บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ในคืนงานสังสรรค์วันขึ้นปีใหม่ของทุ ก ๆ ปี
ว่าจะมีการ “จับฉลาก” กฎของการจับฉลากคือ
พนักงานแต่ละคนจะมอบเงิ นคนละ 200 บาท เป็นกองทุนของบริษัท
ในบริษัทมีพนักงานทั้งสื้น 300 คน ดังนั้น จะต้องได้เงิ นกองทุนรวม 60,000 บาท
สำหรับผู้ที่ โ ช ค ดีที่ถูกจับฉลากขึ้นมา ก็จะได้เงิ นจำนวนนี้ทั้งหมดกลับบ้านในวันงาน
บรร ย า กาศในสำนักงานครึกครื้นมาก พนักงานแต่ละคนต่างก็เขียนชื่อลงในใบฉลาก
แล้วใส่ลงไปในกล่องสำหรับจับฉลากขณะกำลังจะเขียนชื่อตัวเองลงไปในฉลาก
พนักงานหนุ่มคนหนึ่ง เกิดลังเลคิดถึงแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัทที่ลูกชาย ป่ ว ย
และกำลังรอผ่ าตัดอยู่แต่เธอไม่มีเ งินพอที่จะจ่ายค่าดูแล รั ก ษ า ลูกชายเธอได้
ทำให้เธอกลุ้มใจมาก แม้ว่าโอกาสที่จะถูกจับฉลากได้จะเลือนลางเพียงหนึ่งในสามร้อยเท่านั้น
แต่พนักงานหนุ่มคนนั้นก็ตัดสินใจเขียนชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นลงไปในใบฉลากของเขา!!
และแล้วช่วงเวลาที่ตื่นเต้นก็มาถึงผู้จัดการจะเป็นผู้จับฉลากขึ้นมาเองพนักงานหนุ่มอธิษฐานในใจว่า
ขอให้แม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นได้รางวัลด้วยเถอะ
ในที่สุด
ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงผู้ที่ถูกจับฉลากได้ก็คือ
“แม่บ้านทำความสะอาด” เสี ยงโห่ร้องแสดงความยินดีดังทั่วสำนักงาน
แม่บ้านทำความสะอาดได้ขึ้นไปรับเ งินกองทุน เธอดีใจมาก
ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
“ฉัน โ ช ค ดีจริง ๆ เงิ นก้อนนี้คงช่วย บ ร ร เ ท า
ความเดื อดร้อนของฉันและลูกชายได้อย่ างมากเลยค่ะ”
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา พนักงานหนุ่มคนนั้นยังคงคิดถึงเรื่อง “ปาฏิหาริย์”
ที่เกิดขึ้นอยู่อีก จึงได้เดินไปที่กล่องจับฉลาก เขาลองหยิบใบฉลากในกล่องขึ้นมาใบหนึ่ง
เมื่อเปิดดูฉลากก็เห็นชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น!!
เขาชักประหลาดใจ เลยหยิบฉลากขึ้นมาเปิดดูอีกหลายใบ บนฉลากทุ กใบ
ล้วนเขียนชื่อของแม่บ้าน เหมือนกันหมดด้วยลายมือที่ต่างกันไป?
พนักงานหนุ่มถึงกับน้ำตาซึม เขาเข้าใจได้ทันทีเลยว่า
ในโลกนี้มี “ปาฏิหาริย์” จริงเพียงแต่ว่าปาฏิหาริย์นั้นไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า
แต่เป็นมนุษย์เรานี่เองที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเราต้องรู้จักรักเพื่อนร่วมงาน
เห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมจะเป็นสุข แล้วเราก็จะสุขด้วย
ขอบคุณที่มา : parinyacheewit