ชดเชยความผิดของพ่อแม่ด้วยสิ่งของ
เช่น พ่อแม่ที่ต้องทำงาน มักจะรู้สึกผิ ดที่ไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกได้มากพอ จึงซื้อของเล่นให้ลูกเยอะ ๆ
เพื่อชดเชยความผิ ดนี้ การทำแบบนี้ สอนให้เ ด็ กรู้ว่า เมื่อคนอื่นทำอะไรผิ ด เขาจะได้รับสิ่งของเป็นการตอบแทน
สำหรับพ่อแม่ที่ต้อง ทำงานนอ กบ้าน ไม่ต้องกังวลใจไปว่าการมีเวลาอยู่กับลูกเพียงเล็กน้อย จะทำให้
ลูกมีปัญหา เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาคุณภาพอยู่กับลูก โดยการหากิจก ร ร ม ทำร่วมกัน
และช่วงเวลาที่อยู่กับลูก ให้คุณพ่อคุณแม่โฟกัสไปที่ลูกเพียง อ ย่ างเดียว ไม่หยิบมือถือ
ไม่คิดเรื่องงานหรือเรื่องอื่น ๆ แม้จะเป็นการใช้เวลา ร่วมกันเพียงน้อยนิด
แต่ก็ช่วยเติมเต็มให้ลูกได้มากกว่าการอยู่กับลูกทั้งวัน แต่พ่อแม่ไม่สนใจลูกอีกค่ะ
ไม่เคยปล่อยให้ลูกรอ
เมื่อลูกอย ากได้อะไร ชี้อะไร สิ่งของเหล่านั้นจะมาอยู่ตรงหน้าลูกทันที พฤติก ร ร ม ที่พ่อแม่ทำนี้
จะทำให้ลูกไม่รู้จักการรอคอย การอ ดทน การอ ดออม เพื่อให้ได้สิ่ง ที่ต้องการมาเป็นของตน
ลูกจะไม่เห็นสิ่งอื่น ๆ มีค่า เ พ ร า ะไม่เคยต้องอ ดทนรอ หรือคอยเลย บางครั้งการปล่อยให้ลูกได้หิว ร้อน เหนื่อยบ้าง
จะทำให้ลูกรู้ว่า อาหารที่อยู่ตรงหน้าอร่อยเพียงใดก็เป็นได้ เข้าใจดีว่า เ ด็ กก็คือเ ด็ ก ในบางครั้งลูกอาจจะงอแง
อย ากมี อย ากได้ ต ามวัย ของเขา และพ่อแม่ทุ กคนก็ไม่อย ากเห็นลูกเ สี ยใจ แต่เราจะต ามใจลูกได้แค่ไหน
โดยที่ไม่เป็นการสปอยล์ลูกจนเ สี ยนิสัย ไปดูเทคนิคกันค่ะ
รับฟังความต้องการของลูกแต่แก้ปัญหาต ามแนวทางของพ่อแม่
ให้ลองรับฟังลูกว่าลูกต้องการอะไร รู้สึกเ สี ยใจเ พ ร า ะอะไร ยิ่งเราฟังลูกมาก เท่าไร ลูกก็จะยิ่งไว้เ นื้อเชื่อใจเราเท่านั้น
และเมื่อรับฟังแล้วสิ่งสำคัญหลังจาก นั้นคือแนวทางการช่วยแก้ปัญหาให้ลูก พ่อแม่ควรยึดหลักและกฎเกณฑ์ใน บ้านเป็นหลัก
ไม่ควรแหวกกฎเกณฑ์เพื่อต ามใจลูก เช่น เมื่อลูกอย ากได้ โทรศัพท์มือถือเ พ ร า ะเพื่อน มีกันหมดแล้ว
ให้คุณพ่อคุณแม่รับฟังว่าลูกรู้สึก อ ย่ างไร ต้องการมากแค่ไหน หลังจากนั้นให้ย้ำถึงกฎเกณฑ์ว่าเราได้ต กลงกันแล้วว่า
ลูกจะมีโทรศัพท์มือถือได้เมื่อลูกอยู่ในวัยที่เหมาะสมเท่านั้น เป็นต้น
อย่ ากลัวที่จะให้ลูกผิ ดพลาด
ผิ ดเป็นครู ถ้าลูกไม่รู้จักผิ ดพลาด ผิ ดหวังเลย จะมีแรงจูงใจอะไรให้พย าย าม ทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จได้
และลูกจะรู้จักระมัดระวั งไม่ให้เกิดความผิ ดพลาด หรือไม่ถ้าไม่เคยทำผิ ดเลย ตัวอ ย่ างเช่น เวลาเล่นเกมกับลูก
ไม่จำเป็นต้อง ยอมแพ้และให้ลูกชนะทุ กครั้ง การให้ลูกรู้จักแพ้บ้าง เพื่อให้ลูกได้พย าย าม
ทำให้ตัวเองชนะ ก็เหมือนกับการที่พ่อแม่ต่อขั้นบันไดให้ลูกได้ปีนผ่ านอุปสรรค ต่าง ๆ จนทำสิ่งเหล่านั้นได้สำเร็จนั่นเอง
และเมื่อลูกทำสำเร็จได้ด้วยตัวเอง ลูกจะมีความภาคภูมิใจในตัวเอง Self-Esteem ซึ่งความภาคภูมิใจนี้ จะเป็นผลดีกับชีวิตของลูกในอนาคต
อย่ าสรรเสริญเยินยอลูกจน มากเกินไป
การชื่นชมลูกเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกเป็นสิ่งสำคัญ แต่การชมจน มากเกิน ไปจนถึงขั้นสรรเสริญเยินยอ
ก็อาจจะเป็นการทำร้ า ยลูกได้ เ พ ร า ะเป็นการ ส่งเสริมพฤติก ร ร มที่หลงตัวเองจนเกินพอ ดี
หรือบางครั้งอาจจะเป็นการ กดดันลูกได้ เ พ ร า ะลูกจะรู้สึกว่าพ่อแม่คาดหวังให้ลูกเป็นแบบนั้น การชมลูก
ที่ถูกต้อง ควรเน้นที่การชมถึงความพย าย ามของลูก ว่าการที่ลูกทำสิ่งนั้น ๆ สำเร็จได้ เป็นเ พ ร า ะลูกพย าย าม
เช่น เมื่อลูกสอบได้คะแนนดี แทนที่จะ ชมว่าลูกหัวดี เรียนเก่ง ให้ลองปรับคำพูดเป็น
เป็นเพราะลูกพย าย าม ตั้งใจเรียน ตั้งใจทบทวนอ่ า นหนังสือ เลยทำให้ลูกได้คะแนนดี เป็นต้น
ขอบคุณที่มา : deejaiplus