1. พูดถึงเรื่องในอดีตที่ผิ ดพลาดของคนอื่น
การยกความผิ ดพลาดของคนอื่น ขึ้นมาพูดถึงซ้ำ ๆ ทั้งที่หากคิดโดยใช้หลักเหตุผล
ก็รู้ว่าพูดบ่อยไป ก็ไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่ างยิ่ง คือยกความผิ ดพลาดนั้นมาพูด
ต่อหน้าคนอื่น ๆ การกระทำแบบนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คนพูดดูเป็นคนจู้จี้ ขี้บ่น ยังถือเป็น
การบ่มเพาะทั้งความขุ่นเคืองและความอับอายให้แ ก่คนฟัง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อทั้ง
ความสัมพันธ์ และประสิทธิภาพในการทำงานอย่ างแน่นอน
2. พูดแ ช ร์ ความลับของอีกคนให้คนอื่นฟัง
ความไว้ใจไม่ใช่สิ่งที่ จะสร้างกันได้ในชั่ ว ข้ามคืน กว่าเราจะเปิดใจพูดเรื่องลับ ๆ หรือ
เรื่องที่ตัวเราไม่สบายใจและไม่อย ากให้คนอื่นรู้ให้ ‘ใครสักคน’ ฟังได้ก็ต้องมีความไว้ใจกัน
พอสมควรลองคิดดูว่าหากความลับ ที่ว่าถูกคนอื่นที่เราไม่ได้สนิทใจรู้เข้าจะรู้สึกแ ย่
แค่ไหนหากไม่อย ากเปลี่ยนจากคนดี ๆ เป็นคนแ ย่ ๆ ก็อย่ าเอาเรื่องที่คนอื่น
ไม่อย ากให้ใครรู้ไปพูดต่อ
3. พูดปัดความรับผิดชอบ
‘อ๋อ ฉันไม่รู้เรื่องนะ อีกคนต่างหาก ที่ดูแลจัดการเรื่องนี้’ การพูดปัดหรือโยนความ
รับผิดชอบ นอกจากจะกระทบไปถึง คนที่เราโยนความรับผิดชอบไปให้แล้ว ยังทำให้
ตัวเราถูกมองว่าข าดความน่าเชื่อถือและพึ่งพาไม่ได้ไปด้วย โดยเฉพาะหากความ
รับผิดชอบ นั้นเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่การของเรา
4. พูดเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน
ในระหว่างบทสนทนา เราควรตั้งใจฟังให้ดีด้วยว่า คนอื่นเขาพูดเรื่องที่คุยค้างอยู่
จบหรือยัง การตัดบทเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นกระทันหันนอกจากจะทำให้คนอื่น ๆ
เสี ยอ ารมณ์แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความไร้ก าลเทศะ และความไม่ใส่ใจผู้อื่นของเราด้วย
5. พูดถึงความจำเป็นของตัวเองฝ่ายเดียว
‘ทำเรื่องนี้ให้พี่หน่อย พี่ทำคนเดียว ไม่ไหวแล้ว ภาระพี่เยอะ’ ยกเอาความจำเป็น
ของตัวเองมาก่อน ชักแม่น้ำสามสิบแปดสาย เพื่อโยนภาระของตัวเองให้คนอื่น
การพูดจาทำนองนี้ อาจเรียกความเห็นใจได้ในระยะสั้น แต่หากทำจนเคยตัว
จะกลายเป็นน่าเอือมระอาไป ทุ กคนต่างมีภาระหน้าที่ เป็นของตัวเองทั้งนั้น
ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราและนึกถึงความจำเป็นของคนอื่นก่อนพูดด้วย
6. พูดเปรียบเทียบคนอื่นกับคนฟัง
เปรียบเทียบลูกตัวเอง กับลูกคนอื่นที่เรียนเก่งกว่า เทียบลูกน้องอีกคนกับลูกน้อง
ตัวเอง เปรียบเทียบคนอื่น กับแฟนตัวเอง จริงอยู่ที่คนเรามีความแต กต่างกัน แต่
ไม่ใช่ทุ กครั้งที่เราจะอย ากโดนเปรียบเทียบไม่ว่าคนพูดจะหวังดี อย ากพูดเพื่อ
เป็นแรงผลักดัน หรือพูดเพื่อกดคนอื่นลงต่ำ สุดท้าย แล้วหากพูดแบบนี้จนเป็นนิสัย
ไม่ว่ากรณีไหนก็ไม่น่าฟังอยู่ดี
ขอบคุณที่มา : staylifeth