1. สวั สดิก ารไม่ตอบโจทย์
บางที่ก็ไม่มีอะไรเลย มีแต่เ งินเดือนเพียว ๆ ต้องทนทำงานแบบฝื ด ๆ
ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่ง แ ย่ ไปกันใหญ่แต่พอหันมามองดูที่อื่น เขามีทั้งค่าคอม
เบี้ยขยันโอที โบนัสกองทุน เที่ยวประจำปี ฯลฯ
ก็ไม่แปลกเลยนะ ที่เขาจะออกจากที่ห่ วย ๆ เพื่อไปอยู่กับองค์กรอื่น
หรือบริษัทอื่นที่ทำให้ชีวิตเข า ดีขึ้น เพราะใคร ๆ ก็อย ากมีชีวิตดี
2. การทำงานไม่ ตอบโจทย์
เพราะแม้จะทำงานเก่งแต่หากมันขัดกับไลฟ์สไตล์ยิ่งอยู่แล้วมันยิ่งอึดอัด
ไม่มีความสุขกับงานที่ทำเพราะงั้น เมื่ออย าก รั ก ษ า คนเก่งไว้
ทางบริษั ทก็ต้องรู้จักปรับตัวบ้ างสิดูอย่ างบริษัทชั้น นำในต่างประเท ศ
ในยุคสมัยนี้ พวกเขาไม่เน้นกำหนดเวลา เข้า ออก งานแล้วนะ
ทั้งยังยังลดชั่ วโมงทำงานลง ก็เพราะเขาเห็นว่า คุณภาพของผลงานมันสำคัญแค่ไหน
3. ไม่เติบโต สำหรับสายงานที่ทำ
การทำงานน ใคร ๆ ก็หวังการเติบโต กันทั้งนั้น ใครจะทนอยู่กับชีวิตที่มันจำเจ
เงิ นเดือนไม่ขึ้นย่ำอยู่แต่ที่เดิมงี้ อะไรก็ไม่ก้าวหน้าทุ กคน
ก็ต้องหาอะไรที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นอยู่แล้วแต่หากทำงานแล้วชีวิตมันไม่ไปไหน
ออกไปอยู่ที่อื่น มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ
4. หัวหน้า บริหารงานห่ วย
หัวหน้าบางคนไม่เข้าใจลูกน้อง ว่าลูกน้องเหมาะกับงานแบบไหน กลับจ่ายงานที่
ไม่ถนัดให้ทำ ใช้งานไม่ตรงตำแหน่ง ทั้งที่ได้เงิ นเดือนเท่ากัน
ทีนี้หลายคน เลยตัดสินใจออก บริษั ทจึงต้องเสี ยคนเก่ง ๆ ไป
5. เงิ นน้อย
จะว่ามันคือเหตุผลหลัก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเงิ นเดือนเป็นแร งจูงใจที่ทำให้พนักงาน
มีกำลังใจทำงานถ้าบริษัทไหนจ่ายเงิ นเดือนน้อยมันก็จะไม่คุ้ม
กับหลายสิ่งที่ต้องเ สียใช่ไหมล่ะถ้ามีที่ใหม่ให้เงิ นเดือนมากกว่าสวั สดิก ารที่ดีกว่า
อย่ างไรซะ พวกเขาก็ไปแน่นอน เชื่อสิ!
6. ทำงานหนัก เกินที่จะรับไหว
เพราะบางคนทำงานเก่งแต่โดนเพื่อนที่ทำงาน เอาเปรี ยบ เจ้านายสั่งงานหนัก
ไม่กระจายงานให้คนอื่นช่วย แบบนี้ใครจะไปทนล่ะ เพราะมันคงไม่คุ้มค่าหรอก
ถ้าต้องถูกคนอื่นเอาเปรียบ ทำงานเก่งก็ต้องได้เงิ นเดือนที่เหมาะ
ได้งานเยอะกว่าคนอื่นก็ควรมีค่ าตอบแทนพิเศ ษให้
แต่หากยังได้เงิ นเดือนเท่าเดิมแต่งานกลับเพิ่มมากขึ้น จะอยู่ไปทำไม
โบกมือลาดีกว่า!
ขอบคุณที่มา : jingjai999