยดูแลท่านเหมือนที่ทำกับแฟนมั้ย??
มันไม่ใช่เรื่องผิด..ถ้าเราจะดูแลแฟนให้ดี แต่จงอย่ าลืมว่า..
ใครคือคนที่เราเห็นหน้ามาตั้งแต่ลืมตาดูโลกครั้งแรก
และมอบความรักให้กับเราตั้งแต่วันที่อยู่ในท้องจนกระทั่งวันนี้..
…นี่ล่ะความคิดที่ออกมาทั้งหมด…
หลังจากแค่ป๊าถามว่า…. “ แล้วเธอมีร่มมั้ย…? ”
ตั้งแต่วันนั้น เราสัญญากับตัวเองว่าให้เราดูแลแฟนดีขนาดไหน
แต่กับ “ป๊า ม้า” ต้องดีมากกว่าเสมอ
เราพา ป๊า ม้า ไปทานข้าวนอกบ้าน พาท่านไปเที่ยว ไปทำบุญที่วัดบ่อยเท่าที่มีโอกาส..
เราซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ป๊ากับม้า ทุ กครั้งที่มีโอกาส..
ไม่ว่าจะเป็นของจากในหรือต่างประเทศ
ถึงแม้บางที จะทำเป็นบ่นว่าซื้อมาทำไม แพงเปลืองตังค์
แต่…แหนะ อย่ ามาแอ๊บ เห็นนะว่าแอบยิ้ม ^^
แน่นอนว่าทุ กวันนี้เรามีความสุขมาก มากจริง ๆ
เพราะว่า เราได้ตอบแทนความรักที่คนสองคน ที่รักเรามากที่สุด
และ เราก็รักเค้าทั้งสองคนมากที่สุด ให้มีความสุข
ขอขอบคุณทุ กคน..ที่อดทนอ่ านจนจบนะ
หวังว่าคงช่วยทำให้หลาย ๆ คน หันมารักพ่อแม่มากขึ้น
ขอบคุณที่มา : bitcoretech