เจ้าของฟาร์มแห่งหนึ่ง เขาได้เลี้ยงสัตว์หลายชนิด และยังเลี้ยงสุนัขไว้ตัวนึง เพื่อเอาไว้เฝ้าบ้านและกันขโ มย
แต่สุนัขตัวนี้ชอบเอาแต่ใจ เวลาที่ไม่พอใจอะไร ก็มักจะไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง
มีอยู่วันหนึ่งที่มันกินข้าวไม่อิ่ม เพราะเจ้าของให้ข้าวมันน้อยเกินไป มันจึงได้บอกกับแพะว่า
“คืนนี้ฉันจะไม่เฝ้าบ้านให้เขาหรอก เพราะฉันกินข้าวไม่อิ่ม”
แพะจึงตอบกลับว่า “ถ้าเธอไม่อิ่ม ก็ค่อยกินอีกพรุ่งนี้ก็ได้ แต่เธอมีหน้าที่เฝ้าบ้าน เธอก็ต้องทำหน้าที่ของเธอนะ”
แต่สุนัขกลับไม่สนใจคำพูดของแพะ และยืนยันคำเดิมว่า “ยังไงฉันก็จะไม่เห่า”
เมื่อแพะเห็นว่า ยังไงก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมสุนัขได้ จึงได้บอกไปว่า “ถ้าเธอไม่เห่า งั้นฉันจะเห่าให้เอง”
พอต กกลางคืน ก็มีโ จรพย าย ามที่จะเข้ามาขโ มยของภายในบ้าน สุนัขเห็นก็ไม่คิดจะเห่าหรือส่งเสี ยงอะไร
แพะจึงได้ส่งเสี ยงออกไป แบ๊ะ ๆ แบ๊ะ ๆ แล้วโ จรก็กลับออกไป
เมื่อเจ้าของบ้านลงมาดู ก็ไม่เห็นความผิดปกติ จึงกลับขึ้นไปนอนบนบ้านต่อ
แต่ในขณะที่กำลังจะหลับ โ จรก็กลับเข้ามาอีกครั้ง แล้วแพะก็ส่งเ สียงอีก
ทำให้เจ้าของบ้านต กใจตื่น และได้ลงมาดูอีกรอบ แต่ก็ยังไม่พบอะไร
เป็นอยู่แบบนี้หลายครั้ง จนเจ้าของบ้านทนไม่ไหว ด้วยความโมโห จึงได้เอาไม้มาตีใส่แพะ
สุดท้ายแพะกลายเป็นคนผิดไปซะอย่ างงั้น ทั้ง ๆ ที่แพะไปทำหน้าที่แทนสุนัข
ที่งอนเจ้าของบ้านจนไม่ยอมเห่า ไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเอง
เรื่องราวแบบนี้มันจะมีให้เห็นบ่อย ๆ ในสังคมที่ทำงาน หลายครั้งที่คนนั้นไม่พอใจคนนนี้ คนนี้ไม่ชอบคนโน่น
ต่างคนต่างอย ากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จนหลงลืม ละเลยหน้าที่ของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนอื่นต้องมาทำแทน
แต่เมื่อเกิดข้อผิ ดพลาดอะไรขึ้น คนที่เข้ามาช่วยเหลือกลับต้องกลายเป็นคนผิดไปซะเฉย ๆ ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นเลย
การอยู่ร่วมกันหลายคน ย่อมต้องมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขอยู่เสมอ แต่เราครวจะใจเย็นและใช้เหตุผลในการทำงานร่วมกัน
ที่สำคัญอย่ าละเลยที่จะทำหน้าที่ของตัวเองอย่ างเต็มที่ อย่ าต้องให้ใครมารับผิดชอบแทน จนสุดท้ายเมื่องานมีปัญหา
ก็โยนให้เป็นคนผิด แล้วแบบนี้ถ้าเรามีปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ ใครจะกล้ายื่นมือเข้ามาช่วย
ขอบคุณที่มา : bitcoretech