1. พอแล้ว ๆ รู้แล้ว จู้จี้จริง ๆ พูดอยู่นั่นแหละ!
2. มีอะไรอีกไหม ไม่มีอะไรจะวางสายละนะ! (ที่พ่อแม่โทรมา ก็เพราะ อ ย า ก จะได้ยินเสี ยงลูก
อ ย า ก ถามไถ่ความเป็นอยู่ อย่ าได้เห็นเป็นเรื่องน่ารำคาญ ทีพูดกับเพื่อนกับแฟน ยังพูดได้เป็น ชั่ ว โมง)
3. พูดยังไงพ่อกับแม่ ก็ไม่เข้าใจหรอก ไม่ต้องถามแล้วนะ!
4. บอกพ่อกับแม่กี่ครั้งแล้ว ว่าอย่ าทำ ถึงทำไปก็ไม่เห็นจะดีอะไรเลย! (พ่อแม่แ ก่เฒ่า มีใจแต่ไร้กำลัง
แต่การที่พูดแบบ ไม่คิดอย่ างนี้ กลับกลายเป็นการ ทำ ร้ า ย จิตใจของท่านแทน)
5. ความคิดแบบนี้ มันโบราณไปแล้ว ยุคนี้ทำอย่ างนี้ไม่ได้หรอก! (คำแนะนำของพ่อแม่อาจจะช่วยอะไรเราไม่ได้
แต่ทำไมเร าไม่เปลี่ยนมาเป็นรับฟัง อย่ างน้อยอาจมีสิ่งดี ๆ ที่เราคาดไม่ถึง ออกมาจากประสบการณ์ของพ่อแม่ก็เป็นได้)
6. บอกกี่ครั้งแล้ว ว่าไม่ต้องเข้ามาจัดห้อง เห็นไหมล่ะ! หาของไม่เจออีกแล้ว วันหลังไม่ต้องยุ่ง!
(ห้องรก ต้องรู้จักจัดเก็บ ไม่จัดเก็บให้ดีก็อย่ าได้โ ทษ พ่อกับแม่)
7. ผมรู้ว่า ผมจะกินอะไร วันหลังไม่ต้องทำเผื่อ! (พ่อแม่เฝ้ารอคอยลูก ๆ กลับบ้าน
ความรักความอาทรถูกเติมลงไปใน อ า ห า ร ที่ทำ จงรับเอาความห่วงหาอาทร นี้ไว้เถิด?
อย่ า ทำ ร้ า ย น้ำใจของท่านเลย มีคนจำนวนเท่าไหร่ที่ อ ย า ก ทาน อ า ห า ร ที่พ่อแม่ปรุงให้ แต่ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว!)
8. บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ ากิน ของที่เหลือ บอกแล้วไม่รู้จักจำ (พ่อแม่ประหยัดกินประหยัดใช้จนเป็นนิสัย
บอกท่านทำให้น้อยลง ดีกว่าให้ท่าน เป็นคนเก็บของเก่ามากินเอง)
9. ผมโตแล้ว ผมรู้ว่าผมจะต้องทำยังไง พูดอยู่ได้ รำคาญ!
10. ของเก่า ๆ พวกนี้ เก็บไว้ทำไม รกบ้านเปล่า ๆ ใช้การอะไรก็ไม่ได้!
(มันอาจจะไร้ค่าสำหรับเรา แต่มันอาจมีค่าสำหรับพ่อแม่ของแต่ละชิ้นล้วนมีประวัติศาสตร์
เราไม่ดีใจเหรอของที่เรา ใช้ในตอนเด็ ก วันนี้มันยังอยู่กับเรา?)
ขอบคุณที่มา : postsabaidee