1. การสนับสนุนความคิดว่าเราเป็นเหยื่อ
ในชีวิตของมนุษย์ทุ กคน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอเรื่องราวที่ไม่เป็นอย่ างที่เราคาดหวังไว้
ทุ กคนสามารถเจอเรื่องราวนี้ตั้งแต่เป็นเด็ ก ไม่ว่าจะเป็นการสอบต ก การอกหั ก
หรือแม้แต่เด็ กเล็ก ๆ ที่ล้ มลงเมื่อพวกเขากำลังหัดเดินพ่อกับแม่
สามารถฝึกความเข้มแข็งทางจิตใจของลูก ๆ ได้
โดยการไม่เข้าข้างลูกและโ ทษสิ่งแวดล้อมภายนอก
เปรียบเสมือนพวกเขากำลังเป็นเหยื่อในโลกที่ไม่ยุติธรรมใบนี้
แต่สอนให้พวกเขาเรียนรู้จากข้อผิ ดพลาด และหาทางจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่ างสร้างสรรค์
2. ไม่เอาความรู้สึกผิดมากำหนดการตัดสินใจที่ถูกต้อง
การที่เราสอนให้ลูกเป็นคนที่มีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นสิ่งที่ดี
แต่ก็ไม่ควรที่จะมากเกินไป จนลืมความความผิดชอบชั่ วดี ตัวอย่ างเช่น
ที่โรงเรียนอาจจะมีเพื่อนที่ไม่ได้ทำการบ้านมา หรือไม่ได้อ่ านหนังสือมาเพื่อมาสอบ
และขอลอกการบ้าน ด้วยความรู้สึกผิดของเด็ กว่าเพื่อจะโดนครูทำโ ทษหรือสอบต ก
เด็ กอาจจะยอมทำผิดเพื่อให้เพื่อนลอกการบ้านหรือข้อสอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
3. ให้ลูกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล
ลูกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลลูกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลพ่อแม่หลายคนที่รักลูก
ให้ความรัก ความเอาใจใส่ ตามใจทุ กอย่ าง ยิ่งถ้าบ้านนั้น ๆ มีเด็ กเป็นเพียงคนเดียว
บ่อยครั้งเ ด็กคนนั้นก็มักจะได้ความรักความใส่ใจจากทุ กคนรอบตัว
เป็นผู้รับโดยลืมที่จะเรียนรู้เป็นผู้ให้ ซึ่งจะมีผลอย่ างมากเมื่อพวกเขาโตขึ้นมา
เมื่อโลกไม่ได้เหมือนที่บ้านอีกต่อไป การฝึกให้ลูกรู้จักเป็นผู้ให้
รู้จักที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีมาก
4. ให้ความกลัวมามีผลต่อการตัดสินใจ
พ่อแม่มีหน้าที่ต้องปกป้องลูกจากอั นตราย
แต่เราควรให้เด็ กได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความกลัวต่าง ๆ ด้วย
สอนลูกถึงอั นตรายที่อาจจะเกิดขึ้น สอนลูกให้เข้าใจความรู้สึกกลัว
และรับรู้มัน ฝึกให้ลูกได้รู้จักเผชิญหน้ากับความกลัว
อย่ าให้ความกลัวมามีผลกับการตัดสินใจในชีวิต
โดยที่การตัดสินใจนั้น ๆ จะนำพาพวกเขาไปยังชีวิต
ที่พวกเขาไม่ได้ต้องการอย่ างแท้จริง
5. ให้อำนาจพวกเขาในการตัดสินใจอย่ างเหมาะสม
การฝึกให้เด็ กกล้าที่จะตัดสินใจ โดยการฝึกให้ได้มีโอกาส
ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจ
แต่อย่ างไรก็ตาม ก็ควรให้พวกเขาได้รับรู้ถึงหน้าที่และบทบาทของคนในบ้าน
เช่น พ่อ แม่ พี่ หรือญาติผู้ใหญ่ ที่เขาควรจะแสดงความนับถือเช่นกัน
6. ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบ
ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูกไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูก
การสอนให้ลูกมีความพย าย าม และทำทุ กอย่ างด้วยความสามารถอย่ างดีที่สุด
แต่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ เราสามารถล้ มเหลวได้ ผิ ดพลาดได้
จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะรับมือกับอุปสรรคในชีวิตได้ดีกว่า
และมีความสุขกว่า เด็ กที่ต้องพย าย ามทำทุ กอย่ างให้สมบูรณ์แบบ
ซึ่งเด็ กเหล่านี้จะให้คุณค่ากับตัวเองกับมาตรฐานที่คนอื่นกำหนดให้ตลอดเวลา
7. ฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบ
ความรับผิดชอบเป็นอุปนิสัยที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ
ดังนั้นเราควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบในกิจกร รมหรือหน้าที่ของตัวเองตั้งแต่เล็ก ๆ
เช่น การที่จะต้องทำการบ้านให้เสร็จ การต้องแปรงฟั นก่อนเข้านอน หรืออื่น ๆ
8. ปกป้องลูกจากความผิดหวัง ความเจ็ บป วด
ความผิดหวัง ความทุ กข์เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทุ กคนจะต้องเจอ
แน่นอนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ไม่อย ากเห็นลูกของตัวเองผิดหวังและเจ็ บป วด
หลายคนพย าย ามปกป้องลูกของตัวเองจากความรู้สึกนี้
ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะย าวของเด็ กคนนั้น ๆ วิ ธีที่เหมาะสมคือ ฝึกให้ลูกได้เผชิญความผิดหวัง
แต่อยู่ข้าง ๆ พวกเขา คอยแนะนำและให้กำลังใจในการจัดการกับความรู้สึก และปัญหาที่เกิดขึ้น
ขอบคุณที่มา : forlifeth