1. ฝึกอยู่ร่วมกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
โลกนี้มีสิ่งที่คุณ อย ากจะเปลี่ยนแปลงอยู่มากมาย บางอย่ างคุณก็อาจเปลี่ยนแปลงมันได้
แต่หลายครั้งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ดังนั้นคุณจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้
ซึ่งหมายความว่า คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมไม่ได้นั้น แล้วเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมันอย่ างสันติ
เพราะการกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่แก้ไม่ได้นั้น นับว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก มันทำให้เราได้แต่นั่งระแวงกับปัญหาอย่ างอื่น
ที่กำลังถาโถมเข้ามาแทน แต่ถ้าคุณสามารถอยู่ร่วมกับปัญหาเหล่านั้นได้อย่ างสันติวิ ธีล่ะก็
ความกังวลจะหายไปในทันที และสิ่งแรกที่คุณจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับมันได้
นั่นก็คือ ‘ทัศนคติ’“การกังวลกับบางอย่ างที่คุณควบคุมไม่ได้นั้น ก็เหมือนกับการต กอยู่ในหลุมที่กำลังด่ำลึกลงเรื่อย ๆ”
2. อย่ าจมปลักอยู่กับอดีต
การติ ดอยู่กับสิ่งที่ผิ ดพลาดในอดีต ไม่ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้เป้าหมายคือ จะทำอย่ างไรให้อนาคตดีขึ้นกว่าเดิมได้ล่ะ?
แทนที่นั่งกังวลกับอดีตที่ แ ย่ ๆ เราควรเรียนรู้จากความผิ ดพลาดนั้นและไม่ยึดติ ดกับมันจะดีกว่าไหม
อนาคตที่สดใสขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำวันนี้ จงใช้ชีวิตให้ดีที่สุดในทุ ก ๆ วัน เรียนรู้จากวันวาน
และอย่ าทำพลาดอีกในวันนี้ แล้ววันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีกว่าเดิม
“เราเรียนรู้จากอดีต และทำเพื่อในอนาคตด้วยการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน”
3. โฟกัสในเรื่องที่สำคัญเข้าไว้
ชีวิตเต็มไปด้วยเส้นทางมากมาย อย่ าเอาแต่เสี ยกำลังและอ ารมณ์ ไปเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย “Vicarious living”
คือคำนิย ามที่ Marshall Goldsmith ใช้อธิบายพฤติกร รมของคนที่มักสนใจแต่เรื่องคนอื่น
เรามักทำเช่นนี้ผ่ านทางทีวี คอลัมน์ซุบซิบนินทาและกลุ่มแชทส่วนตัวของเรา
เพราะมันเป็นเรื่องง่ายกว่าการที่จะมาหาวิ ธีทำให้ชีวิต ตัวเองดีขึ้นยังไงล่ะ และการเสี ยพลังและเวลาไปกับเรื่องไร้ส าระพวกนี้แหละ
ที่ทำให้ชีวิตคุณไม่ก้าวไปไหนสักที ดังนั้น จงค้นหาและเตื อนตนเองให้ได้ว่า คุณจะเสี ยเวลาให้กับเรื่องไร้ส าระแบบนี้จริงหรือ?
แล้วคุณได้ประโยชน์อะไรจากมันบ้างไหม หรือไม่มีเลย? “มีเรื่องไร้ส าระมากมายในชีวิตประจำวันของเรา และส่วนใหญ่แล้วไม่มีความสำคัญเลยสักนิด”
4. ลงทุนเพื่อพัฒนาตัวคุณเอง
ถ้าตัวคุณยังไม่เก่งพอ แล้วคุณจะไปดูแล คนอื่นได้อย่ างไร การพัฒนาตนเองทำให้คุณมีความสามารถในการช่วยพัฒนาคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน
การลงทุนในที่นี้อาจหมายถึง การใช้ เงิ น เวลา และกำลังที่มีเพื่อช่วยให้คุณ เติบโต เรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้ก้าวนำผู้อื่น
จนสามารถถ่ายทอดสิ่งต่าง ๆ เพื่อผู้อื่นได้ต่อไป แต่ถ้าคุณไม่มีความสามารถใด ๆ เลย คุณจะเอาอะไรไปสอนหรือแนะนำเขาได้ล่ะ จริงไหม?
“การพัฒนาตัวคุณเอง ช่วยให้คุณสามารถช่วยพัฒนาคนอื่นได้”
5. เปลี่ยนคำวิจารณ์ให้กลายเป็นโอกาสในการเรียนรู้
คำวิจารณ์ช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้ ข้อมูลและทักษะใหม่ ๆ รวมทั้งยังทำให้คุณเข้าใจในตัวเองมากขึ้นได้
เพราะมันช่วยให้คุณเปิดเผยกับตนเองมากขึ้นว่าคุณเป็นอย่ างไร มีส่วนใดบ้างที่ยังข าดต กบกพร่อง จำไว้ว่าคำติชมไม่ใช่การทำเพื่อให้ผู้อื่นพอใจ
แต่เป็นการฝึกให้คุณเรียนรู้และพัฒนาตัวคุณเองต่างหากเพราะการพัฒนาตนเองไปพร้อม ๆ กับการยอมรับคำติชมต่าง ๆ นั้นนับเป็นเรื่องที่ดี
คนประเภทนี้จะมีความน่าเชื่อถือมองโลกในแง่ดี มีความยืดหยุ่นสูง และมีความจริงใจโปร่งใสอีกด้วย
“คนสมบูรณ์แบบไม่ได้น่าหลงใหล คนที่โปร่งใสต่างหากที่น่าคบหา”
แม้ว่าในโลกนี้จะมีคนที่ ร วยกว่า น่ารักกว่า แข็งแรงกว่าหรือเก่งและฉลาดกว่าคุณอยู่มากมาย แต่สิ่งที่แปลกแต่จริงก็คือ
ยิ่งเราเป็นตัวของตัวเองมากเท่าไหร่ ผู้คนจะให้ความสนใจเรามากขึ้นเท่านั้น และชอบในตัวตนของเราด้วย
ขอบคุณที่มา : sabailey