1.ขี้เกียจทำงานบ้าน ให้ลูกรู้จักพึ่งตัวเอง
อย่ าเป็นพ่อแม่ที่แสนดี เก็บกวาดให้ลูกทุ กอย่ าง อย่ างเช่น ของเล่นที่เขาเล่น เมื่อเล่นเสร็จแค่บอกให้เขาเก็บเข้าที่ก็พอ
ไม่ต้องเก็บให้ ต้องหัดให้เขาทำงานบ้าน ช่วยงานบ้านพ่อแม่บ้าน เพื่อสอนให้เขามีความรับผิดชอบตั้งแต่ยังเล็ก
เราแค่ทำเป็นตัวอย่ างให้เขาเห็น เช่น พื้นที่ส่วนรวมของบ้านอย่ างห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร
เมื่อเขาเห็นว่าพื้นที่ส่วนกลางสะอาด เขาก็จะรู้สึกอย ากเก็บกวาดห้องนอนของเขาเองเช่นกัน
เมื่อพ่อแม่รู้จักขี้เกียจขยับทำงานบ้านให้ลูก จะทำให้เขาฝึกนิสัยความเป็นระเบียบ และพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น
รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาได้ใช้ร่วมกัน เมื่อโตขึ้นเขาก็จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
และรู้จักหน้าที่ของตัวเองโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาบอก
2. ขี้เกียจบ่น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ได้เอง
พ่อแม่หลายคนมักมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป อย่ างการรับปากอะไรกับลูกสักอย่ าง เพื่อให้ผ่ าน ๆ ไปก่อน
แต่ไม่คิดที่จะทำตามที่พูดจริง ๆ จะยิ่งส่งผลให้ลูกไม่เชื่อในคำพูด เพราะไม่รั กษาคำพูด
พ่อแม่ที่สร้างความน่าเชื่อถือ เวลาจะสอนหรือบอกอะไรลูก ก็จะทำให้ลูกเชื่อฟังได้ง่ายกว่า
ตัวอย่ างเช่น บ้านหลังหนึ่งที่คุณแม่ถามลูกว่าจะเล่นเกมถึงกี่โมง? ลูกบอกว่าขออีก 30 นาที
แล้วเมื่อถึงเวลาแม่เดินมาดู ลูกก็ยังนั่งเล่นเกมอยู่เหมือนเดิม แม่ก็รู้สึกไม่พอใจแต่ไม่ได้บ่นอะไร
แต่ใช้คำพูดที่ทำให้ลูกคิดเอาเอง โดยบอกไปว่า “ปกติลูกเป็นคนรั กษาคำพูดไม่ใช่หรอ?
“ด้วยคำพูดประโยคนั้นทำให้ลูกรีบออกจากเกม และไปทำการบ้านทันที
นั่นเพราะคุณแม่คนนี้เป็นคนที่รั กษาคำพูดกับลูกทุ กครั้ง เมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำให้ได้
และสิ่งนี้จะสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองด้วยเช่นกัน การที่เราใช้เหตุผลคุยกับลูก
แทนที่จะใช้อ ารมณ์ หรือดุด่ าต่อว่า จะทำให้ลูกสร้างจิตสำนึกด้วยตัวเองว่าควรทำอะไร
และลูกจะรู้สึกว่าต้องให้ความสำคัญกับคำพูดที่พูดไว้ หรือรับปากใครไว้ก็ต้องทำให้ได้
3. ขี้เกียจช่วยลูกทำการบ้าน
คุณแม่ท่านหนึ่งเล่าว่า เธอไม่เคยช่วยลูกทำการบ้านเลยสักครั้ง เธอจะบอกลูกแค่ว่าต้องทำเวลาไหน
และเมื่อทำเสร็จให้มาบอกเธอ แต่เธอจะไม่ตรวจการบ้านให้ลูก ซึ่งลูกก็คิดว่า
แม่เป็นคนขี้เกียจจัง เพราะแม่คนอื่นจะตรวจการบ้านให้ลูกตัวเองกัน บางคนถึงขนาดช่วยทำให้ด้วยก็มี
เธอจึงได้อธิบายถึงเหตุผลที่ไม่ช่วยสอนการบ้านให้ลูกว่า “แม่ไม่ได้ขี้เกียจหรอกนะ
แต่แม่กำลังสอนให้ลูกฝึกตรวจสอบความถูกต้องเอง จะได้รู้ว่าผิดตรงไหน
เพราะเวลาเข้าห้องสอบไม่มีใครมาช่วยลูกตรวจคำตอบให้หรอกนะ “
การขี้เกียจช่วยลูกทำการบ้าน จะให้ทำลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง
และรู้จักที่จะพึ่งพาตัวเองก่อนที่จะขอความช่วยเหลือคนอื่นเสมอ
พย าย ามให้ได้ที่สุดก่อน และทำให้ลูกสามารถมีความคิดเองได้อย่ างอิสระ
โดยที่พ่อแม่ก็ยังคงคอยแสดงความเป็นห่วงอยู่ห่าง ๆ
ช่วยเหลือเวลาที่เขาได้พย าย ามเต็มที่แล้วและต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ
พ่อแม่บางคนก็เป็นพ่อแม่ที่แสนดีมากเกินไป จนไม่รู้ว่าบางครั้ง เรากำลังทำร้า ย เขาทางอ้อม
การกลัวลูกจะลำบาก กลัวลูกจะทำไม่ได้ จึงทำให้หมดทุ กอย่ าง
ช่วยเหลือทุ กครั้งไปแม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ความล้ มเหลว
ความผิ ดพลาดด้วยตัวเอง จะทำให้ลูกไม่มีภูมิคุ้มกัน และไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้
แต่คุณต้องคิดไว้เสมอ ว่าเราไม่สามารถอยู่ดูแลลูกไปได้ตลอดชีวิตของเขา ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด
คือการให้เขาได้เรียนรู้ ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ให้เขาได้เติบโตเองอย่ างเข็มแข็ง
เราเพียงแค่คอยให้คำแนะนำและกำลังใจอยู่ห่าง ๆ ก็พอ
ขอบคุณที่มา : bitcoretech