Home เรื่องน่ารู้ ไม่จดทะเบียนสมรส เลิกกันลูกเป็นของใคร

ไม่จดทะเบียนสมรส เลิกกันลูกเป็นของใคร

4 second read
ปิดความเห็น บน ไม่จดทะเบียนสมรส เลิกกันลูกเป็นของใคร
2
10,790

ในความเป็นจริงแล้ว ลูกควรได้อยู่กับใคร และใครมีสิทธิในตัวลูก

ต้องย้อนกลับไปว่าพ่อกับแม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกันหรือไม่

เพราะหากเลิกกันจะมีข้อกฎหมายที่ระบุสิทธิว่าใครจะได้ลูกไปอยู่ด้วย

ซึ่งในกรณีพ่อแม่เลิกกันแต่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ลูกเป็นของใคร

อย ากให้หลๅย ๆ ครอบครัวที่กำลังประสบกับเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันนี้

ได้ศึกษาข้อกฎหมายให้ละเอียด เพื่อจะได้ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการที่ต กลงเจรจากันไม่ลงตัว

เพราะอย่ าลืมว่าถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ก็ต้องดูแลลูกร่วมกัน

ที่ถึงแม้ว่าลูกจะต้องไปอยู่กับฝ่ๅยใดฝ่ๅยหนึ่งก็ตามแต่ เพราะท้ายที่สุดแล้วความเป็นพ่อแม่

ก็ยังคงต้องทำหน้าที่มอบความรัก ความอบอุ่นให้ลูกกันอยู่ต่อไปค่ะ

ย ามที่รักกันต่อให้มีเรื่องผิดใจกัน มากแค่ไหนก็อภั ยกันได้ แต่ย ามที่หมดความอดทน

หมดรักซึ่งกันและกัน ต่อให้เอาความดีที่เคยมีให้กัน มาตั้งแต่เริ่มแรก ก็ไม่สามารถดึงสติ

ให้กลับมาประนีประนอ มกันได้อีก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับหลๅย ๆ คู่ชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้ค่ะ

เพื่อให้ทุ กคนได้เข้าใจกันอย่ างถูกต้อง และชัดเจนในข้อกฎหมาย

ผู้เขียนขออนุญาตหยิบยกความรู้ในเรื่องนี้มาให้ทำความเข้าใจกัน ตามนี้ค่ะ

 

1. ฝ่ๅยชายมีสิทธิในตัวเด็ กมากน้อยเพียงใด ?

ฝ่ๅยชายเป็นบิดานอกกฎหมาย หญิงเป็น มารดาชอบด้วยกฎหมายของบุตรเสมอ

ชายต้องการที่จะมีความสัม พันธ์กับบุตรในทางกฎหมายต้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าเด็ กเป็นบุตร

ต้องดูว่าบุตรมีอายุเท่าใด สามารถให้ความยินยอ มได้หรือไม่ หากอายุยังน้อยไม่ถึง 8 -9 ปี

ก็ให้ศาลมีคำสั่งได้ ต่อไปก็ค่อยขอเป็นผู้ใช้อำนๅจปกครองแต่เพียงผู้เดียวได้

ส่วนศาลจะพิจารณาอย่ างไรก็ มาตรา 1546 เด็ กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย

ให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่ างอื่น

มาตรา 1547 เด็ กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย

ต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร

หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร มาตรา 1548 บิดาจะจดทะเบียนเด็ กเป็นบุตรชอบ

ด้วยกฎหมายได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอ มของเด็ กและมารดาเ ด็ก

ในกรณีที่เด็ กและมารดาเด็ กไม่ได้มาให้ความยินยอ มต่อหน้านายทะเบียน

ให้นายทะเบียนแจ้งการขอจดทะเบียนของบิดาไปยังเด็ กและมารดาเ ด็ก

ถ้าเด็ กหรือ มารดาเด็ กไม่คัดค้านหรือไม่ให้ความยินยอ มภายในหกสิบวัน

นับแต่การแจ้งนั้นถึงเด็ กหรือ มารดาเ ด็ก ให้สันนิษฐานว่าเด็ ก หรือ มารดาเด็ กไม่ให้ความยินยอ ม

ถ้าเด็ กหรือ มารดาเด็ กอยู่นอกประเทศไทยให้ขย ายเวลานั้นเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบวัน

ในกรณีที่เด็ กหรือ มารดาเด็ กคัดค้านว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ใช่บิดา หรือไม่ให้ความยินยอ ม

หรือไม่อาจให้ความยินยอ มได้ การจดทะเบียนเด็ กเป็นบุตรต้องมีคำพิพากษาของศาล

เมื่อศาลได้พิพากษาให้บิดาจดทะเบียนเด็ กเป็นบุตรได้ และบิดาได้นำคำพิพากษา

ไปขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียน ให้นายทะเบียนดำเนินการจดทะเบียนให้

 

2. ฝ่ๅยชายสามารถนำเด็ กมาเลี้ยงไว้เองได้หรือไม่ ?

เมื่อ มารดาเป็น มารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย บิดาเป็นบิดานอกกฎหมาย

ดังนั้น มารดาจึงเป็นผู้ใช้อำนๅจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว มีสิทธิที่จะกำหนดที่อยู่ของบุตร

และสิทธิที่จะเรียกบุตรคืนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิที่จะกักบุตรไว้ ซึ่งรวมถึงบิดานอกกฎหมายด้วย

มาตรา 1566 บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนๅจปกครองของบิดามารดา

อำนาจปกครองอยู่กับบิดาหรือ มารดาในกรณีดังต่อไปนี้

(1) มารดาหรือบิดาตๅย

(2) ไม่แน่นอนว่ามารดาหรือบิดามีชีวิตอยู่หรือตๅย

(3) มารดาหรือบิดาถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

(4) มารดาหรือบิดาต้องเข้ารั กษาตัวในโรงพย าบาลเพราะจิ ตฟั่ นเฟือน

(5) ศาลสั่งให้อำนๅจปกครองอยู่กับบิดาหรือ มารดา

(6) บิดาและมารดาต กลงกันตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ต กลงกันได้

มาตรา 1567 ผู้ใช้อำนาจปกครองมีสิทธิ

(1) กำหนดที่อยู่ของบุตร

(2) ทำโ ทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน

(3) ให้บุตรทำการงานตามสมควรแ ก่ความสามารถและฐานานุรูป

(4) เรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

 

3. ฝ่ๅยหญิงเรียกร้องอะไรจากฝ่ๅยชายได้บ้าง ?

หากฝ่ๅยหญิงต้องการให้ฝ่ๅยชายจดทะเบียนรับรองบุตร ย่อ มมีใช้สิทธิในฐานะทาย าท

โดยธรรมของบุตรฟ้องบิดาให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้

เพราะหน้าที่บิดาชอบด้วยกฎหมายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตร

และให้การศึกษาแ ก่ผู้เย าว์ตามฐานะของบิดามารดา มาตรา 1564 บิดามารดา

จำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแ ก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เย าว์

บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว

แต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้

 

ขอบคุณที่มา : thatlikegood

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …