1. “แค่มีงานทำ” ไม่ใช่ความมั่นคงในชีวิตเสมอไป
ค่ า นิ ยมของคนรุ่นก่อน ๆ หลายคนอาจจะชอบมองว่า “การมีงานทำ” คือความมั่นคงและความสำเร็จในชีวิต
เชื่อว่าต้องตั้งใจเรียนเพื่อโตมาจะได้ทำงานในบริษัทที่มั่นคง ได้สวัสดิการที่ดี มีเงิ นใช้ในบั้นปลายชีวิต
บางคนก็เลือกทำงานที่เงิ นเดือนน้อยหน่อยแต่มีเ งินบำนาญตอนแ ก่ หรือยอมทนทำงานจนหัวแทบร ะ เ บิ ด
เพื่อรอเลื่อนตำแหน่งโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่..
แต่เด็ กรุ่นใหม่ไม่คิดแบบนั้น เขาโตมาในยุคของเทคโนโลยี ที่ทุ กอย่ างสะดวก และรวดเร็วไปหมด
ดังนั้นเด็ กรุ่นใหม่หลายคนจึงเป็นคนไม่ชอบรอ อย ากเห็นผ ล ลั พ ธ์ ของสิ่งที่ทำให้ไวที่สุด
พวกเขาจะมองว่าต้องทำยังไงถึงจะทำเงิ นได้เร็วที่สุด ต้องหารายได้จากทางไหนเพื่อมาซื้อความสะดวกสบายให้ชีวิตได้มากที่สุด
และถ้าเจอสังคมทำงานแ ย่ ๆ พวกเขาก็อาจไม่ลังเลที่จะ “ลาออก” เพราะไม่ได้คิดว่า…การลาออกคือ ความล้ มเหลวในชีวิต
2. งานที่คิดไว้ ไม่เหมือนกับงานที่ได้ทำจริง
ก่อนจะทำงานที่หนึ่งเป็นธรรมดาที่เราต้องพิจ า ร ณ า
ภ าพ ลักษณ์ขององค์กร หน้าที่ความรับผิดชอบ เงิ นเดือน รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ
ที่บอกในหน้าประก าศงาน หรือจากการสัมภาษณ์
แต่เมื่อเข้ามาทำงานจริงแล้ว มีหลายครั้งที่พวกเขากลับพบว่า…มันคือหนั ง คนละม้ ว น
ใน J o b De s c r i p t i on บอกหน้าที่ความรับผิดชอบเท่านี้ แต่พอทำจริงงานที่ไหนไม่รู้เพิ่มมาเต็มไปหมด
เงิ นเดือนที่เคยขอไว้ก็ไม่สัมพันธ์กับหน้าที่ที่ต้องทำ สวัสดิการที่บอกว่ามีก็ไม่มีเหมือนที่บอก
ให้ทำงานเกินเวลาแต่ก็ดันไม่ได้โอที พูดง่าย ๆ คือหลายอย่ างไม่ใช่แบบที่เห็น หรือต กลงกันเอาไว้ในตอนแรก
ถ้าเจอบริษัทแบบนี้พวกเขาก็เลือกที่จะไปดีกว่า
3. เชื่อว่าถ้ามีความสามารถ ก็มีทางเลือก
เด็ ก ๆ สมัยนี้เรียกได้ว่ามีความสามารถมากมาย
ทางเลือกในการเรียนไม่ว่าจะรับดับปริญญา
เรียนต่อต่างประเทศ ลงคอ ร์ ส เรียนที่สนใจแบบระยะสั้น
หรือเรียนคอร์สเรียนออนไลน์ บางคนมีศัก ย ภ าพสูงมากจนมั่นใจว่า.. ตัวเองมีความสามารถมากพอ
มีทางเลือกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า ดังนั้น
ถ้าเจอหนทางและแนวทางที่ดีกว่า เขาก็ต้องเลือกทางที่ดีกว่าเป็นธรรมดา
เพราะพวกเขาคิดว่าการค้นหางานที่ใช่ไปเรื่อย ๆ น่าจะดีกว่าทนอยู่กับงานที่ไม่ใช่ไปจนแ ก่
และอาจจะด้วยความที่เติบโตมาท่ามกลางเทคโนโลยีที่หมุ น เร็ว ไม่หยุดอยู่กับที่ ทุ กอย่ างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
พวกเขาจึงไม่กลั ว กับความเปลี่ยนแปลง และกล้าที่จะแต กต่าง
4. การทำงานอยู่ที่เดิมนาน ๆ เงิ นเดือนขึ้นไม่เท่าเปลี่ยนงาน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า… เด็ กรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนงานมากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ มาก
ซึ่งเขามองว่าใคร ๆ ก็อย ากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
ดังนั้นเขาจะอยู่ต่อก็ต่อเมื่อบริษัทให้ค่ า จ้างคุ้มค่า
กับงานที่ทำ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เงิ นเดือนไม่สมเห ตุสมผลกับงานที่ทำ
พวกเขาก็พร้อมออกถ้าได้รับข้อเสนอจากที่ใหม่ที่ดีกว่า อีกทั้งการปรับขึ้นของเงิ นเดือนตามมาตรฐานของบริษัท
เพิ่มขึ้นไม่เยอะเท่าการย้ายงานที่เงิ นเดือนขึ้นได้อย่ างก้าวกระโดด
อย่ างที่บอกว่าเด็ กรุ่นใหม่เป็นประเภทไม่ชอบรอ… รวมถึงชอบการท้าทายตัวเองด้วย
พวกเขามองเงิ นเดือนเท่ากับความสามารถ คนเก่งก็ต้องได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับความสามารถถึงจะถูก
5. มีงานอื่นที่สร้างเงิ นได้ไม่น้อยกว่า “งานประจำ..”
เด็ กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแคร์ว่าต้องทำงานที่มีหน้ามีตาในสังคม ตำแหน่งหน้าที่สูง ๆ
หรือต้องรับราชการเหมือนที่คนรุ่นก่อน ๆ คิด
พวกเขามองว่าไม่ว่าจะทำงานอะไร ถ้าสุดท้ายแล้ว
ผ ล ลั พ ธ์ มันทำเงิ นได้ไม่ต่างกันก็ถือว่าประสบความสำเร็จได้ ซึ่งปัจจุบันนี้โลกการทำงานนั้นเปิดกว้างมาก
สมัยนี้มีช่องทางการทำเงิ นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน F r e e l a nce ทำธุรกิจส่วนตัว
อย่ างเช่นการขายของออนไลน์ที่ทำง่าย แถมสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ การเป็น Co n t e nt C r e a t or
รวมถึงการเล่นหุ้ น หรือการเท ร ด สกุ ล เ งิ น ดิ จิ ทั ล
ที่ทำได้ผ่ านแอปฯ มือถือ ก็สามารถสร้างเงิ นได้จำนวนมาก แถมทำได้ไม่ย ากเลย
ขอบคุณที่มา : chayend