1. วัตถุทาน
วัตถุทานนั้น หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการให้เงิ นมาก ๆ ที่เราจะได้รับบุญมาก
แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้เ งิน เอาที่ตัวเองตั้งใจและไม่เดื อดร้อน
เพราะการให้น้อยหรือการให้มากนั้น ตัวเราเองก็ล้วนได้บุญที่เท่ากันเช่นกัน การรินน้ำสัก 1 แก้ว
ให้กับผู้อื่นด้วยความเต็มใจ การมีจิตใจที่บริสุทธิ์ การให้อาหารสั ต ว์การเลี้ยงดูสั ต ว์
การมอบสิ่งของต่าง ๆ ให้กับผู้อื่นด้วยความตั้งใจ และความจริงใจไม่ใช่การทำบุญเพื่อการสร้างภาพ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นล้วนเรียกได้ว่า เป็นการทำบุญจากวัตถุทานทั้งสิ้น ที่ตัวเรา จะสามารถทำได้ในทุ กที่และทุ กเวลา
2. ธรรมทาน
เป็นการให้ความรู้ที่ถูกต้อ งและให้อย่ างถูกวิ ธี จะเกิดเป็นผลประโยชน์ให้กับผู้ที่รับฟังให้กับผู้อื่น
อย่ างการอบรมสั่งสอนให้กับคนรอบข้าง เป็นสิ่งที่ดีที่เป็นประโยชน์ สั่งสอนลูกหลาน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นก็เปรียบเสมือนทำบุญด้วยความเต็มใจ การจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์ หนังสือที่มีความรู้ต่าง ๆ
สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นธรรมทานทั้งสิ้น นอกจาก ที่จะเป็นการสร้างบุญให้กับตนเองแล้วยังเป็นการมอบบุญที่ดีให้กับผู้อื่นด้วย
3. อภั ยทาน
จะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ย ากก็ว่าได้ แต่เรามีความเชื่อว่าทุ ก ๆ ท่านนั้นสามารถทำได้ด้วยความเต็มใจ
การที่ไม่ถือโ ท ษโ ก ร ธ กัน การให้อ ภั ยกัน เก็บเรื่องราวที่เป็นความทุ ก ข์ความ ผิ ด ใ จเป็นเรื่องที่กลุ้มใจในใจของเรา
ทำให้เราและเขามีความทุ ก ข์ เราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้พรหมวิหาร 4 ซึ่งจะเริ่มจากเมตตา กรุณา มุติทา
และถ้าไม่ไหวก็อุเบกขา คือ การปล่อยวางทั้งสิ้น สิ่งที่ไม่ดีที่คนอื่นได้ทำกับเรานั้น สักวันหนึ่งจะย้อนกลับไปหาตัวผู้ทำเอง
โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร ให้ตัวเรานั้นอยู่เฉย ๆ การมีมิตรอยู่รอบข้าง เป็นสิ่งที่ดี ดี กว่าการมีศั ต รูอยู่รอบตัว
หากเราได้ให้อภั ยแล้วใจของเราก็จะเบาลง ทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิต กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณที่มา : postsod