ตามหลักที่เราเคยได้ยินมาถ้าหากต้องการให้ร่ างกายแข็งแรงควรทานอาหาร
ให้ครบสามมื้อและพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ทราบกันหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว
เราทานเพียงวันละสองมื้อก็เพียงพอ โดยให้งดทานข้าวเย็น
ก็จะทำให้ร่ างกายแข็งแรงได้เช่นกัน เนื่องจากในเวลาที่เรานอนนั้น
จะเป็นช่วงเวลาที่ร่ างกายเริ่มกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และฟื้นฟูอวั ยวะต่าง ๆ
หากเราทานหนักโดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้ อสัตว์ในมื้อเย็น จะย่อยย าก
นอกจากนี้แล้วพลังงานที่เราใช้ไม่หมดจากอาหารในมื้อ เช้า เที่ยง และเย็น
จะถูกนำไปเก็บในที่ต่าง ๆ ตามร่ างกายในรูปแบบไขมัน โดยที่ตับจะทำหน้าที่
เปลี่ยนพลังงานเป็นไขมันแทรกไว้ตามใต้ผิวหนัง และ ส่วนต่าง ๆ ในร่ างกาย
ถ้าหากเราใช้พลังงานน้อยเหลือพลังงานมากก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วน
และหากไขมันค้างและสะสมอยู่ตามหลอดโลหิตยิ่งสะสมมาก
ก็จะทำให้หลอดโลหิตอุดตัน ส่งผลให้โลหิตไม่สามารถไปเลี้ยงอวั ยวะอื่น ๆ
ตามร่ างกายได้ ทำให้อวั ยวะต่าง ๆ เสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือ แ ก่เร็วขึ้น นั่นเอง
การทานมื้อเย็นในปริมาณมากจึงเปรียบเสมือนเป็นการเร่งกระบวนการเสื่อมสภาพ
ของอวั ยวะทุ กส่วนในร่ างกาย ส่งผลให้ร่ างกายต้องใช้พลังงานอย่ างหนัก
ในการผลาญอาหารมื้อเย็น และมีเวลาน้อยลงในการไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ของร่ างกาย เปรียบเสมือนยิ่งเร่งให้ร่ างกายทำงานมากกว่าปกติ ส่งผลทำให้อายุสั้นลง
อาจมีคำถามว่าหากการเราไม่ทานมื้อเย็น แล้วถ้าหิวตอนดึก ๆ จะทำอย่ างไร
คำตอบ คือ การกินสายกลาง นั่นคือกินมื้อเช้า และ มื้อเที่ยง งดมื้อเย็น
โดยหากเปรียบตัวเราเป็นรถยนต์ เมื่อตื่นเช้ามาถังน้ำมันจะว่างเปล่า
เราต้องเติมน้ำมันก่อน นั่นคือการกินมื้อเช้า เมื่อกินมื้อเช้าแล้ว เราจะอยู่ได้ถึงเที่ยง
แต่น้ำมันยังไม่หมด หมายถึงพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไปในมื้อเช้ายังใช้ไม่หมด
และถูกเติมอีกครั้งตอนเที่ยง ก็อยู่ได้ถึงเย็น และ ถึงก่อนนอน แต่ที่เรารู้สึกหิวนั้น
เป็นเพราะ ความเคยชินมากกว่า ยกตัวอย่ างว่าเรากินไข่ต้ม 1 ฟอง
ให้พลังงาน 75-100 กิโลแคลอรี่ จะต้องวิ่งประมาณ 30 นาที ถ้ากินมื้อเช้า มื้อเที่ยง
จนถึงเย็น พลังงานยังเหลือแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปเติมอีก
วิ ธีฝึกการไม่กินมื้อเย็นมี ด้วยกัน 4 ขั้นตอน
1. ลดปริมาณอาหารมื้อเย็นทีละน้อย โดยที่เราสามารถเพิ่มประมาณมื้อเช้า และ เที่ยงได้
และเริ่มจากค่อย ๆ ลดปริมาณมื้อเย็นลงไปทีละน้อย เช่น เคยกิน 2 จาน ก็ลดเหลือ 1.5 จาน
พอร่ างกายชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับข้าว
ต่อไปกินผักผลไม้ สุดท้ายงดอาหารเย็น โดยหลัง 6 โมงเย็น
แล้วห้ามกินอาหารใด ๆ ทั้งนั้นยกเว้นน้ำเปล่า
2. ขยับเวลากินอาหารเย็น เช่น จาก 2 ทุ่มมากิน 1 ทุ่ม
ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ฯ
จนใกล้เคียงกับเวลามื้อเที่ยง แล้วก็ควบรวมเป็นมื้อเดียวกัน
3. เราสามารถกินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็นได้
โดยทานน้ำเต้าหู้แบบไม่ใส่น้ำตาลแล้วใส่เม็ดแมงลักแทน
4. นอนให้เร็วขึ้น หากนอนดึกแล้วหิว แล้วต้องมาหาอะไรกินตอนดึก ๆ
ก็พย าย ามปรับเปลี่ยนพฤติกร รมการนอน โดยเข้านอนให้เร็วขึ้น
หากใครที่ต้องการมีอายุยืน และต้องการให้ร่ างกายแข็งแรง
ก็สามารถเริ่มปรับเวลาในการทานอาหารได้เพื่อให้ร่ างกาย
ได้ใช้พลังงานอย่ างพอดี ไม่เหลือให้สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่ างกาย
ขอบคุณที่มา : postsod