Home เรื่องน่ารู้ ระวั งจะไม่เหลือใคร เพราะนิสัยของคุณเอง

ระวั งจะไม่เหลือใคร เพราะนิสัยของคุณเอง

4 second read
ปิดความเห็น บน ระวั งจะไม่เหลือใคร เพราะนิสัยของคุณเอง
0
257

1. ไม่เคยมองเห็นความผิ ดพลาดของตัวเอง

เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ อย า ก จะปกป้องตัวเองจากความรู้สึกผิดในทุ ก ๆ เรื่อง

เรื่องงานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ผิดคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นผม

คำกล่าวนี้จึงไม่เกินความเป็นจริงเลย

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในที่ทำงาน เรากลับไม่พิจารณาตนเองก่อน หรือไม่เห็นความผิ ดพลาดของตัวเอง

กลับโยนให้ทุ กอย่ างเป็นความผิดของคนอื่นหมด ลองพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นหนึ่งในคนแบบนี้หรือเปล่า

แก้ไขอย่ างไร

ไม่ต้องอายที่จะยอมรับความผิ ดพลาดของตัวเองอย่ างเต็มภาคภูมิ คนเราย่อมมีการผิ ดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา

การยอมรับผิด และพร้อมที่จะหาทางแก้ไขปัญหาไม่โ ทษผู้อื่นไม่เพียงแต่จะช่วยให้เพื่อนร่วมงานชอบเรามากขึ้น

แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและความซื่อตรงให้กับตัวเราเองได้อีกด้วย แต่แน่นอนว่าเราเองก็ต้องเรียนรู้จากความผิ ดพลาดนั้น

และ พย าย าม พัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้ความผิ ดพลาดเกิดขึ้นอีก

 

2. ไม่เข้าสังคม

แน่นอนว่าเมื่อเราตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานในองค์กร เราต้องได้พบเจอและทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมแผนก

หรือแม้กระทั่งต่างแผนก การเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงานยุคปัจจุบัน

เนื่องจากไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในตำแหน่งไหน เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นทีมได้

หากเราเป็นคนที่ไม่เข้าสังคม คิดแต่ที่จะอยู่กับตัวเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับส่วนรวมเท่าไร

คงเป็นการอย ากที่เพื่อนร่วมงานของเราจะประทับใจในตัวเราได้

แก้ไขอย่ างไร

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่ว่าเราจะมีโลกส่วนตัวขนาดไหน การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่ข าดไม่ได้

ลองพย าย ามที่ตอบต กลงเวลามีใครชวนไปกินข้าวกลางวันหรือนั่งพูดคุยหลังเลิกงาน

สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีไม่น้อยในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น

 

3. ไม่เคยหยุดนินทา

การนินทาไม่เคยเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นการนินทาเรื่องอะไร หรือนินทาใคร

นอกจากจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีแล้ว มันยังทำให้ความน่าเชื่อถือของตัวเราลดลงไปมาก

อีกทั้งเพื่อนร่วมงานก็จะไม่ให้ความไว้วางใจที่จะพูดคุยหรือปรึกษาอะไรอีกด้วย

การนินทาอาจเป็นเรื่องที่สนุกสนานที่เราอาจจะทำได้ในบางเวลา

แต่มันสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานของเราไม่ชอบเราได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน

แก้ไขอย่ างไร

เลิกนินทาคนอื่นเถอะถ้าสามารถทำได้ หรือถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนที่นินทาคนอื่นอยู่แล้ว

จะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าเราสามารถพาตัวเองออกจากกลุ่มนินทาประจำออฟฟิศ วิ ธีง่าย ๆ

คือการเปลี่ยนบทสนทนาในกลุ่ม หรือขอตัวออกมาจากวงสนทนานั้น

 

4. วิจารณ์ทุ กอย่ าง

การที่เราแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เป็นการกระทำที่ไม่ได้ผิดอะไร

แต่การวิจารณ์หรือตำหนิไปทุ ก ๆ อย่ าง ไม่ว่าจะเป็นงาน โปรเจกต์ต่าง ๆ

หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนร่วมงานแล้ว

ยังอาจเกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างทีมได้อีกด้วย

แก้ไขอย่ างไร

พย าย าม บ่นให้น้อยลง เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เราควรจะมองหาวิ ธีแก้ปัญหามากกว่าที่จะบ่นเกี่ยวกับมันไปเรื่อย ๆ

โดยไม่ พย าย าม แก้ไขอะไร และถ้าหากว่าเราไม่มีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ

ที่เป็นไปในองค์กรหรือในตำแหน่งหน้าที่ของเราสิ่งที่เราควรทำคือ พย าย ามหาทางแก้ไขสิ่งนั้น

 

5. ไม่เคารพพื้นที่ หรือเวลาส่วนตัวของคนอื่น

การทำงานอย่ างมืออาชีพได้นั้น เราต้องรู้จักพื้นที่ส่วนตัว และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมองค์กร

รวมไปถึงหัวหน้าด้วย ถึงแม้ว่าตัวเราเองอาจไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร

แต่การก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัว หรือเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่ างยิ่ง

เพราะนอกจากจะรบกวนเพื่อนร่วมงานแล้ว เรายังแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความไม่มืออาชีพของเราเองด้วย

แก้ไขอย่ างไร

เรียนรู้ที่จะเคารพพื้นที่และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน อย่ าคาดหวังว่าคนอื่น ๆ

จะทิ้งทุ กอย่ างเพื่อมาให้ความช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลา เราควรจะเอาใจเขา มาใส่ใจเรา

และรู้จักก าลเทศะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปพูดคุย ขอความช่วยเหลือ รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ อย่ าง

การส่งเสี ยงดังในที่ทำงาน นั่นก็ถือเป็นการไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นเช่นกัน

 

6. คิดแต่ที่จะทำให้ตัวเองโดดเด่น

ไม่ว่าเราหรือใครก็อย ากโดดเด่นเป็นที่จับตามองโดยเฉพาะในเรื่องหน้าที่การงาน

การทำตัวเองให้โดดเด่นเฉิดฉายเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว

ก็ยังส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพด้วย แต่การที่เราพย าย ามมากเกินไปถึงขั้นขโ มยสปอตไลท์จากคนอื่น

เอาความดีความชอบมาเป็นของตนเองคนเดียวย่อมไม่มีใครเห็นดีเห็นงามด้วยแน่นอน

แก้ไขอย่ างไร

หากผลงานชิ้นนั้นเป็นสิ่งที่เราทำการที่เราจะนำความดีความชอบนั้นมาเป็นของเราย่อมไม่ใช่สิ่งผิด

แต่หากผลงานชิ้นนั้นมีการร่วมงานกับเพื่อนพนักงานคนอื่นหรืออาจจะเป็นลูกน้องของตัวเราเอง

การให้เครดิต กับคนเหล่านี้ด้วยเป็นสิ่งที่ควรทำอย่ างที่เราเองต้องการความโดดเด่นผู้อื่นก็คงต้องการไม่ต่างจากเรา

ซึ่งการให้เครดิตผู้อื่นเป็นการแสดงออกให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับทีม

เราให้การยอมรับในผลงานและฝีมือของพวกเขาสร้างให้พวกเขาเองเกิดความภาคภูมิใจ

และเป็นการซื้อใจเพื่อนร่วมงานในอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน

 

ขอบคุณที่มา : jingjingna

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …