ปัญหาช่องว่าง ระหว่างวัยที่ทำให้พ่อแม่กับลูกคุยกันไม่ติ ด ประการหนึ่งก็คือ ความเข้าใจผิดในเรื่องความรัก
โดยเฉพาะอย่ างยิ่ง “การที่ลูกไปสนิทสนมกลมเกลียวกับเพื่อนหรือแฟนมากกว่าพ่อแม่”
อย่ างมากสุด ก็คือปัญหา “แม่ผัวลูกสะใภ้” หรือ “พ่อตาลูกเขย” ที่เป็นปัญหายอดฮิตตลอดก าล
คิดน้อยใจไปต่าง ๆ นานา กลัวว่าลูกจะรักน้อยลง ห่างเหินกันมากขึ้นจนลืมพ่อลืมแม่
ลูกรักแฟนมากกว่าพ่อแม่เป็นลูกอกตัญญูรึเปล่า? มาดูความจริงแต่ละข้อกันเพื่อเข้าใจ
และยอมรับความเป็นจริงมากขึ้นในอีกมุม ลดความเข้าใจผิดที่อาจเคยมีแว้บมาบ้าง
1. ผู้ให้กำเนิดเป็นคนละคนกับเจ้าของชีวิต
พ่อแม่มีบทบาทในการให้กำเนิด และการเลี้ยงดูตามสมควรก็จริง แต่ถ้าจะคิดดูให้ดีแล้ว
พ่อแม่ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงความคิดและจิตใจข้างในตัวลูกได้ทุ กเรื่องทุ กอณู
นี่จึงเป็นเหตุที่กล่าวกันไว้ว่า “เลี้ยงลูกได้แต่ตัว” เพราะหัวใจและ ส ม อ ง มันเป็นเรื่องของตัวเขาเอง
ถ้าลูกจะรักใครชอบใคร นั่นมันก็เรื่องของหัวใจและการตัดสินใจของลูก
คนเป็นพ่อแม่ทำได้แต่เพียงให้คำแนะนำและเฝ้าดูห่าง ๆ ก็เพียงเท่านั้นและแม้ว่าลูกจะทำดีหรือไม่ดีกับคนอื่นไว้
พ่อแม่ก็ไม่จำเป็นต้องออกหน้ารับผิดชอบแทนลูกได้ตลอด
ถ้าลูกโตพอที่จะรักใครได้ ก็ต้องปล่อยให้เขาแก้ปัญหาชีวิตส่วนตัวของเขาเองได้
2. ความรักแบบแฟน และแบบพ่อแม่ลูก มันคนละแบบกัน
ลูกย่อมรักพ่อแม่ด้วย เพราะเป็นผู้ให้กำเนิด ให้หลายอย่ างในชีวิต
แต่ก็ไม่ใช่ “ทั้งหมด” ของชีวิตลูก เพราะโลกนี้มันกว้างเกินกว่าที่พ่อแม่
จะโอบไว้ให้ลูกเพียงคนเดียวไหว เพราะฉะนั้น การที่ลูกจะมีความผูกพันกับใครเป็นพิเศษ
นอกเหนือ จากคนในครอบครัว มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกและไม่สามารถนำมาเทียบกันได้
พ่อแม่ควรจะดีใจด้วยซ้ำว่า “ลูกเราก็น่ารัก มี ดี พอเข้าตาคนอื่นบ้างนะ”
ใช่ว่าจะเป็นไข่ในหินให้พ่อแม่ ชื่นชมกันแค่ในบ้านแคบ ๆ อย่ างเดียวนี่
3. ลูกรักแฟนมากกว่าพ่อแม่ ไม่ได้แปลว่า แ ย่ เสมอไป
อย่ างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าความรักของพ่อแม่ และความรักแบบแฟนมันเป็นคนละแบบกัน
ดังนั้น ถ้าจะมาเทียบกันว่าลูกรักแฟนหลงแฟนมากกว่าพ่อแม่เป็นเรื่องที่ แ ย่ น่าน้อยใจ
มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป บางทีมันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น หากลองใจเย็นแล้วคิดดูให้ดีประการแรก
มันเป็นธรรมดาที่คนเรานาน ๆ ทีจะเจอวัยเดียวกัน คุยกันได้ถูกคอได้แทบทุ กเรื่อง
เพราะบางเรื่องพ่อแม่ก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้สะดวกเท่าคนเป็นแฟนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันยิ่งกว่าปาท่องโก๋ซะอีก
อีกประการหนึ่งก็คือ บางทีแล้วพ่อแม่ ก็ต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า “ที่ผ่ านมาลูกข าดความอบอุ่นอะไรจากเรารึเปล่า?”
เขาถึงให้ความไว้ เ นื้ อ เชื่อใจคนนอกบ้านมากกว่าคนในบ้าน มันเป็นธรรมดาของคนที่ข าดความอบอุ่น
พอเจอใครปุ๊บที่ถูกใจ ก็มักจะยึดเขา/เธอไว้เป็นคนสำคัญของชีวิตไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่
ของแบบนี้ถ้าไม่สามารถย้อนเวลา กลับไปได้ ก็ต้องทำความเข้าใจและยอมรับที่จะมองเห็นกันและกันในสิ่งดี ๆ ก็พอ
4. ความดีกับความรัก เป็นคนละเรื่องกัน
อย่ านำบาปบุญมาอ้างเหตุผล ให้คนเลิกรักกัน เพราะความดีก็เรื่องหนึ่ง ความรักก็เรื่องหนึ่ง
การที่ลูกรักแฟนมากพอ ๆ กับพ่อแม่ไม่ได้หมายความว่าลูกทำผิด ในขณะเดียวกัน
การที่ลูกเป็นคนดีก็ไม่ได้การันตีว่าลูกจะมีความรักวิ่งเข้าหาเสมอ และการตอบแทนคุณพ่อแม่
ก็มีอีกตั้งหลายวิ ธี ใช่ว่าจะต้องเป็นการเลือกคู่ครองที่ตรงใจพ่อแม่เสมอไปลูกไม่เชื่อฟังที่พ่อแม่ห้าม
ก็ควรปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะรักเอง เ จ็ บ เองเสี ยบ้าง เพราะความเป็นจริงแล้วนั้น “เขาโตพอแล้ว”
และ “พ่อแม่ก็ใช่ว่า จะเป็นฝ่ายถูกเสมอไป แค่ถือไพ่ว่าเป็นคนเกิดก่อนและให้กำเนิดแค่นั้น”
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung