วันหนึ่งผู้เขียนกำลังพิมพ์ต้นฉบับหนังสือทำวัตรสวดมนต์ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หันไปหน้ากุฏิเห็นอาจารย์หนุ่มคนหนึ่งซึ่งคุ้นเคยกันมานาน หน้าตาแสดงออกถึงริ้วรอยที่ผ่ านความเศร้าโศก
“มีอะไรหรือ” ผู้เขียนเอ่ยถาม
“คุณพ่อผมเ สียแล้วครับ”
“หา.. เฮ้ย” คำพูดบ่งบอกถึงความมึนงงสงสัย และต กใจ
“ครับ เร็วมากครับ ผมเองก็ต กใจ” เ สียงสุภาพแผ่วเบา
“คุณแม่ให้ผมมานิมนต์ท่านไปโรงพย าบาล ถ้าท่านว่างนะครับ”
เ สียงอาจารย์หนุ่มรำพึงรำพัน ขณะทำหน้าที่เป็นส ารถี “คุณพ่อจากไปเร็วมาก จนผมทำใจไม่ได้”
สำหรับคนที่เรารัก การจากไปของเขามักเร็วเกินไปเสมอ แต่สำหรับคนที่เกลียดชัง กลับช้าเกินไป อะไรคือความพอดี
“เคยคิดว่าจะหาเวลาว่างคุยกับพ่อบ้าง ผมก็มัวแต่ยุ่งเรื่องเรียนต่อ ก็มักจะไม่ได้ทำเ สียที นึกแล้วอดเ สียใจไม่ได้”
คนส่วนมากเมื่อถึงเวลาที่ต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก ก็มักจะคำนึงถึงสิ่งที่ไม่สามารถหวนคืนมาได้ ผู้เขียนก็ได้แต่เ ตือนสติเท่าที่พอจะนึกออกในขณะนั้น
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน
ขณะผู้เขียนยังพำนักอยู่อีกวัดหนึ่ง เ สียงกริ่งโทรศัพท์จากคุณครูปฏิรัก ปลุกให้ผู้เขียนตื่นจากภวังค์ หลังวางหูโทรศัพท์ ก็รีบเดินทางไปยังห้องไอซียู โรงพย าบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิ ษณุโลก
ภาพที่ปรากฎบนเตียงคือ คุณครูศุภวัฒน์ ผู้เป็นสามีของคุณครูปฏิรัก นอนนิ่งสงบอยู่ท่ามกลางเครื่องมือแพทย์ระโยงระย างเต็มไปหมด
“เขาเป็นอย่ างนี้ตั้งแต่ที่บ้านแล้วค่ะ พูดกับเราไม่ได้ แต่โยมรู้ว่าเขารับรู้ได้ เพราะหนังตาเขากระตุ กทุ กครั้งที่โยมพูดด้วย เขาเครียดกับงานซึ่งเยอะมากจนเส้นเลือ ดในส ม องแต ก หมอบอกว่าอยู่กับไปพอ ๆ กัน” คุณครูปฏิรักพูดเ สียงสั่นเครือ
ผู้เขียนมึนงงกับภาพที่เห็น ได้แต่พูดให้ผู้ป่ วยฟังตามที่นึกออกในขณะนั้น “อาตมาจะสวดมนต์ให้ฟัง โยมอย่ ากังวลกับเรื่องอื่นนะ ขอให้ตั้งสติอยู่ที่เ สียงอาตมา หากสวดได้ก็น้อมจิตนึกตาม ทำใจให้สบายนะ”
หลังจากนั้น ในห้องไอซียูซึ่งมีพย าบาลประจำเคาน์เตอร์หน้าห้อง มายืนมองดูอยู่ด้วยความพิศวง แล้วเ สียงสาธย ายมนต์ก็ดังขึ้น “อิติปิโส ภะคะวา.. อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ”
ผู้เขียนสวดบทสรรเสริญพ ร ะพุทธคุณ พ ร ะธรรมคุณ พ ร ะสังฆคุณ 108 จบ จนเ สียงแหบแห้งโดยมิได้หวังผลใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ทำด้วยจิตอันศรัทธาเต็มเปี่ยม
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์
ผู้เขียนก็เห็นคุณครูศุภวัฒน์ มาปรากฏตัวที่วัดอีกครั้ง โดยมีภรรย าและลูกชายประคองมากราบ ความต า ยให้โอกาสผู้ชายคนนี้ แล้วเขาก็รีบคว้าโอกาสท อ งไว้ ที่เคยเชื่อว่าชีวิตหลังความต า ยไม่มีอยู่จริง ก็เปลี่ยนไป
คุณครูศุภวัฒน์หันมาฝึกฝนพัฒนาตนเอง ตักบาตร ทำบุญ สวดมนต์ เจริญภาวนาทั้งสมถะและวิปัสสนา รัก ษาศีล 5 และศีลอุโบสถมาตั้งแต่นั้น เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังความต า ยตลอดเวลา 7 ปีที่เหลืออยู่
จวบจนวันนี้ เมื่ออาตมามายืนอยู่ที่ห้องไอซียูห้องเดิม โรงพย าบาลเดิม แต่เหตุการณ์ไม่เหมือนเดิม ไม่มีแม้กระทั่งหนังตาที่กระตุก มีแต่ร่าง กายที่ปราศจากวิ ญญ าณ ความต า ยไม่ให้โอกาสคุณครูศุภวัฒน์ ในวัย 62 ปีอีกแล้ว
ผู้เขียนได้แต่บริก ร ร มในใจว่า “อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน อุปปัชชิตะวา นิรชณันติ เตสัง วูปะสะโม สุโข.. สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีการเกิดขึ้นและดับไปเป็นธรรมดา การสงบระงับสังขารเหล่านั้นได้ เป็นความสุข”
“ประมาณเที่ยงกว่า ๆ ขณะที่ขับรถอยู่บนถนนเพื่อกลับบ้าน หลังจากไปซื้อของและเบิกเ งิ นที่ธนาคาร เพื่อนำไปทำบุญหนังสือพุทธมนต์กับท่านวันมะรืนนี้ จู่ ๆ พี่เขาก็ปลดเกียร์ว่าง ดึงเบรกมือ
โยมได้ยินเ สียงอึกอักในลำคอจึงหันไปดู เห็นเขาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรกับโยม แต่พูดไม่ออก โยมต กใจ เ สียงเขาเงียบไป โยมรีบเปิดประตูเรียกคนจากรถคันอื่นมาช่วย พอมาถึงโรงพย าบาล ก็ไม่ทันแล้ว
หมอบอกว่า “พี่เขาเ สียตั้งแต่อยู่บนรถแล้วค่ะ” คุณครูปฏิรักเล่าให้ผู้เขียนฟังทั้งน้ำตา แต่ไม่ฟูมฟายเหมือนคนอื่น ๆ ที่เ สียบุคคลอันเป็นที่รักไป ความต ายมักทิ้งร่องรอยแห่งความทุ กข์ ความเศร้าโศกไว้กับผู้อยู่เบื้องหลังเสมอ
บทเรียนนี้แรงและเร็วเหลือเกินกับทุ กคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เป็นบทเรียนธรรมดาสำหรับโลก และสำหรับคนที่ฝึกจิตมาดีเเล้ว เกิดก็เป็นทุ กข์ แ ก่ก็เป็นทุ กข์ เ จ็ บก็เป็นทุ กข์ ต ายก็เป็นทุ กข์ พลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุ กข์ ประสบกับสิ่งที่ชังก็เป็นทุ กข์
พุทธพจน์เหล่านี้จึงเป็นสัจธรรมเสมอ แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจพุทธวจนะที่ทรงสรุปว่า การยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 (ว่าเป็นตัวกู ของกู) เป็นยอดแห่งทุ กข์ ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ต าย หรือคนที่ยังแข็ง แรงอยู่ เมื่อไรก็ตามที่ยังหลงว่ามีตัวตนอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะทุ กข์ไปกับความต ายนั้น
ผู้เขียนมั่นใจว่า คุณครูศุภวัฒน์จากไปในขณะที่ยังมีสติอย่ างเต็มเปี่ยม เพราะในชั่ วอึดใจนั้น ยังสามารถปลดเกียร์ว่าง ดึงเบรกมือได้ทัน
คุณครูศุภวัฒน์ เป็นครูมาตลอดทั้งชีวิต และแม้จากโลกนี้ไปแล้ว ยังเป็นครูสอนทุ กคนที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า “ตราบใดที่ความต าย ยังให้โอกาสอยู่ อย่ าประมาทนะ”
ขอบคุณที่มา : ธ ร ร ม ะ ส วั ส ดี