การบรรลุธรรมในพ ระพุทธศ า สน านั้น ไม่ใช่ของย าก เป็นสิ่งที่คนธรรมดา ชาวบ้านธรรมดา สามารถเข้าถึงได้ อย่ าคิดว่าเป็นของไกลตัว อย่ าคิดว่าต้องบวชเป็นพ ระถึงจะทำ อย่ าคิดว่าแ ก่มาค่อยปฏิบัติธรรม แบบนี้ยังถือว่าประมาทในชีวิตอยู่
ผู้เข้ากระแสพ ระนิพพาน คือ พ ระโสดาบัน ขึ้นไป ท่านผู้นั้นบาปเก่าทั้งหมดตามไม่ทัน ไม่สามารถถูกลงโ ทษได้ แล้วก็ท่านผู้นั้นจะไม่มีการต กน ร ก ไม่เกิดเป็นเปรต เป็นอ สุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานอีกต่อไป
ทุ กชาติที่เกิด จะวนเวียนเฉพาะเป็นมนุษย์ เทวดากับพรหม และต่อไปถ้ากำลังใจเต็ม ไม่สนใจร่าง กาย ไม่สนใจเทวดา พรหม ก็ไปนิพพาน ซึ่งผู้ที่จะบรรลุพร ะโสดาบัน ต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. ระงับความพอใจในขันธ์ 5 เ สี ย เป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ทุ กลมหายใจเข้าออกไม่ลืมความต าย เราจะต ายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ได้ รู้เพียงแค่ว่าเราต้องต ายแน่ เป็นทั้งสมาธิและวิปัสสนารวมกัน เป็นการตัดสังโยชน์ข้อ 1 สักกายทิฏฐิ
2. ตัดวิจิกิจฉา โดยการน้อมใจเคารพในคุณพ ระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการ คือ ทรงพ ระก รรมฐาน 3 ให้เป็นฌาน (พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ) ให้ทรงตัว
3. ทรงศีลให้บริสุทธิ์ ควรทำเป็นสีลานุสสติก รรมฐาน ทรงศีลให้เป็นกำลังฌาน คือ ทรงอ ารมณ์อยู่ในศีลตลอดวันตลอดคืน ไม่ยอมให้ศีลบกพร่องทางใจ
ไม่ใช่ต้องไปนั่งหลับตาปี๋ ให้ลืมตา ทำงาน คุยกับหมากับแมว หรือเจอะหน้าคนด่า คนนินทา ศีลเราทรงตัวไม่หวั่นไหวก็ใช้ได้ เป็นการตัดสังโยชน์ ข้อ 3 สีลัพพตปรามาส
4. ตัดสินใจทำความดีทุ กอย่ าง เพื่อพ ระนิพพานในชาตินี้ ไม่ต้องการเกิดเป็นคนร วย สวย แข็ง แรง ไม่ต้องการเกิดเป็นเทพ เทวดา พรหม กำลังใจมุ่งพ ระนิพพาน เป็นอุปสมานุสสติก ร รมฐาน
การที่จะหลีกหนีบ าปก รรมชั่ วหรือน ร กได้ ก็ต้องปฏิบัติให้ได้ทั้ง 4 ข้อนี้ หรือตัดสังโยชน์ 3 ประการได้ ท่านให้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าสู่กระแสพ ระนิพพาน
ขอบคุณที่มา : ธ ร ร ม ะ ส วั ส ดี