การใส่บาตรในช่วงเช้านั้น เป็นประเพณีที่คนไทยถูกปลูกฝังให้ปฎิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน
โดยมีความเชื่อว่าการทำบุญใส่บาตรนั้นจะเป็นการสร้างบุญกุศลให้กับตนเอง
และเผื่อแผ่ไปถึงเจ้ากร ร มนายเ วร และเป็นการแผ่เมตตาให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
ด้วยความเชื่อที่ว่าอาหารที่เราได้ทำบุญไปนั้น จะส่งถึงผู้ล่วงลับที่เราตั้งใจทำบุญไปให้
ความหมายในการตักข้าวใส่บาตรพ ระ
การตักข้าวใส่บาตรพ ระนั้น เราควรตักใส่ 3 ทัพพี โดย
ทัพพีที่ 1 ถวายแด่พ ระพุทธ
ทัพพีที่ 2 ถวายแด่พ ระธรรม
ทัพพีที่ 3 ถวายแด่พ ระสงค์
จากนั้นให้เราถอดรองเท้านั่งคุ กเข่า ไหว้รับพร และกรวดน้ำให้เจ้าก ร ร มนายเว ร และผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
การทำบุญนั้นเราควรเตรียมใจที่บริสุทธิ์ ปราศจากการคิดร้ า ยต่อผู้อื่น
และสิ่งที่นำมาทำบุญนั้นต้องเป็นสิ่งที่ได้มาอย่ างสุจริต การทำบุญจะสมบูรณ์ได้นั้น
นอกจากจะถวายสิ่งของที่เรานำมานั้นให้แ ก่พ ระภิกษุ สามเณร ผู้ปฎิบัติสิ่งดีงามตามพ ระธรรมแล้ว
การทำบุญนั้นต้องไม่เดื อดร้อนเราด้วย ทำบุญจะมากจะน้อย ก็ได้บุญเท่ากัน
หลังใส่บาตรแล้ว ให้ท่องนะโม 3 จบ จากนั้นให้กล่าวว่า กุศลที่ลูกได้ทำไปแล้ว
ขอถวายแด่พ ระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 5 พ ระองค์
ขอให้ทุ กพ ระองค์นำบุญให้ข้าพเจ้า มีเดช ปัญญา โภคะ ขอให้สมหวัง สมปรารถนาในทุ กเรื่อง
ขอให้มีบุญบารมีเต็มขั้น เกิดสภาวะธรรม ตามบุญวาสนาที่ได้ทำมา จากทุ กภพทุ กชาติโดยเร็วเทอญ
หลังจากนี้ให้ทำการแผ่เมตตาให้ตัวเอง โดยบทแผ่เมตตามี ดังนี้
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข
อะหัง นิททุ กโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไร้ทุ ก ข์
อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีเ ว ร
อะหัง อัพย าปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าไม่เป็นผู้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะหัง อะนีโฆ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีทุ ก ข์
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ ขอให้ข้าพเจ้าจงรั ก ษ าตนอยู่เป็นสุขด้วยเถิด
จากนั้นให้แผ่เมตตาให้เจ้า ก รร ม น า ย เว ร หรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมีบทแผ่เมตตาดังนี้
สัพเพ สัตตา โหนตุ นิททุ ก ข า อะเ ว ร า อัพย าปัชฌา อะนีฆาสุขี อัตตานังปะริหะรันตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุ ก ข์ ไม่มีเ ว ร ไม่มีภั ย ไม่มีความคับแ ค้ นใจ
จงมีความสุขกายสบายใจ รัก ษ าตนให้พ้นจากทุ ก ข์ภั ยทั้งหลายทั้งปวงเทอญ
ขอบคุณที่มา : postsabaidee